เกาะกระแส
00 แม้ว่าจะยังสรุปไม่ได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า รธน.ฉบับใหม่ที่ที่คณะกรรมาธิการยกร่างฯได้ทบทวนแก้ไขเกือบเสร็จสิ้นแล้ว แต่เท่าที่ดูตามเนื้อหาที่คณะโฆษกฯแถลงออกมาล้วน "เป็นภัยต่อความมั่นคงของพวกคนโกง"อย่างสาหัสจริงๆ โดยเฉพาะพวกที่ "เคย"ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกม.ว่ากระทำการทุจริต หรือกระทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต เคยถูกถอนถอนจากตำแหน่งเพราะมีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาแบบเดียวกับที่เคยกำหนดเอาไว้ใน รธน.ฉบับปี 50 และปี 40 เช่น เคยล้มละลายจากการทุจริต เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกโดยพ้นโทษยังไม่ถึงห้าปีในวันเลือกตั้ง เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เป็นต้น
00 เนื้อหาดังกล่าวของ รธน.ฉบับใหม่บางส่วนที่ คำนูณ สิทธิสมาน หนึ่งในทีมโฆษกของคณะกรรมาธิการฯได้โพสต์ลงในเฟสบุ๊ก ระบุว่าบุคคลที่มีคุณสมบัติต้องห้ามแบบนี้จะ"ห้ามเข้า"ตลอดไป นั่นคือห้ามเป็น สส.สว.ห้ามเป็นรมต.รวมถึงน่าจะห้ามเข้าในสนามการเมืองท้องถิ่นอีกด้วย ทั้งนี้จะว่าไปแล้วผลที่ออกมาแบบนี้ล้วนเป็นไปตามโรดแม็ปของ รธน.ชั่วคราวฉบับปี 57 มาตรา 35(4) ที่กำหนดเอาไว้แล้ว
00 แน่นอนว่าหลายข้อความที่กำหนดเป็นคุณสมบัติต้องห้ามข้างต้นมีผลกระทบไปถึงไหนบ้าง ซึ่งบอกได้คำเดียวว่า"เข้ม"สำหรับนักการเมืองโกง ทั้งการป้องกันพวกที่มาใหม่และพวกที่เคยโกงมาแต่เดิมที่ต้องกันออกไปตลอด"ชั่วนิรันดร์" ถ้าพูดแบบนี้น่าจะถูกใจสำหรับคนที่ไม่ชอบโกง รวมไปถึงพวกที่รู้จักคนโกงที่เพ่นพ่านอยู่ในวงการเมืองและในวงราชการมานาน ขณะเดียวกันน่าจะเป็นเรื่องน่ายินดีที่บทบัญญัติแบบนี้ยังได้ควบคุมคนพวกนี้อย่างเข้มงวดเป็นครั้งแรก
00 หากพิจารณาตามนี้ แน่นอนว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เคยถูกถอดถอนจากตำแหน่งกรณีส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยถูกคำพิพากษาให้ทรัพย์สอนตกเป็นของแผ่นดิน รวมไปถึง บุญทรง เตริยาภิรมย์ ภูมิ สาระผล ที่เคยถูกถอดถอนในกรณีเดียวกันกับ ยิ่งลักษณ์ และแม้ว่า ไพบูลย์ นิติตะวัน หนึ่งในกรรมาธิการฯตีความว่า พวกบ้านเลขที่ 111-109 จะพ้นบ่วงพวกนี้ เนื่องจากเห็นว่าไม่ได้กระทำผิดจากการทุจริตเลือกตั้งโดยตรง แต่ถ้าพิจารณาอีกมุมหนึ่งในกรณี"ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต"ก็น่าจะครอบคลุมไปถึงด้วย เพราะพวกเขาล้วนถูกตัดสิทธิ์มาจากการทุจริต ก็คงต้องตีความกันให้ชัดเพื่อป้องกันพวก"หัวหมอขี้ฉ้อ"ทั้งหลาย
00 แต่สำหรับชาวบ้านที่ติดตามเรื่องแบบนี้มาตลอด ถือว่าเป็นความฝันมาตลอดชีวิตเช่นเดียวกันว่าต้องห้ามหรือกีดกันพวกนักการเมืองขี้โกง "นักธุรกิจการเมือง"พวกนี้พ้นไปให้เด็ดขาด ห้ามประนีประนอมกับคนประเภทนี้ อย่าไปกังวลว่าถ้าขาดคนพวกนี้แล้วเมืองจะไปไม่รอด ตรงกันข้ามยิ่งไม่มีคนประเภทนี้เสียอีกที่ทำให้บ้านเมืองเดินหน้าเจริญรุ่งเรือง และอย่าได้แปลกใจที่เวลานี้เริ่มมีพวก"ข้าทาสบริวาร"ได้อออกมาเดือดร้อนโวยวายแทนนายกันบ้างแล้ว ก็ต้องจับตาดูว่าจะมีการแก้ไขในขั้นตอนสุดท้ายอีกหรือไม่ แต่ในเมื่อมาตรา 35(4)ของรธน.ชั่วคราวปี 57 ยังไม่มีแก้ไขเปลี่ยนแปลง มันก็ต้องบังคับให้เดินไปทางนี้ !!
00 การปรับ ครม.นาทีนี้เชื่อว่าเลี่ยงไม่ได้แล้ว เพียงแต่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จะช้าหรือเร็วเท่านั้น แต่เท่าที่พิจารณาจากอารมณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.คงจะประวิงเวลาอีกระยะหนึ่งก่อน หนึ่งยังไม่อยากเปลี่ยนม้ากลางศึก รอให้ผ่านช่วงนี้ไปอีกนิดหนึ่ง อาจลากไปถึงต้นเดือนตุลาฯเพื่อ"รอใคร"เกษียณฯรอบางอย่างให้ชัดเจน และถึงตอนนั้น รธน.ฉบับใหม่ก็น่าจะชัดเจนกันแล้ว และเชื่อว่าถึงตอนนั้นคงจะไม่ใช่แค่"ทีมเศรษฐกิจ"แต่น่าจะ"เปลี่ยนทีมยกชุด"กันเลย ถามว่าถ้า "อุ๋ย"ไปแล้ว "สมคิด"จะมาหรือไม่ งานนี้ถ้าอ่านตามหน้าไพ่เวลานี้หวยน่าจะเปลี่ยนไปแล้ว ว่า "สมคิด"คงมายาก เพราะต้องไม่ลืมว่านั่นคือการ"หักหน้า"อุ๋ย เลยแหละ ซึ่ง "ลุงตู่"คงต้องเกรงใจ แม้จะไม่เกรงใจอุ๋ย แต่คงต้องเกรงใจ"พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กันบ้าง เพราะในช่วงเริ่มต้นไปเชิญเข้ามาแล้วตอนให้ไปก็ต้องไว้หน้ากันบ้าง แต่เอาเป็นว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ เนื่องจากคนอย่าง ลุงตู่นี่เดายาก แต่รับรองปรับแน่ !!