xs
xsm
sm
md
lg

ความหวังยังอยู่ที่ “ลุงตู่” อย่าให้ศรัทธา-ขาลงจนวิกฤตซ้ำ !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

นาทีนี้ถ้าพิจารณาจากอารมณ์ความรู้สึกของชาวบ้านทั่วไป ส่วนใหญ่ยังให้ความหวังความศรัทธากับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งความรู้สึกดังกล่าวได้มีการสะท้อนจากผลการสำรวจหลายครั้งออกมาตรงกัน อย่างไรก็ดี ก็มีข้อน่าสังเกตเช่นเดียวกันว่า ความศรัทธาและเชื่อมั่นจะเริ่มลดลงบ้างแล้วเมื่อเทียบกับในช่วงต้นรายการเมื่อครั้งที่เกิดคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใหม่ ๆ แต่โดยรวมก็ยังไปได้

เมื่อสำรวจลึกลงไปในรายละเอียดถึงสาเหตุว่าทำไมถึงทำให้ความศรัทธาและความเชื่อมั่นหดน้อยลงไปกว่าเดิม ที่สำคัญ ในเวลานี้หากให้ตอบกันแบบตรงไปตรงมาไม่ต้องอ้อมค้อม แบบไม่ต้องเกรงใจก็คือมาจากผลงานการแก้ปัญหา “ปากท้อง” เรื่องเศรษฐกิจ ที่เวลาผ่านไปนาน 7 - 8 เดือนแล้ว ที่มีรัฐบาลอย่างเป็นทางการ มีอำนาจเบ็ดเสร็จ แต่ก็ยังทำผลงานได้ไม่ดี

แน่นอนว่า หากพิจารณาจากสภาพความเป็นจริงประกอบก็ไม่มีทางปฏิเสธได้ว่าปัญหาใหญ่ย่อมมาจากปัญหาภายนอก ที่อ้างกันว่าเศรษฐกิจโลกไม่ดี เศรษฐกิจคู่ค้ารายสำคัญ อย่างเช่น จีน ซบเซาไม่เหมือนเดิม ทำให้การส่งออกของเราติดลบมาตลอด ดังนั้น เมื่อระบบเศรษฐกิจบ้านเรายังต้องพึ่งพาการส่งออกเกินร้อยละ 80 อยู่แบบนี้มันก็ย่อมส่งผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้

หรือที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มักอ้างอยู่เสมอ ก็คือ เป็นเพราะปัญหาหมักหมมมานาน เป็นปัญหาที่พวกนักการเมืองจากรัฐบาลชุดก่อน ๆ สะสมเอาไว้จนฝังรากลึกจนไม่อาจแก้ไขกันได้ภายในชั่วข้ามคืน ซึ่งในตอนแรก ๆ สองสามเดือนแรกก็อาจฟังขึ้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าคำพูดแบบนี้มันชักไม่ค่อยได้ผลแล้ว เพราะจะกลายเป็นการกล่าวโทษแต่คนอื่น แม้ว่าสาเหตุจริง ๆ จะเป็นแบบนั้นก็ตามที

สำหรับศักยภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เชื่อว่า ไม่มีใครสงสัยในความรู้ความสามารถ มีการรับรู้ปัญหามาอย่างดี สังเกตได้จากการพูดและการตอบคำถามได้เป็นอย่างดีในทุกเรื่อง ความหมายก็คือทุกเรื่องมีการ “ทำการบ้าน” มาอย่างดีแล้ว แต่กลายเป็นว่าในคณะรัฐมนตรีของเขาแทบทั้งหมด “ทำงานได้ไม่ดี” ทำให้ผลงานที่ออกมาผิดความคาดหวังของชาวบ้าน

หากกล่าวว่าการทำงานของคณะรัฐมนตรีชุดนี้ มีวิธีไม่ต่างจากรูปแบบของข้าราชการประจำ การทำงานไม่ได้ฉับไวตามที่ควรจะเป็น หากพิจารณากันจากผลงานจึงเหมือนกับว่านี่คือ “รัฐบาลผสม” ที่มีเสียงปริ่มน้ำ ต้องมีการต่อรองล็อบบี้กันอยู่ตลอดเวลา แต่ในความเป็นจริงก็คือนี่เป็นรัฐบาลที่ผู้นำมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด มีเจตจำนงเพื่อเข้ามาปฏิรูปโครงสร้าง และปัญหาสำคัญของประเทศที่มีการจัดลำดับความสำคัญไล่เรียงกันไป

แต่กลายเป็นว่าสิ่งที่เราเห็นก็คือเรากำลังมีเพียงรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังร่างเสร็จกันในไม่กี่วันข้างหน้า แต่ก็นั่นแหละก็ยังไม่อาจฟันธงได้ว่าจะผ่านความเห็นชอบอีกหรือไม่ หรือจะต้องร่างกันใหม่เพื่อซื้อเวลากันอีกหรือไม่ ขณะที่ผลงานด้านการปฏิรูปในเรื่องสำคัญที่เป็นความต้องการของชาวบ้านมาแต่เดิมกลับหยุดนิ่ง เช่น การปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูประบบอัยการ การปฏิรูปพลังงาน รวมไปถึงการกระจายอำนาจ ที่ล่าสุดมีท่าทีออกมาแล้วว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลหน้าที่จะมาสานต่อหรือไม่

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาถึงศักยภาพและความสามารถเฉพาะตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ก็ต้องยอมรับว่าโดดเด่น ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านได้เทใจให้เต็มร้อย แต่ถามว่าในเมื่อผู้นำมีความสามารถ แต่พิจารณาจากผลงานของรัฐบาลในรอบหลายเดือนนี้ทำไมถึงยังไม่เข้าตา ยังไม่อาจสร้างความประทับใจให้กับชาวบ้าน หรือเป็นเพราะเขา “ไม่ได้มีอำนาจจริง” หรือว่า “ไม่มีอิสระ” ในการบริหารอย่างแท้จริงหรือไม่

ที่ผ่านมา มีเสียงวิจารณ์กันมาโดยตลอดตั้งแต่มีการฟอร์มคณะรัฐมนตรีชุดนี้ ที่แม้ว่าผู้นำจะเป็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ขณะเดียวกัน ตำแหน่งหลัก ๆ ล้วนเป็น “เซนต์คาเบรียลคอนเนกชัน” ที่นำโดย “พี่ใหญ่” ที่มากน้ำใจอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แทบทั้งสิ้น ไม่ว่า “ทีมเศรษฐกิจ” ที่มี “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ถ้าจะพูดกันตรง ๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อเวลาผ่านไปทีมเศรษฐกิจชุดนี้ทำงานไม่เข้าเป้า รวมไปถึงรัฐมนตรีกระทรวงอื่น ๆ ไม่ว่าจะมาจากฝ่ายทหารหรือพลเรือน หากพูดกันแบบไม่เกรงใจก็ต้องบอกว่า “สอบตก” หมด ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่เวลานี้จะมีเสียงเรียกร้องให้ปรับคณะรัฐมนตรีกันครั้งใหญ่

อย่างไรก็ดี ก็ต้องย้ำด้วยความเป็นธรรมเช่นเดียวกันว่า ในรัฐบาลชุดนี้ยังไม่มีเรื่องอื้อฉาว หรือข่าวคราวในเรื่องทุจริตออกมาให้เห็น ซึ่งคนละเรื่องกับผลงานโดยรวมที่ล้มเหลว

ดังนั้น ด้วยแรงกดดันที่มีอยู่ในตอนนี้หลายคนก็มั่นใจแล้วว่าการปรับคณะรัฐมนตรีจะต้องเกิดขึ้นค่อนข้างแน่ เพียงแต่ว่าเมื่อใดเท่านั้น และหวังว่าคราวนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเลือกจิ้มตัวบุคคลมาช่วยงานได้เต็มศักยภาพ ไม่ต้องคำนึงถึงโควต้าเพื่อนพ้องน้องพี่เสียที เพราะถ้าพลาดอีกโอกาสที่จะเกิดวิกฤตก็อาจเกิดขึ้นอีก และมีแนวโน้มที่หนักหนาสาหัสกว่าเดิม !!
กำลังโหลดความคิดเห็น