รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยนายกฯ พูดกลางวง ครม. ไม่กังวล ไม่ท้อแท้ คนไทยรู้ดีว่าทำอะไร โอ่ดำเนินคดีผู้ร่วมขบวนการค้ามนุษย์กว่า 70 ราย อายัดนับ 100 ล้าน ลั่นไม่ยอมแก๊งใช้ไทยเป็นทางผ่านเด็ดขาด โบ้ยสหรัฐฯ แจงสังคมใช้มาตรฐานไหนจัดอันดับ ด้าน รมช.กต.เมินส่งหนังสือแจง บอกไม่จำเป็น ยันไม่มีคว่ำบาตร ถามคนไทยรู้สึกอย่างไรถูกจัดให้อยู่ระดับเดียวกับอิหร่าน เกาหลีเหนือ ระบุแก้ประมงผิดกฎหมายเป็นอีกเรื่อง
วันนี้ (28 ก.ค.) ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีสหรัฐอเมริกายังจัดอันดับความน่าเชื่อถือในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ให้ไทยยังอยู่ในเทียร์ 3 ว่า ไม่กังวล และไม่ท้อแท้ รัฐบาลและคนไทยรู้ดีว่าเราดำเนินการอะไร และกระบวนการทั้งหลายมีความก้าวหน้าเพียงใด ที่ผ่านมาก็มีการดำเนินการที่เข้มข้นมากขึ้น โดยสิ่งที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ คือ มีการดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการที่มีทั้งข้าราชการ และผู้ที่เกี่ยวข้องถึง 70 กว่าราย และมีการอายัดทรัพย์สินไปอีกกว่า 100 ล้านบาท รวมถึงการติดตามช่วยเหลือเหยื่อได้อีกจำนวนหนึ่ง
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นอกจากนี้ เรายังเป็นประเทศเริ่มต้นที่ให้มีการจัดประชุม ประเทศที่เกี่ยวข้องทั้งต้นทาง กลางทางและปลายทาง ในภูมิภาค ยืนยันว่าประเทศไทยเคารพในเรื่องสิทธิมนุษยชนเสมอ โดยมีจุดยืนคือจะไม่ยอมให้กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการค้ามนุษย์เด็ดขาด นี่คือแนวทางชัดเจนที่เราแก้ปัญหาเป็นลำดับขั้นตอน และก้าวหน้า ตั้งแต่รัฐบาลเข้ามา ส่วนประเทศไหนๆ จะจัดอันดับเรานั้นเป็นเรื่องของแต่ละประเทศที่ต้องชี้แจงสังคมเองว่ามีมาตราฐาน กฎเกณฑ์ กติกา อย่างไรในการกำหนดให้คะแนน และจัดอันดับประเทศไหนอยู่ในอันดับไหน ซึ่งเรื่องไทยไม่เป็นห่วง แต่วิงวอนให้พิสูจน์ว่าการจัดอันดับของท่านได้มาตรฐาน โดยการดำเนินการชี้แจงกับสังคม
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 13.45 น. นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมช.ต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงกรณีดังกล่าวว่า หลังจากนี้ทางการไทยไม่มีความจำเป็นต้องทำหนังสือชี้แจงไปยังสหรัฐฯ อีกแล้ว ด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ 1. ไทยได้ดำเนินการอย่างดีที่สุดแล้ว และดำเนินการแก้ไขมากกว่าประเทศอื่น 2. ในรายงานของสหรัฐฯ ได้ชื่นชมถึงการดำเนินการแก้ปัญหาของไทย ส่วนที่มีการพูดถึงมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ นั้น ยืนยันอีกครั้งว่าไม่มี มีแต่เพียงการงดการช่วยเหลือทางด้านวิชาการเรื่องเดียวเท่านั้น เช่น งดทุนการศึกษาให้กับไทย อย่างไรก็ตาม การคงอับดับของไทยไว้ที่เทียร์ 3 อยู่ในระดับเดียวกับอิหร่านและเกาหลีเหนือลองคิดดูว่าในฐานะคนไทยมีความรู้สึกอย่างไร มันเหมาะสมหรือไม่ ส่วนการประเมินผลของสหภาพยุโรป (อียู) ในการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายเป็นอีกเรื่องหนึ่งแยกกับเรื่องการค้ามนุษย์ ซึ่งเราจะปลดใบเหลืองได้หรือไม่ต้องพิสูจน์ว่าได้แก้ปัญหาอย่างเต็มที่ตามกติกาสากล แต่มีการโยงกันโดยคนบางกลุ่ม เช่น เอ็นจีโอในยุโรปได้ทำหนังสือไปยังสหรัฐฯ ให้ทำการกดดันไทยให้อยู่ในระดับเทียร์ 3 ต่อไป