รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย นายกฯ แสดงความเป็นห่วงโซเชียลมีเดียปลุกระดมแบนสินค้าสหรัฐฯ ระบุเข้าใจความรู้สึก แต่อยากให้ตระหนักว่าเป็นสิทธิของผู้ประเมิน ยันไทยไม่กระทบ แต่อีกฝ่ายต้องอธิบายชาวโลก แนะเอาพลังไปแจ้งเบาะแสกระทำผิด เที่ยวในประเทศ และประหยัดน้ำ
วันนี้ (29 ก.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสเครือข่ายประชาชนรณรงค์ผ่านโซเชียลมีเดียไม่ซื้อ ไม่บริโภคสินค้าของสหรัฐอเมริกา เพื่อตอบโต้กรณีที่สหรัฐอเมริกาคงสถานะการค้ามนุษย์ในประเทศไว้ที่ระดับ 3 หรือ Tier 3 ซึ่งค้านความรู้สึกของประชาคมโลกและคนไทย ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงต่อกรณีดังกล่าว โดยนายกฯ เข้าใจความรู้สึกของประชาชนที่อาจจะรู้สึกว่าประเทศไทยไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่นายกฯ อยากให้ตระหนักว่า เป็นสิทธิ์ของผู้ประเมินที่จะสรุปผลอย่างไร ตามที่เขาเห็นสมควร ขณะที่เราย่อมทราบตัวเองดีที่สุดว่าเราทำงานก้าวหน้าไปเพียงใด และตั้งใจจริงเพียงใด รวมทั้งมีหลักฐานเชิงประจักษ์ยืนยันการทำงาน ซึ่งนั่นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่เราทุกคนควรภาคภูมิใจ
“ทั้งนี้ ประเทศไทยยังไม่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนจากรายงานการประเมินนั้น ขณะที่ประเทศผู้ออกรายงานการประเมินต่างหากที่จะต้องอธิบายความกับสังคมโลกต่อไปจนสิ้นสงสัย อย่างไรก็ตาม การแสดงออกบางรูปแบบอาจถูกนำไปสร้างเป็นเงื่อนไขกลับมากดดันประเทศไทยในอนาคต และท่านนายกยังเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่เป็นผู้มีจิตใจดีที่พร้อมเข้าใจให้อภัย และไม่ชวนใครทะเลาะ ไม่ว่ากรณีใด ๆ” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า อยากขอให้ประชาชนได้ใช้พลังในเชิงสร้างสรรค์เพื่อประเทศของเรา เช่น การเป็นหูเป็นตาแจ้งเจ้าหน้าที่เมื่อพบเห็นการกระทำผิด ไม่ว่ากรณีใดเพื่อช่วยกันกำจัดคนไม่ดีให้หมดไปจากแผ่นดินไทย รวมทั้งร่วมใจกันท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อกระจายรายได้ไปยังพื้นที่ และที่สำคัญที่สุดในขณะนี้ คือ การร่วมใจกันประหยัดน้ำในทุกภาคส่วนและครัวเรือน ก็จะถือเป็นการแสดงออกถึงความรักชาติรักแผ่นดินได้เป็นอย่างดี