“บวร ยสินทร” 1 ใน 7 ว่าที่กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แจงปมเอี่ยวกลุ่มกระทิงแดง อ้างข่าวที่ออกมาต้องการดิสเครดิต ย้ำช่วง 14 ตุลา 16 เป็นแกนนำนิสิตนักศึกษาในนามศูนย์นิสิตฯ เวลานั้นกระทิงแดงก็ยังไม่เกิด มีแต่กลุ่มนักเรียนอาชีวะ และตนก็จบจุฬาฯ ก่อนไปเรียนอยู่นิด้า ไม่ได้เป็นแกนนำเคลื่อนไหวของนักศึกษาอีก
วันนี้ (22 ก.ค.) มีรายงานว่า นายบวร ยสินทร 1 ใน 7 ว่าที่กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติชุดใหม่ที่เพิ่งมีการเผยแพร่ผ่านสื่อวานนี้ (21 ก.ค.) เขียนเฟซบุ๊กส่วนตัวชี้แจงกรณีถูกสาอสังคมออนไลน์กล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับ “กลุ่มกระทิงแดง” ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสมกับการได้เป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
โดยระบุว่า จากการเสนอข่าวเชิงจุดประเด็นของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ตามด้วยความเห็นของนักวิชาการฯ โดยพยายามโยงว่าเป็นแกนนำกระทิงแดง 14 ตุลา บ้าง 6 ตุลา บ้าง หรือกลุ่มกระทิงแดงใหม่ เป็นการสร้างความเข้าใจโดยหวังผลว่าเป็นคนนิยมความรุนแรง ซึ่งออกจะตรงข้ามกับบุคลิกภาพที่แท้จริงของตนที่ไม่ได้นิยมความรุนแรงแต่ประการใด
“ช่วง 14 ตุลา 16 ผมเป็น กก.สจม. เข้ามาเป็นแกนนำนิสิตนักศึกษาในนามศูนย์นิสิตฯ เวลานั้นกระทิงแดงก็ยังไม่เกิด มีแต่กลุ่มนักเรียนอาชีวะ กระทิงแดงมาเกิดช่วงเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 ผมก็จบจุฬาฯ แล้วไปเรียนอยู่นิด้า ไม่ได้เป็นแกนนำเคลื่อนไหวของนักศึกษาอีก
ทั้งยังรับหน้าที่เป็นเลขานุการส่วนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (นายพิชัย รัตตกุล) สมัยท่านอานันท์ เป็นปลัดกระทรวง และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมช.ต่างประเทศ คนปัจจุบัน ทำงานอยู่หน้าห้องรัฐมนตรีด้วย
แล้วผมจะไปเกี่ยวกับกระทิงแดงได้อย่างไร จากนั้นผมก็เดินทางไปศึกษาต่อที่สหรัฐฯ จนกลับมาในปี 2522 กลับมาหลายปีก็ได้มีโอกาสเจอกลุ่มนักเรียนอาชีวะที่เคยร่วมตอน 14 ตุลา ซึ่งได้แตกออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มอาชีวะ กับกลุ่มกระทิงแดง
โดยกลุ่มกระทิงแดงก็แตกออกอีกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่นิยมความรุนแรง กับกลุ่มที่ไม่นิยมความรุนแรงแต่รักสถาบันอย่างสุดใจ กลุ่มหลังนี้คือกลุ่มที่เข้ามาหาผมว่าเห็นพวกโจมตีสถาบันกันมาก และสร้างความเดือดร้อนให้บ้านเมือง เช่น การเผาบ้านเผาเมืองแต่กลับลอยนวล ซึ่งผมก็เห็นด้วย
โดยขณะนั้นผมเป็นแกนนำเครือข่ายราษฎรอาสาปกป้องสถาบันอยู่แล้ว ส่วนเขาก็อยากใช้ชื่อกลุ่มปฏิบัติการพิเศษกระทิงแดง จึงตกลงกันว่า จะเคลื่อนไหวในนามแนวร่วมกอบกู้วิกฤตชาติ โดยแนวร่วมฯจะมีหลายกลุ่มเข้าร่วมโดยมีภารกิจหรือเป้าหมายที่เจาะจงเดียวกัน ซึ่งเป็นงานเฉพาะกิจ คือ การรณรงค์เรื่องการปกป้องสถาบันและการเอาคนที่เผาบ้านเผาเมืองมาลงโทษ ซึ่งภารกิจของแนวร่วมวิกฤตชาติได้จบลงไปตั้งนานแล้ว แต่กิจกรรมของเครือข่ายราษฎรอาสาปกป้องสถาบันยังคงดำเนินต่อไปในเรื่องการปกป้องสิทธิและเสรีภาพของประชาชน การปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และพิทักษ์รัฐธรรมนูญ
สรุปได้ว่า ข่าวที่ออกมาต้องการดิสเครดิตผม ผมจึงขออนุญาตใช้หน้าเพจส่วนตัวนี้ชี้แจงข้อเท็จจริง ครับ .. บวร ยสินทร ๒๒ ก.ค. ๕๘”