น้ำพริก เมนูอาหารพื้นบ้านที่แทบทุกครัวเรือนมักจะมีขึ้นโต๊ะเป็นเมนูโปรดประจำบ้าน ในแต่ละภาคของประเทศไทยต่างมีสูตรน้ำพริกเฉพาะของแต่ละท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น น้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาทู น้ำพริกอ่อง น้ำพริกตาแดง เป็นต้น ประโยชน์ของน้ำพริกที่มีมากกว่าความอร่อยนั้น ก็คือ คุณค่าทางอาหารและสมุนไพรที่เป็นส่วนผสม อันได้แก่ พริก หอม กระเทียม มะนาว และผักเคียงต่างๆ ฯลฯ
ทางมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โดย คุณอักขราทร ศิลปี ที่ปรึกษาพิเศษด้านอาหาร จึงได้คิดค้นและสร้างสรรค์เมนูน้ำพริกที่มีความแปลกใหม่ โดยนำผลไม้ตามฤดูการ และพืชผักต่างๆ มาเป็นส่วนประกอบ เพื่อเพิ่มคุณประโยชน์และคุณค่าทางด้านสมุนไพร จนได้เป็นเมนูน้ำพริกสูตรเด็ดมากสรรพคุณ อย่าง น้ำพริกมังคุดลงเรือไปหาทุเรียน น้ำพริกกระท้อน และน้ำพริกมะกรูด
สำหรับสูตร "น้ำพริกมังคุดลงเรือไปหาทุเรียน"
ส่วนประกอบ 1.กุ้งแห้ง 1 ถ้วย 2.กะปิ 3 ช้อนโต๊ะ 3.กระเทียม 1 ถ้วย 4.พริกขี้หนู ตามชอบ 5.มะนาว 5 ช้อนโต๊ะ 6.น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ 7.น้ำตาลมะพร้าว ½ ถ้วย 8.มังคุดลูกเล็ก 1 กิโลกรัม
ส่วนประกอบหมูหวาน 1.หมูบด 3 ถ้วย 2.หอมแดง 1 ถ้วย 3.น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ 4.น้ำมันรำข้าว ½ ถ้วย
วิธีทำ
1. ตำกระเทียม กุ้งแห้ง พริก กะปิ เติมเตรื่องปรุงตามรสที่ชอบ
2. ผัดหมู กับหอมซอย น้ำปลา น้ำตาล เคี่ยวจนงวด
3. นำส่วนผสมทั้งสองอย่าง ผัดรวมกัน ใส่มังคุด ผัดจนเข้าเนื้องวด ปรุงรสตามใจชอบ โรยพริกขี้หนู ทานแกล้มกับไข่เค็ม ปลาฟู
ประโยชน์ เปลือกมังคุดรสฝาด ช่วยสมาน ดับร้อนและฤทธิ์ต้านมะเร็งได้ มีสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย น้ำตาลจากธรรมชาติในเนื้อมังคุด ให้ความสดชื่น และยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรับประทานทุเรียน เพราะมังคุดจะไปช่วยดับร้อนจากทุเรียนได้เป็นอย่างดี
น้ำพริกกระท้อน
ส่วนประกอบ 1. กระท้อน 3 ลูก 2. หมูบด 1 ขีด 3. มะพร้าวขูด ½ กิโลกรัม 4. กะปิ 3 - 4 ช้อนโต๊ะ 5. หอมแดง กระเทียม พริดสด ตามชอบ 6. น้ำตาลทราย 7. เกลือป่น
วิธีทำ
1. ปอกเปลือกหอมแดง กระเทียม พริกสด ล้างให้สะอาด พักไว้ก่อน
2. ล้างกระท้อนให้สะอาด ผ่าครึ่ง ควักเมล็ดออก แล้วนำไปขูดด้วยกระต่ายขูดมะพร้าว ถ้าไม่มีให้ปอกเปลือกแล้วเอาเฉพาะเนื้อใส่ลงในเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด
3. คั้นน้ำกะทิ 1 ครั้ง เอาเฉพาะหัวกะทิ ให้ได้น้ำประมาณ 2 ถ้วยตวง
4. นำพริกสด หอมแดง กระเทียม กะปิ ใส่ครกตำให้ละเอียด จากนั้นใส่เนื้อกระท้อนกับหมูบดลงไป ใส่น้ำตาลทรายประมาณ 5 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 3 ช้อนชา (ถ้าหวานและเค็มไม่พอใส่เพิ่มที่หลังได้) ตำคลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้ก่อน
5. เอาน้ำกะทิตั้งไฟพอเดือด ตักน้ำพริกที่ตำไว้ใส่ลงไป คนให้ละลาย ชิมรสดูให้ออกรสเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ดเล็กน้อย ชิมรสได้ที่แล้วผัดต่อบนไฟร้อนปานกลางจนกว่าน้ำจะแห้ง ใช้เวลานานสักหน่อย และต้องหมั่นคน อย่าให้ไหม้ ผัดจนน้ำพริกกลิ้งในกระทะจึงตักพร้อมเสิร์ฟได้
ประโยชน์ กระท้อนมีรสฝาดเปรี้ยว ความเปรี้ยวที่นุ่มนวลจากกระท้อน จะช่วยเรียกน้ำลายช่วยย่อย ทำให้สดชื่น ความฝาดของกระท้อนช่วยสร้างเนื้อเยื่อทำให้ผิวกระชับและยังต้านอนุมูลอิสระ
น้ำพริกมะกรูด
ส่วนประกอบ 1.ผิวมะกรูด 1 หยิบมือ 2.น้ำมะกรูด ¼ ถ้วย 3.พริกขี้หนูสวน ¼ ถ้วย 4.ปลาแห้งย่างกรอบ 1 ถ้วย 5.น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 6.น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ 7.กระเทียมปลอกเปลือก 2 ช้อนโต๊ะ8.กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.นำปลาแห้งย่างไฟให้พอหอมและโคลกให้ละเอียด พักไว้
2.นำกะปิห่อใบตอง ไปย่างให้พอหอม และนำมาโคลกกับกระเทียม พริก ผิวมะกรูดให้พอแหลก
3.ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะกรูด น้ำตาล ชิมรสชาติให้กลมกล่อม และใส่ปลาแห้งกรอบที่เตรียมไว้ สามารถทานกับผักเคียงต้มหรือย่างได้รสดียิ่งขึ้น
ประโยชน์ มะกรูดมีรสเปรี้ยว ช่วยบำรุงเลือดลม ฟอกเลือดสตรี ซึ่งเหมาะกับผู้หญิง ช่วยบำรุงหัวใจ ทำให้สดชื่น มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยย่อย ขับลม
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถแวะไปชิมน้ำพริกสูตรเด็ด ตลอดจนเมนูอาหารเพื่อสุขภาพและสมุนไพรได้ที่ “ครัวไทยอภัยภูเบศร” ในงานมหกรรมอาหารและสุขภาพวิถีไท ครั้งที่ 2 “น้ำพริกถ้วยเก่า @สังคมใหม่”ในระหว่างวันที่ 25 - 28 มิถุนายน 2558 ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น. ณ ฮอลล์ 7 - 8 อิมแพคเมืองทองธานี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 037-211-289
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ทางมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โดย คุณอักขราทร ศิลปี ที่ปรึกษาพิเศษด้านอาหาร จึงได้คิดค้นและสร้างสรรค์เมนูน้ำพริกที่มีความแปลกใหม่ โดยนำผลไม้ตามฤดูการ และพืชผักต่างๆ มาเป็นส่วนประกอบ เพื่อเพิ่มคุณประโยชน์และคุณค่าทางด้านสมุนไพร จนได้เป็นเมนูน้ำพริกสูตรเด็ดมากสรรพคุณ อย่าง น้ำพริกมังคุดลงเรือไปหาทุเรียน น้ำพริกกระท้อน และน้ำพริกมะกรูด
สำหรับสูตร "น้ำพริกมังคุดลงเรือไปหาทุเรียน"
ส่วนประกอบ 1.กุ้งแห้ง 1 ถ้วย 2.กะปิ 3 ช้อนโต๊ะ 3.กระเทียม 1 ถ้วย 4.พริกขี้หนู ตามชอบ 5.มะนาว 5 ช้อนโต๊ะ 6.น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ 7.น้ำตาลมะพร้าว ½ ถ้วย 8.มังคุดลูกเล็ก 1 กิโลกรัม
ส่วนประกอบหมูหวาน 1.หมูบด 3 ถ้วย 2.หอมแดง 1 ถ้วย 3.น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ 4.น้ำมันรำข้าว ½ ถ้วย
วิธีทำ
1. ตำกระเทียม กุ้งแห้ง พริก กะปิ เติมเตรื่องปรุงตามรสที่ชอบ
2. ผัดหมู กับหอมซอย น้ำปลา น้ำตาล เคี่ยวจนงวด
3. นำส่วนผสมทั้งสองอย่าง ผัดรวมกัน ใส่มังคุด ผัดจนเข้าเนื้องวด ปรุงรสตามใจชอบ โรยพริกขี้หนู ทานแกล้มกับไข่เค็ม ปลาฟู
ประโยชน์ เปลือกมังคุดรสฝาด ช่วยสมาน ดับร้อนและฤทธิ์ต้านมะเร็งได้ มีสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย น้ำตาลจากธรรมชาติในเนื้อมังคุด ให้ความสดชื่น และยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรับประทานทุเรียน เพราะมังคุดจะไปช่วยดับร้อนจากทุเรียนได้เป็นอย่างดี
น้ำพริกกระท้อน
ส่วนประกอบ 1. กระท้อน 3 ลูก 2. หมูบด 1 ขีด 3. มะพร้าวขูด ½ กิโลกรัม 4. กะปิ 3 - 4 ช้อนโต๊ะ 5. หอมแดง กระเทียม พริดสด ตามชอบ 6. น้ำตาลทราย 7. เกลือป่น
วิธีทำ
1. ปอกเปลือกหอมแดง กระเทียม พริกสด ล้างให้สะอาด พักไว้ก่อน
2. ล้างกระท้อนให้สะอาด ผ่าครึ่ง ควักเมล็ดออก แล้วนำไปขูดด้วยกระต่ายขูดมะพร้าว ถ้าไม่มีให้ปอกเปลือกแล้วเอาเฉพาะเนื้อใส่ลงในเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด
3. คั้นน้ำกะทิ 1 ครั้ง เอาเฉพาะหัวกะทิ ให้ได้น้ำประมาณ 2 ถ้วยตวง
4. นำพริกสด หอมแดง กระเทียม กะปิ ใส่ครกตำให้ละเอียด จากนั้นใส่เนื้อกระท้อนกับหมูบดลงไป ใส่น้ำตาลทรายประมาณ 5 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 3 ช้อนชา (ถ้าหวานและเค็มไม่พอใส่เพิ่มที่หลังได้) ตำคลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้ก่อน
5. เอาน้ำกะทิตั้งไฟพอเดือด ตักน้ำพริกที่ตำไว้ใส่ลงไป คนให้ละลาย ชิมรสดูให้ออกรสเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ดเล็กน้อย ชิมรสได้ที่แล้วผัดต่อบนไฟร้อนปานกลางจนกว่าน้ำจะแห้ง ใช้เวลานานสักหน่อย และต้องหมั่นคน อย่าให้ไหม้ ผัดจนน้ำพริกกลิ้งในกระทะจึงตักพร้อมเสิร์ฟได้
ประโยชน์ กระท้อนมีรสฝาดเปรี้ยว ความเปรี้ยวที่นุ่มนวลจากกระท้อน จะช่วยเรียกน้ำลายช่วยย่อย ทำให้สดชื่น ความฝาดของกระท้อนช่วยสร้างเนื้อเยื่อทำให้ผิวกระชับและยังต้านอนุมูลอิสระ
น้ำพริกมะกรูด
ส่วนประกอบ 1.ผิวมะกรูด 1 หยิบมือ 2.น้ำมะกรูด ¼ ถ้วย 3.พริกขี้หนูสวน ¼ ถ้วย 4.ปลาแห้งย่างกรอบ 1 ถ้วย 5.น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 6.น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ 7.กระเทียมปลอกเปลือก 2 ช้อนโต๊ะ8.กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.นำปลาแห้งย่างไฟให้พอหอมและโคลกให้ละเอียด พักไว้
2.นำกะปิห่อใบตอง ไปย่างให้พอหอม และนำมาโคลกกับกระเทียม พริก ผิวมะกรูดให้พอแหลก
3.ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะกรูด น้ำตาล ชิมรสชาติให้กลมกล่อม และใส่ปลาแห้งกรอบที่เตรียมไว้ สามารถทานกับผักเคียงต้มหรือย่างได้รสดียิ่งขึ้น
ประโยชน์ มะกรูดมีรสเปรี้ยว ช่วยบำรุงเลือดลม ฟอกเลือดสตรี ซึ่งเหมาะกับผู้หญิง ช่วยบำรุงหัวใจ ทำให้สดชื่น มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยย่อย ขับลม
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถแวะไปชิมน้ำพริกสูตรเด็ด ตลอดจนเมนูอาหารเพื่อสุขภาพและสมุนไพรได้ที่ “ครัวไทยอภัยภูเบศร” ในงานมหกรรมอาหารและสุขภาพวิถีไท ครั้งที่ 2 “น้ำพริกถ้วยเก่า @สังคมใหม่”ในระหว่างวันที่ 25 - 28 มิถุนายน 2558 ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น. ณ ฮอลล์ 7 - 8 อิมแพคเมืองทองธานี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 037-211-289
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่