“พล.อ.ธนะศักดิ์” บินพรุ่งนี้ กระชับสัมพันธ์ “รัสเซีย”

“พล.อ.ธนะศักดิ์” บินพรุ่งนี้ กระชับสัมพันธ์ “รัสเซีย” ยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี-พหุภาคี  ถก 2 รัฐมนตรีหมีขาว เน้นการทูต-การค้า เตรียมฉลองวาระ 120 ปีสัมพันธ์ทางการทูต ในปี 2560

วันนี้ (13 ก.ค.) มีรายงานว่า พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดเดินทางเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของทางการสหพันธรัฐรัสเซียระหว่างวันที่ 14-19 กรกฎาคม 2558 โดยจะเข้าเยี่ยมคารวะนายดมิทรี โรกูซิน รองนายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐรัสเซีย เพื่อหารือเกี่ยวกับการขยายความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยกับรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่สืบเนื่องจากการหารือระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี กับนายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐรัสเซีย ในระหว่างการเยือนไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 7-8 เมษายนที่ผ่านมา

พล.อ.ธนะศักดิ์ยังจะได้พบหารือทวิภาคีกับนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-รัสเซีย และขยายความร่วมมือในทุกสาขาทั้งระดับทวิภาคีความร่วมมือภูมิภาคและพหุภาคี รวมทั้งการเตรียมงานฉลองวาระ 120 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-รัสเซีย ในปี 2560 โดยจะมุ่งจัดกิจกรรมเพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกภาคส่วนของทั้งสองประเทศ ทั้งภาครัฐบาล ธุรกิจ และประชาชน ทั้งนี้ ภายหลังการหารือ ทั้งสองฝ่ายจะร่วมลงนามในแผนการปรึกษาหารือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทยและรัสเซีย ปี 2559-2561 ด้วย

จากนั้นจะมีการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-รัสเซีย ครั้งที่ 6 โดยจะหารือกับนายเดนิส แมนทูรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า และร่วมประชุมกำหนดแนวทางความร่วมมือในการขยายความร่วมมือด้านการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายตลาดสินค้าเกษตรไทยในรัสเซีย การอำนวยความสะดวกด้านการค้า การลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการเกษตรในรัสเซีย และการเชิญชวนให้รัสเซียเข้ามาลงทุนด้านอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอากาศยานและรถยนต์ในประเทศไทย นอกจากนั้นจะหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านเทคนิค วิชาการ และการศึกษา เพื่อพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันของทั้งสองประเทศ

ปัจจุบันการค้าระหว่างไทยและรัสเซียมีมูลค่ากว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีนักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางมาไทยปีละกว่า 1.5 ล้านคน ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญต่อความร่วมมือด้านวิชาการและการศึกษา เพื่อปูทางไปสู่การขยายความร่วมมือ และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของทั้งสองประเทศอย่างต่อเนื่อง