xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” หวัง นศ.อย่าดื้อ รอสักหน่อย ขอสื่ออย่ายุพวกต้าน รับงานช้าเหตุพวกเสียประโยชน์ค้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกฯ ระบุไทยไข้เริ่มลดแต่ยังไม่หาย หวังศาลเมตตากลุ่มประชาธิปไตยใหม่แล้วต้องหลาบจำ ยอมรับผิดกันบ้าง อย่าดื้อรั้นในเรื่องไม่เป็นเรื่อง รออีกสักหน่อยไม่ได้หรือ กังวลพวกหนุนม็อบ ขอร้องสื่ออย่าจุดชนวน จี้นำเสนอแต่ข้อเท็จจริง ชี้ถ้าบานปลายแล้วเกิดปัญหาต้องรับผิดชอบ อย่าคิดว่าสนุก รับงานช้าเพราะมีคนเสียประโยชน์ต่อต้าน ลั่นไม่คิดเป็นศัตรูใคร แนะอดทนเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน ไม่รู้ อดีต มทภ.2 ปูดต่างชาติชักใยเด็ก ถ้ามีแล้วสื่อจะช่วยรบหรือเปล่า ถามปลุกคนต้านแล้วใครรับผิด ทหาร ตร.โดนอีกใช่ไหม แกนนำตายบ้างไหม กม.มันยังไม่รับผิดเลย เซ็งกลายเป็นคนผิดทุกเรื่อง

วันนี้ (7 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ลดโทนการพูดและพยายามปรับอารมณ์ไม่ให้ฉุนเฉียว รวมทั้งได้บันทึกหัวข้อสิ่งที่จะนำมาชี้แจงต่อสื่อมวลชนในกระดาษเอ 4 แต่ใช้เวลาในการแถลงข่าวเกือบ 1 ชั่วโมง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การที่ตนต้องพูดมาในทุกวันนี้เพื่อให้คนไทยได้เรียนรู้ว่าเราจะต้องอยู่อย่างไร ถ้าเรายังคงอยู่เหมือนเดิม ทำงานทุกอย่างเหมือนเดิม มันไปไม่ได้ ช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยเหมือนคนที่มีไข้ วันนี้ไข้ก็เริ่มลดลงแต่ยังไม่หายก็กำลังดูแลกันอยู่ แต่ถ้าให้ยาผิดซองก็ไปอีก ตอนนี้เชื้อโรคมีเยอะกำลังเข้ามาอยู่ ทิ่มๆ ตำๆ อยู่รอบๆ วันนี้รัฐบาลก็ดูแลอย่างเต็มที่ ในส่วนของนักศึกษาทั้ง 14 คน วันนี้ก็เป็นไปตามขั้นตอน ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังอะไรกับใครนักหรอก แต่กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ซึ่งกฎหมายจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรมที่จะเมตตาอย่างไร

“สิ่งที่ศาลได้เมตตาไปแล้วก็ต้องคิดว่ามันจะทำได้อีกไหม เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้หลักการของกฎหมายก็จะต้องมีการหลาบจำและยอมรับความผิดกันบ้าง เพราะมันคือกฎหมาย ท่านต้องเข้าใจว่าทุกฉบับไม่ว่าจะเป็นที่ผมออกคำสั่งหรือมาตรา 44 หรือ พ.ร.บ.ต่างๆ มันออกมาสมัยรัฐบาลนี้ทั้งนั้น ถ้าท่านบอกว่ากฎหมายนี้ไม่ถูกต้องก็เท่ากับว่า 300 กฎหมายที่ออกมาก่อนหน้านี้ไม่ถูกต้องทั้งหมด ซึ่งมันไม่ใช่ ทุกอย่างทำตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน เพราะมีรัฐบาลและรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นอย่ามาดื้อรั้นในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ผมก็เป็นกังวลกับอีกพวกหนึ่งที่มาสนับสนุน เดี๋ยวจะตีกันไปจนเกิดเหตุการณ์บานปลายไปอีก จึงขอร้องสื่ออย่าไปจุดชนวนความรู้สึกให้เกิดขึ้นมาอีก สื่อมีความสำคัญที่จะทำให้บ้านเมืองสงบหรือไม่สงบ ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนตัวผมคงไม่เท่าไหร่ เพราะผมกำลังเดินหน้าทั้งในเรื่องการบริหาร ทั้งแก้ปัญหาเก่าและการแก้ไขปัญหาระยะยาว สร้างพื้นฐาน 4-5 งาน ผมจะไปทำอะไรได้ทั้งหมด แต่ก็ทำ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกคนต้องเข้าใจว่าวันนี้รัฐบาลทำงานนอกจากงานตามภาระหน้าที่แล้วยังมีงานที่จะต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า จากนี้ไปทุกรัฐบาลจะต้องทำงาน โดยมีนโยบายเร่งด่วนหรือนโยบายใหม่เพื่อออกมาปฏิบัติทั้งการเร่งรัด การแก้ไขจะได้ไม่เกิดปัญหาเหมือนที่ผ่านมา วันนี้ขนาดรัฐบาลปัจจุบันตั้งคณะทำงานขึ้นมาไม่รู้กี่คณะยังไปได้ช้า เพราะยังมีการต่อต้านจากคนที่เสียผลประโยชน์ ซึ่งเป็นหน้าที่ของสื่อที่ต้องไปหามาว่าใครเสียหรือใครได้ผลประโยชน์ แต่สำหรับตนไม่เคยได้ผลประโยชน์อะไร มีอย่างเดียวที่พอกลับบ้านก็ไปนอนคิดว่าเราควรภูมิใจกับตัวเองบ้างหรือไม่ที่วันนี้ได้ทำอะไรเป็นผลสำเร็จบ้าง ยืนยันว่าไม่เคยคิดจะเป็นศัตรูกับใครทั้งสิ้น ไม่ได้ต้องการให้คนทั้งประเทศมาอยู่ข้างตน หรืออีกพวกหนึ่งเป็นฝ่ายตรงข้าม ไม่คิดแบบนั้นเพราะตนเป็นคนไทย เพราะฉะนั้นใครที่เป็นคนไทยก็ควรต้องทำอย่างที่ตนทำ เก็บความอาฆาตเกลียดชังไว้วันหลังแล้วข้างหน้าค่อยว่ากัน มันควรจะมีการทำให้สถานการณ์มีเสถียรภาพ สื่อมีหน้าที่ที่จะต้องชี้แจงในข้อเท็จจริง แต่ไม่ใช่เอาเรื่องเดือดร้อนข้างเดียวมาพูด แล้วตนจะทำอย่างไร วันนี้คนไทยต้องรวมกันให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใด อาชีพอะไร จะเป็นคนรวยหรือคนจนจะต้องอดทนในช่วงนี้เพราะเป็นช่วงที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืน ที่ผ่านมาดูเหมือนดีทุกอย่าง เงินทองเหงือเฟือ ใช้จ่ายได้อย่างสบาย คนไทยไม่ว่างงาน หยิบจับอะไรก็เป็นเงิน แต่ถามว่าเงินเหล่านั้นถูกต้องหรือไม่ เจ้าหน้าที่เองก็หลับหูหลับตาเพราะสู้ไม่ไหว รัฐบาลก็ไม่เข้มงวด ไม่กำชับ ทำให้มีปัญหามาถึงทุกวันนี้

“สื่อมีหน้าที่ต้องช่วยผม เพราะสื่อถือเป็นผู้นำเหมือนกับผม เพราะคนเสพสื่อ ถ้าสื่อบอกดี ชี้แจงให้เกิดความเข้าใจ แนะนำในสิ่งต่างๆ ก็ทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า แต่ถ้ามัวเสนอแต่ความขัดแย้งก็ไม่มีทางหลุดพ้น ผมพยายามก้าวข้ามกับดักทั้งหมดแล้ว แต่สื่อก็พยายามจะดึงกลับมาที่เก่าอีก อีกพวกก็ได้โอกาสเมื่อสื่อเปิดพื้นที่ให้ก็เอาทันที ขณะเดียวกัน สื่อก็ต้องการให้ผมเปลี่ยนแปลงถามหน่อยเถอะว่าใครจะทำให้ท่านได้ วันหน้าผมก็เลิกทำ ก็อยู่กันไปแบบนี้ ถ้าคิดว่ามันดีกว่าก็เอา วันนี้ผมคิดว่าคนทั้งประเทศเข้าใจ แต่สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไรกับคนจนและผู้มีรายได้น้อย ทุกฝ่ายก็ต้องร่วมมือกัน สื่อต้องเสนอข่าวด้วยความเป็นกลาง สื่อจะต้องมีจรรยาบรรณในการเสนอข่าว ไม่จำเป็นต้องมาเสนอข่าวเข้าข้างผม แต่ขอให้เสนอว่าผมทำอะไร และถ้าคนไม่ดีเข้ามาก็ต้องเสนอว่าเขากำลังทำอะไร แล้วประชาชนว่าอย่างไร แต่ทุกวันนี้สื่อเทไปข้างนั้นทีข้างนี้ที ทางผมไม่ค่อยมาอยู่แล้ว ขอร้องว่าอย่าลืมปัญหามันเกิดอะไรขึ้น ขอให้จำไว้ว่าถ้ามันยังบานปลายอยู่อย่างนี้แล้วเกิดปัญหาขึ้นมาอีกครั้ง พวกท่านก็ต้องรับผิดชอบกันเอง อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องสนุก วันนี้ทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปจากโรดแมปแล้วจะมาเอาอะไรกับผม ยุ่งกันไปหมดทุกเรื่อง ทั้งเรื่องปรองดอง นิรโทษกรรม ได้ดูกันหรือเปล่าว่ากฎหมายเขาว่าอย่างไร อย่าเอาความรู้สึกมาเขียนหรือมาวิจารณ์ วันนี้ผมยอมรับทุกคนมีประสบการณ์มากกว่าผม โดยเฉพาะคอลัมนิสต์ต่างๆ ผมไม่เคยว่าใคร แต่ทำไมถึงว่าผมนัก ผมไม่เข้าใจ ในเมื่อสิ่งที่ผมทำ ผมคิดว่าผมทำดีแต่อาจจะดีหรือไม่เป็นที่พอใจเท่ากับรัฐบาลก่อนที่เขาทำละมั้ง งั้นก็รอรัฐบาลต่อไปแล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้รับรายงานที่ พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ออกมาระบุว่ามีองค์กรระหว่างประเทศหนุนหลังกลุ่มนักศึกษาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนถามว่า “ใคร พลเอกไหนก็ไปถามเขาดูเอง ใครรายงานผมไม่รู้ ผมไม่มีรายงาน วันนี้ พล.อ.ธวัชชัยเขาอยู่ที่ไหน มีตำแหน่งอะไร เมื่อมาเป็น สปช.ก็ต้องรายงานตรงกับ สปช. ก็ทำรายงานขึ้นมาสิ สำหรับผมขนาดเพื่อนผมยังไม่คุยด้วยเลย”

เมื่อถามว่า ในทางการข่าวมีข้อมูลดังกล่าวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้ามีแล้วจะอย่างไร สื่อจะไปรบกับองค์กรอื่นหรือเปล่าจะช่วยตนทำความเข้าใจกับองค์กรเหล่านั้นหรือไม่ ทั้งองค์กรสิทธิมนุษยชนและองค์กรอื่นๆ มาถามตนเช่นนี้เพื่อให้ไปแก้หรือจะให้ไปรบกับเขา

“วันนี้สื่อต้องช่วยผม ไม่ใช่อะไรก็เสนอข่าวแต่ว่าขัดแย้งกันไปหมด เดี๋ยวก็มีเรื่องนิสิตนักศึกษาแล้วมันจะไปอย่างไร ผมขอร้องสื่อให้เลิกเสียทีเถอะ ไม่ได้บังคับ ขอให้คิดใหม่ทุกเรื่อง มันต้องร่วมกันคิดต้องร่วมกันทำ ด้วยความเห็นชอบร่วมกันอย่าต้องให้บังคับ เพราะถ้าบังคับแล้วก็จะมีเรื่อง แล้วถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาแล้ววันข้างหน้าจะทำอย่างไร ถ้าปลุกแล้วลุกกันขึ้นมาแล้วต่อต้านกันทั้งหมดแล้วจะทำอย่างไร ใครจะรับผิดชอบ ทหาร ตำรวจอีกแล้วใช่หรือไม่ ทหารกับตำรวจก็ต้องทำหน้าที่ยุติ แล้วใครมีความผิดก็ทหารตำรวจอีกนั่นแหละ แล้วถามว่าไอ้ที่ไปตายน่ะใคร ก็เป็นคนจนทั้งนั้น เป็นลูกเป็นหลาน ส่วนไอ้คนนำหรือผู้ที่เกี่ยวข้องมีใครตายสักคนบ้างหรือไม่ กฎหมายมันยังไม่รับผิดเลย แล้วก็อ้างอยู่นั่นแหละว่าเป็นประชาธิปไตย แล้วเคยตายบ้างหรือไม่ ไอ้คนที่ออกมาอ้างมันไม่เคยติดคุกมันไม่รู้หรอก ลองดูก็แล้วกัน สู้ได้ก็สู้ไป ก็เห็นตำตากันอยู่และผมไม่ได้บอกว่าใครผิดใครถูก แต่กลายเป็นว่าผมกลายเป็นคนผิดทุกเรื่อง ส่วนพวกที่มีคดีอยู่ก็ไม่พูดถึง มันจะอะไรนักหนา โลกมันกลับตาลปัตร สมองหน้าหลังมันกลับกันเสียละมั้ง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ศาลอนุมัติปล่อยตัวนักศึกษา กังวลหรือไม่ว่าจะมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มอื่นๆ ออกมาอีก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็อยู่ที่คนทำ อยู่ที่นักศึกษา ในเมื่อศาลให้ความเมตตาไปแล้วก็ไปดูกัน แต่ถ้าบอกว่าไม่ผิดมันจะใช่หรือเปล่าก็ต้องไปดู วันนี้พ่อแม่และทุกๆ คนก็เป็นห่วง

“จะเสียสละไปเพื่อใคร เวลานี้มันเพื่อใคร ทำไมจะรออีกสักหน่อยไม่ได้หรือ ถามจริงๆ ว่าอยากจะมีรัฐบาลใหม่ในวันพรุ่งนี้เลยหรือไม่ จะเอาหรือเปล่า เพราะท่านเบื่อผมแล้วก็เอาคนใหม่เข้ามาแล้วต้อนเขาอย่างนี้บ้าง ส่วนการมีรัฐบาลจะเร็วไปหรือช้าไปขึ้นอยู่กับรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวที่เขาเขียนไว้ วันนี้ผมต้องขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจ ขอบคุณทุกคนที่ติชมอย่างมีสาระ ขอบคุณทุกคนที่เสนอวิสัยทัศน์โลกสวย ผมยอมรับทั้งหมดทุกเรื่อง มันอยู่ในหัวผมทั้งหมด ที่พูดทั้งหมดไม่ได้โกรธหรือว่าสื่อ แต่เราต้องมีมุมมองและเข้าใจถึงคำว่าอดีต ปัจจุบันและอนาคตว่าอดีตบ้านเมืองเป็นอย่างไร ปัจจุบันเรากำลังทำอะไร อนาคตจะเป็นอย่างไรในวันหน้าแล้ววันนี้คือประวัติศาสตร์ของวันข้างหน้า ถ้าทำสำเร็จก็จะเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่เปลี่ยนลุคใหม่ แต่ถ้าไม่ทำมันก็กลับไปสู่ที่เก่า ขณะที่คนอื่นเดินไปข้างหน้าทั้งหมด เรากลับเดินถอยหลังหรือยืนอยู่กับที่แค่นี้ก็ตายแล้ว แต่กลัวว่ามันจะหนักยิ่งกว่านี้เพราะเศรษฐกิจจะตกลงยิ่งกว่านี้ ถ้าไม่ทำอย่างที่พูด ขนาดสั่งกันทุกวันยังทำกันไม่ทำ พยายามเร่งทุกอย่าง ใครเชิญไปประชุมที่ไหนก็ไปทุกที่ ไม่เคยได้พักผ่อน ประชุมเสร็จก็กลับเพราะคิดถึงคนไทย พอกลับมาก็ได้รับทั้งรอยและคำถามน่าอบอุ่นและชื่นใจทำให้ผมต้องกระตือรือร้นขึ้นมาอีกนิด เลือดสูบฉีดขึ้นสมองอีกหน่อยก็พอที่จะมีแรง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนเป็นกระท้อนยิ่งทุบก็ยิ่งหวาน แต่ระวังตนจะทุบกลับไปให้บ้าง ตนเป็นกระท้อนสาว ถ้าเป็นกระท้อนแก่ๆ มันไม่ค่อยหวาน เพราะแก่เกินไปลูกมันใหญ่ ไม่อร่อย มันต้องพอดีๆ บางทีเขาก็เอาไปทำกระท้อนเชื่อม แต่ใช้ลูกขนาดพอดีไม่ใช้ลูกใหญ่มหาศาล กินไม่อร่อย เพราะฉะนั้นประเทศไทยต้องโตแบบแน่น แบบผลไม้ไทยที่เนื้อแน่น ใครก็อยากจะแย่งชิม ไม่ใช่คัดออก เราต้องมีตัวตนในเวทีโลก คนไทยต้องทำให้คนทั้งโลกได้เห็นถึงความรัก ความสามัคคี ความมีอัจฉริยะ มีบุคลิกภาพที่ดีในสังคมโลก ไม่ใช่ว่านักการศึกษาก็ตีกัน อาชีวะก็ตีกัน บนถนนก็เดินขบวน ไม่รู้อะไรหมู่อะไรจ่า อะไรคือกฎหมาย ไม่รู้สถานการณ์ว่าอะไรคืออะไร ปนเปไปหมดทุกเรื่อง ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยา ตีกันหมดทุกเรื่อง ทำไม่ได้สักเรื่อง แล้วประเทศไทยมันจะไปทางไหน ถ้าเราไม่สร้างระบบไว้ตั้งแต่วันนี้ วันข้างหน้าก็จะเป็นอย่างนี้อีกจำคำของตนและบันทึกไว้ด้วย วันหน้าจะถามใหม่ว่าสิ่งที่ตนคิดไว้มันทำได้หรือไม่ แล้วตนจะคอยประเมิน











กำลังโหลดความคิดเห็น