ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้ง “กฤษฎา บุญราช” อธิบดีกรมการปกครอง ขึ้นมาดำรงตำแหน่งปลัดมหาดไทย 1 ต.ค.นี้ นับเป็นปลัดกระทรวงที่มาจากรั้วรามคำแหงคนแรก หลังผูกขาด “จุฬา-ธรรมศาสตร์” มานาน ด้านรักษาการรองปลัดมหาดไทย ได้อธิบดีกรมการปกครอง อีกด้านตั้ง “ประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ” ปลัดกระทรวงพลังงานแทนตำแหน่งว่าง
วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน เรื่องคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง กระทรวงมหาดไทยจำนวน 9 ราย ดังนี้
1 .นายกฤษฎา บุญราช (นักบริหารระดับสูง) อธิบดีกรมการปกครอง ไปดำรงตำเเหน่งปลัดกระทรวง (นักบริหารระดับสูง) มหาดไทย
2. นายไมตรี อินทุสุต (นักบริหารระดับสูง) รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำเเหน่งอธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมการพัฒนาชุมชน
3. นายจรินทร์ จักกะพาก (นักบริหารระดับสูง) รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำรงดำรงตำเเหน่ง อธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
4. นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ (นักบริหารระดับสูง) รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำเเหน่งอธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมที่ดิน
5. ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต (นักปกครองระดับสูง) ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รักษาการในตำเเหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำเเหน่ง อธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมการปกครอง
6. นายชยพล ธิติศักดิ์ (นักปกครองระดับสูง) ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ให้ดำรงตำเเหน่งรองปลัด (นักบริหารระดับสูง) กระทรวงมหาดไทย
7.นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ (นักปกครองระดับสูง) ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ให้ดำรงตำเเหน่งรองปลัด (นักบริหารระดับสูง) กระทรวงมหาดไทย
8. นายประทีป กีรติเรขา (นักปกครองระดับสูง) ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้ดำรงตำเเหน่งรองปลัด (นักบริหารระดับสูง) กระทรวงมหาดไทย
9. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ (นักปกครองระดับสูง) ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ให้ดำรงตำเเหน่งรองปลัด (นักบริหารระดับสูง) กระทรวงมหาดไทย
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอแต่งตั้ง นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพลังงาน ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
อนึ่ง สำหรับนายกฤษฎา บุญราช เกิดเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2500 จบการศึกษาปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปี 2522 ปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (บริหารรัฐกิจ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 2537 และปริญญาตรีใบที่ 2 นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปี 2546 เริ่มรับราชการครั้งแรกเมื่อปี 2522 เริ่มรับราชการที่ศูนย์รับผู้อพยพ อ.เชียงของ จ.เชียงราย
ปี 2529 เป็นเลขานุการปลัดกระทรวงมหาดไทยและรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ฝ่ายความมั่นคง (นายเจริญจิตต์ ณ สงขลา), ปี 2537 นายอําเภอดอยเต่า นายอําเภอแม่อาย นายอําเภอฝาง จ.เชียงใหม่, นายอําเภอเมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง และนายอําเภอเมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี, ปี 2547 ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง, ปี 2549 รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา, ปี 2552 ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา, ปี 2554 ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และ ปี 2557 รักษาราชการในตําแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง
อนึ่ง เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า ตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นผู้ที่จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือเรียกเป็นฉายาว่าสิงห์แดง และคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือฉายาสิงห์ดำ แต่ไม่เคยมีผู้ที่จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หรือฉายาสิงห์ทอง นับตั้งแต่การก่อตั้งกระทรวงมหาดไทยเมื่อปี 2435 จะมีมหาวิทยาลัยอื่นก็เพียงแค่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือฉายาสิงห์ขาว เพียงคนเดียว คือนายมานิต วัฒนเสน
อย่างไรก็ตาม ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2553 ก่อนหน้านี้นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยในขณะนั้น ได้เสนอชื่อนายมงคล สุรัจสัจจะ อธิบดีกรมการปกครองในขณะนั้น ซึ่งจบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ขึ้นมาเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นเครือข่ายสายตรงของนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยในขณะนั้น แต่ถูกชะลอคำสั่งภายหลัง และให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีทุจริตการเช่าซื้อคอมพิวเตอร์ของกระทรวงมหาดไทย ตามโครงการจัดทำระบบให้บริการประชาชน ด้านการทะเบียน และบัตรประจำตัวประชาชนแบบใหม่ วงเงินประมาณ 3,000 ล้านบาท ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ส่งสำนวนการสอบสวนปัญหาความไม่ชอบมาพากล ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ตรวจสอบ กระทั่งเมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2553 นายมงคลแถลงไม่รับตำแหน่ง เพื่อให้การบริหาราชการแผ่นดินสามารถดำเนินไปได้ และไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งในกระทรวง