xs
xsm
sm
md
lg

“เทพเทือก” คิดจะทำคุณไถ่บาป ต้องสลัด “สันดานนักการเมือง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รายงานการเมือง


สลัดผ้าเหลืองออกมาก็ลุยงานการเมือง ไม่มีสงบเสงี่ยมสำรวมทั้งที่บวชมาเป็นปี “ทิดเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย อ้างว่า จะทำหน้าที่ส่งข้อเสนอเรื่องปฏิรูปไปให้รัฐบาล พร้อมตีธงยกก้นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กันเลยว่าจะต้องปฏิรูปให้เสร็จก่อนการเลือกตั้ง แถมไม่กำหนดเวลา !!!

เสมือนขันอาสาเป็นหนังหน้าไฟ ต่อท่ออำนาจให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ทำนองเดียวกับแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) รับจ๊อบเป็นองครักษ์พิทักษ์เพื่อไทย และนายใหญ่ นายหญิง

แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคาดหวัง เพราะการเคลื่อนไหวของ “ทิดเทือก” มันช่างน่ากังขา โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวในรูปแบบของมูลนิธิ ทั้งที่มันก็เป็นองค์กรทางการเมืองดี ๆ นี่เอง ซึ่งเต็มไปด้วยนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ทั้งสิ้น เพียงแต่ทำให้มันถูกต้องตามกฎหมาย เสมือนหนึ่งเป็นการหลอกลวงต้มตุ๋นประชาชน แอบอ้างมูลนิธิมาหลอกลวงคนไทยทั้งประเทศ เพื่อใช้เป็นอาวุธในการฟาดฟันฝั่งตรงข้าม

แถมยังตีกินเหมารวมว่าประชาชนทั้งหมดเป็นของ กปปส. ทั้งที่ตอนเคลื่อนไหวตะเพิด ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มวลมหาประชาชนนั้นมาจากกลุ่มการเมืองหลายก้อนหลายกลุ่ม ไม่ได้มีแค่ของประชาธิปัตย์ อย่างเดียว

อย่าลืม ตอนชัตดาวน์ กทม. ประชาธิปัตย์เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมด มวลมหาประชาชนมาจากการร่วมกันสหบาทาของหลายกลุ่มที่ชิงชังคอร์รัปชัน แม้แต่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่นำโดย “สนธิ ลิ้มทองกุล” ก็ไปร่วมเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นสำคัญ ไม่ได้ไปร่วมเพราะชอบพอกับ “ทิดเทือก” แต่ประการใด

และเหนืออื่นใด พลันที่เสร็จภารกิจก็จบ แต่ละกลุ่มก็แยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเอง ดังนั้น จึงไม่ถูกหลักการเท่าไหร่นักที่จะมาติ๊ต่างว่า ทุกคนที่ร่วมวันนั้นเป็น กปปส. ทั้งหมด ซึ่งการตั้งมูลนิธิขึ้นมา และพยายามอ้างความชอบธรรมว่า เป็นกลุ่มของมวลมหาประชาชน ถือว่ารับไม่ได้ และไม่มีสิทธิจะมายัดเยียดว่า ใครไม่เห็นด้วยเป็นคนกลุ่มน้อย

จะว่าไป “ทิดเทือก” เองก็บวชเรียนมาปีกว่า แต่ไม่น่าเชื่อว่าศาสนาแทบจะไม่ช่วยขัดเกลาความคิด และจิตใจอะให้ดีขึ้นเลย ทุกอย่างยังเป็นเหมือนเดิมเหมือนก่อนโกนผม คือ ไม่มีแก่นไม่มีแกนความคิดอะไรผิดแปลก การดำเนินการอะไรเอาแต่ประโยชน์เป็นตัวตั้งเสมอมา สึกออกมาก็ยุ่งเกี่ยวกับทางโลกทันที อย่างเรื่องการขัดขวางการย้ายกองบัญชาการตำรวจภาค 8 จากสุราษฎร์ธานี ไปภูเก็ต ขอถามหน่อยเถอะว่า มันเกี่ยวข้องอะไรกับตัวเอง มันใช่กงการอะไรที่ไปขัดขวางเขา

มองได้อย่างเดียวคือ ในแง่ของการเสียผลประโยชน์

ตามหลักกการเมือง การย้ายไปภูเก็ตเองก็มีความเหมาะสม เพราะต้องยอมรับว่า วันนี้ภูเก็ตนั้นมีความเจริญมากกว่าสุราษฎร์ธานี และในอนาคตต่อไป จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทะลักเข้ามามหาศาล ยิ่งใกล้จะเปิดประชาคมอาเซียน (เออีซี) ภูเก็ตจะเป็นแกนกลางและจุดขายของไทยเลยทีเดียว อีกทั้งโครงการดังกล่าวก็มีการศึกษาพิจารณากันมาแล้วเป็นอย่างนี้ ดังนั้น ที่ “ทิดเทือก” ออกตัวบู๊ให้ก็เนื่องจากกลัวว่า ต่อไปตัวเองจะชี้นิ้วสั่งการไม่ได้ เพราะอยู่ไกลตัว สูญเสียบารมีอำนาจที่เคยมีอยู่ในมือ แล้วการค้านครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นว่า “ทิดเทือก” กำลังเบ่งว่า ตัวเองมีอำนาจในยุค คสช.

และไปถามตำรวจที่จะย้ายไปรึยัง เอาแต่ทึกทักไปเอง เขาอาจจะชอบก็ได้ เพราะอยู่ในที่เจริญกว่า น้ำจิ้มน้ำซอสเยอะ ผลประโยชน์จากการทำงานก็เยอะกว่า เพราะภูเก็ตเป็นศูนย์กลางภาค 8 ไม่ใช่สุราษฎร์ธานี อีกต่อไปแล้ว

นอกจากสะเปะสะปะในหลักการแล้ว “ทิดเทือก” ยังกลืนน้ำลายตัวเอง เสียผู้เสียคน หลังแก้ผ้าเสียล่อนจ้อนว่า ปฏิรูปต้องไม่กำหนดเวลา จริง ๆ ไม่ใช่เพราะเรื่องปฏิรูปเสร็จ หรือไม่เสร็จ แต่เพราะกลัวว่าถ้าเลือกตั้งเร็ว พรรคพวกตัวเองจะแพ้ราบคาบเหมือนเดิม จะนั่งเป็นฝ่ายค้านตลอดชาติ เลยอยากให้ คสช. อยู่นาน ๆ ขจัดฝั่งตรงข้ามตัวเองจนพรรคพวกมีลุ้น

และก็ขำไม่ออกตรงที่บอกว่ามูลนิธิไม่เกี่ยวการเมือง แต่เรื่องที่ตัวเองฝอยเป็นฟืนเป็นไฟ วันแถลงก็เป็นการเมืองแบบเต็มรูป เต็มดอก เกี่ยวกับรัฐบาล เกี่ยวกับสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ไม่มีข้อไหนเลยที่ดูจะเป็นงานสังคม หนำซ้ำ ที่บอกไม่เล่นการเมืองตลอดชีวิต แต่ที่เคลื่อนไหวอยู่นี้มันก็การเมืองดี ๆ นี่เอง เพียงแต่เปลี่ยนสถานะมาอยู่ข้างหลัง เป็นการเมืองบนถนน พูดอย่างนี้เลยโดนเด็กมันถอนหงอก เหมือนกับข้ามสะพานไปแล้ว และก็ไปรื้อสะพานเขาทิ้ง ขัดขวางจะไม่ให้มีการเลือกตั้ง

ตกลง “ทิดเทือก” ไม่รู้เลยหรือว่า บ้านเมืองขณะนี้มันแย่ขนาดไหน ถ้าไม่เลือกตั้งจะเกิดอะไรขึ้น ปัญหาจะร้ายลึกกว่านี้ ทำตัวกระจองอแงไปได้ ไม่น่าเชื่อ คนเป็นนักการเมืองคร่ำหวอดมายาวนานแบบนี้กลับไม่รู้อะไรเป็นอะไร โง่หรือแกล้งโง่กันแน่ !!!

สุดท้ายเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรในกอไผ่เลย ไม่ต้องอ่านเกมกันให้ลึกซึ้งว่า “ทิดเทือก” เคลื่อนไหวต้องการอะไร เพราะที่เกิดขึ้นมันก็คือ เกมผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง ถึงวันนี้ตัวเองจะไม่มีอำนาจ เข้าไปนั่งเก้าอี้อะไรไม่ได้ แต่ก็ทำทุกอย่างเพื่อให้พรรคพวกตัวเองมีอำนาจ และจากนั้นก็ไปแชร์อำนาจกันภายหลังในลักษณะนอมินี เพราะดีกว่าปล่อยให้อำนาจไปอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งวิธีคิดแบบนี้มันเหมือนไม่เห็นหัวประชาชน

สรุปแล้ว “คุณสุเทพ” ต้องเปลี่ยนตัวเอง เปลี่ยนนิสัย และเปลี่ยน “สันดานนักการเมือง” ที่ติดตัวมายาวนาน ต้องหลุดพ้นเสียทีประเภทความคิดเอาแต่ประโยชน์ตัวเอง ไม่สนใจบ้านเมืองจะฉิบหายวายวอดอย่างไร ขอให้อีกฝั่งพินาศ และพวกตัวเองยิ่งใหญ่ ต้องลาขาด และหัดเอาประชาชน และชาติเป็นหลักบ้าง ต้องทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ใช้เขาเป็นเครื่องมือ เรื่องนี้ต้องจริงใจกันหน่อย

เพราะอะไรรู้ไหม รู้ไว้เถอะว่า ตอนนี้คนเขาด่าคุณทั้งเมืองแล้ว “บักเทือก”!!!

รู้ตัวหรือเปล่าว่า ขณะนี้คนเขามองว่า การเคลื่อนไหวของ “คุณ” มันโหลยโท่ย มันคือหนังม้วนเดิมที่ฉายซ้ำแล้วซ้ำอีกในห้วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ได้สร้างมิติใหม่ ๆ ให้ประเทศเลยแม้แต่น้อย คนคาดหวังว่า บวชมาปีกว่า ออกมาจะไม่มีร่องรอยของนักการเมืองที่เต็มไปด้วยเหลี่ยมคูแห่งผลประโยชน์ แต่ที่ไหนได้ เหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน อีกทั้งยังมาสร้างความแตกแยก รอยปริรอยร้าวให้มากขึ้นกว่าเก่า

ไม่สมกับการรอคอยของมวลมหาประชาชนที่เคยเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายตอนม็อบ กปปส. “ทิดเทือก” ไม่ได้สร้างความหวังอะไรให้กับประชาชน แต่กลับยิ่งสร้างความหดหู่ สิ้นหวัง เพราะไม่เห็นมิติไหนเลยที่พูดจะทำเพื่อประชาชน มีแต่กำจัดฝ่ายตรงข้าม และทำเพื่อพรรคพวกตัวเองทั้งนั้น

ดังนั้น คิดจะทำคุณไถ่บาปทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง และก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร “เทพเทือก” เปลี่ยนนิสัยตัวเองก่อนเถอะ !!!
กำลังโหลดความคิดเห็น