ปม “แจ๊ด ปืนจิ๋ว” โยงชื่อนักการเมืองใหญ่เจ้าของที่ดิน-บริษัทเอกชนด้านไฟฟ้าขยะ ปิดดีลซื้อขายโฉนดที่ดินรวม 16 โฉนดที่ ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ตามที่ผู้ว่าฯ ปทุมธานีออกมาแฉ “คำรณวิทย์” เป็นคนกลางเสนอขายที่ดินให้สร้างโรงงานเป็นของนักการเมืองใหญ่ พบเป็นของ “บรรหาร ศิลปอาชา” อดีต นายกฯ คนที่ 21 มีชื่อ “สิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล” เจ้าของบริษัท สี่แสงการโยธา โผล่ในโฉนดด้วย
วันนี้ (1 ก.ค.) มีรายงานว่า หลังจากที่นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้เขียนข้อความถึงกลุ่มสิงห์ดำ (ศิษย์เก่ารัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) พูดถึงกรณีถูกกล่าวหาว่าไปเกี่ยวข้องกับการไปดูงานโรงไฟฟ้ากำจัดขยะที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ในคณะมี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต ผบช.น.เดินทางไปด้วย โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า
“สายข่าวรายงานมาว่า มีนายทุนบ่อขยะเถื่อน ร่วมกับนักการเมืองท้องถิ่น ที่ต้องการเสียงตรงจุดที่เอกชนสนใจให้การสนับสนุนด้านการเงิน”
“ในบรรดาบริษัทที่สนใจเข้ามาลงทุนมีอยู่บริษัทหนึ่งสนใจที่ดินที่ ต.เชียงรากใหญ่ ซึ่งเคยเป็นของ “นักการเมืองใหญ่ท่านหนึ่ง” ตรงนี้ที่ “คุณคำรณวิทย์” เป็นคนกลางเสนอขายที่ดินให้สร้างโรงงาน เขาต้องการลดการต่อต้าน ก็เลยออกเงินผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ไปเห็นกับตา ว่าโรงงานที่นำขยะมาทำพลังงานไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หรือตามที่นักปลุกระดมสร้างภาพให้คิด เขากำลังจะนำชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับที่ดอนแปลงนี้ไปอีกทริปหนึ่ง เท่าที่ผมทราบมาครั้งนี้ เขาเลือกไปดูงาน 3 โรงงาน ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ และกลางกรุงโตเกียว
“คุณคำรณวิทย์ไปด้วย ผมสันนิษฐานว่าเขาต้องการใช้ภาวะผู้นำโน้มน้าวพูดให้คนปทุมกลุ่มต่างๆ เข้าใจ ไม่ต่อต้าน และช่วยทำความเข้าใจกลุ่มที่ยังไม่ทราบเรื่องระบบกำจัดขยะระบบปิด เพราะเขาต้องการให้โรงงานสร้างได้ (น่าจะเกี่ยวกับการขายที่ดิน)”
จากการตรวจสอบกรณีดักงล่าว “ผู้สื่อข่าว ASTV” พบว่า บริษัทที่สนใจเข้ามาลงทุนมีอยู่บริษัทหนึ่งสนใจที่ดินที่ ต.เชียงรากใหญ่ ซึ่งเคยเป็นของ “นักการเมืองใหญ่ท่านหนึ่ง”
ตรงนี้พบว่า หลังจากตรวจสอบสารบัญจดทะเบียน ฉบับที่ 3958 ของสำนักงานที่ดิน อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ระบุว่า เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2558 “นายบรรหาร ศิลปอาชา” อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ได้ขายโฉนดรวม 16 โฉนด ให้กับ “บริษัท ซุปเปอร์ เอิร์ธ เอนเนอร์ยี่ จำกัด” (SUPER EARTH) อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันว่าจะมีการนำที่ดินดังกล่าวไปสร้างโรงไฟฟ้าชุมนุมขนาดกลางหรือไม่
ขณะที่จำนวนที่ดินที่ทำสัญญา ประกอบด้วย โฉนดที่ 1 - 15 ไร่ 1 งาน 38 ตารางวา โฉนดที่ 2 - 18 ไร่ 3 งาน 14 ตารางวาโฉนดที่ 3 - 6 ไร่ 44 ตารางวา โฉนดที่ 4 -2 ไร่ 79 ตารางวา โฉนดที่ 5 - 7 ไร่ 48 ตารางวา โฉนดที่ 6 - 10 ไร่ 2 งาน 64 ตารางวา โฉนดที่ 7 - 16 ไร่ 3 งาน 4 ตารางวา โฉนดที่ 8 -15 ไร่ 36 ตารางวา โฉนดที่ 9 - 4 ไร่ 1 งาน 20 ตารางวา โฉนดที่ 10 - 4 ไร่ 64 ตารางวา โฉนดที่ 11 - 13 ไร่ 3 งาน 48 ตารางวา โฉนดที่ 12 - 11 ไร่ 2 งาน 57 ตารางวา โฉนดที่ 13 - 2 ไร่ 48 ตารางวา โฉนดที่ 14 - 5 ไร่ 3 งาน 91 ตารางวา โฉนดที่ 15 - 13 ไร่ 1 งาน 38 ตารางวา และโฉนดที่ 16 - 2 ไร่ 1 งาน 45 ตารางวา
รายงานระบุว่า สารบัญจดทะเบียน ฉบับที่ 3958 ยังระบุว่า มีชื่อนายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล เจ้าของบริษัท สี่แสงการโยธา (1979) จำกัด หุ้นส่วนในบริษัท คอสติกไทย จำกัด (ชื่อเดิมบริษัท สหศรีชัยเคมิคอลส์ จำกัด) ประกอบธุรกิจขายเคมีภัณฑ์ ของนายบรรหาร ศิลปอาชา เข้ามาเกี่ยวข้องกับการซื้อขายโฉนดรวม 16 โฉนดนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ตามฐานข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันละปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พบว่า เมื่อครั้งนายบรรหารเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.วันที่ 22 มกราคม 2551 นายบรรหารแจ้งว่ามีที่ดิน 201 แปลง เนื้อที่ 1,657-3-30 ไร่ มูลค่า 1,707.4 ล้านบาท ขณะที่คุณหญิงแจ่มใส มีที่ดิน 42 แปลง เนื้อที่ 257-2-60 ไร่ มูลค่า 354.8 ล้านบาท
ทั้งนี้ ไม่พบว่านายบรรหารมีที่ดินใน ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ระบุเพียงว่าที่ดินของคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา ในพื้นที่ ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี มีอยู่จำนวน 26 แปลง
มีรายงานว่า ขณะที่ “บริษัท ซุปเปอร์ เอิร์ธ เอนเนอร์ยี จำกัด” ตามสารบัญข้อมูลการจดทะเบียนนิติบุคคล ได้ทำการจดทะเบียน ณ วันที่ 16/1/2558 (16 มกราคม 2558) ทุนจดทะเบียนสำหรับบริษัท 1,000,000 บาท จดทะเบียนเพื่อวัตถุประสงค์ “ประกอบกิจการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานขยะ” ที่ตั้งเลขที่ 223/61 อาคารคันทรี่คอมเพล็กซ์ อาคารเอ ชั้นที่ 14 ถนนสรรพาวุธ แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260 เลขทะเบียนนิติบุคคล 0105558008953
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 58 “คณะกรรมการบริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน)” หรือ SUPER ได้อนุมัติการตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ของบริษัท 6 บริษัท เพื่อเป็นการรองรับการขยายธุรกิจของบริษัท และ/หรือเพื่อเป็นการรองรับธุรกิจใหม่ของบริษัท รวมทั้งเพื่อการเจริญเติบโตของบริษัทในอนาคต บัดนี้บริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อย 6 บริษัท ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รายละเอียดดังนี้
1. บริษัท ซุปเปอร์ เอิร์ธ เอนเนอร์ยี 1 จำกัด ทุนจดทะเบียน 100,000 บาท ลักษณะการประกอบธุรกิจ ดำเนินการและหรือลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทที่ดำเนินโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานขยะ โดยบริษัท ซุปเปอร์เอิร์ธ เอนเนอร์ยี จำกัด ถือหุ้น 99.98%
2. บริษัท ซุปเปอร์ เอิร์ธ เอนเนอร์ยี 2 จำกัด ทุนจดทะเบียน 100,000 บาท ลักษณะการประกอบธุรกิจ ดำเนินการและหรือลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทที่ดำเนินโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานขยะ โดยบริษัท ซุปเปอร์เอิร์ธ เอนเนอร์ยี จำกัด ถือหุ้น 99.98%
3. บริษัท ซุปเปอร์ เอิร์ธ เอนเนอร์ยี 3 จำกัด ทุนจดทะเบียน 100,000 บาท ลักษณะการประกอบธุรกิจ ดำเนินการและหรือลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทที่ดำเนินโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานขยะ โดยบริษัท ซุปเปอร์เอิร์ธ เอนเนอร์ยี จำกัด ถือหุ้น 99.98%
4. บริษัท ซุปเปอร์ เอิร์ธ เอนเนอร์ยี 4 จำกัด ทุนจดทะเบียน 100,000 บาท ลักษณะการประกอบธุรกิจ ดำเนินการและหรือลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทที่ดำเนินโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานขยะ โดยบริษัท ซุปเปอร์เอิร์ธ เอนเนอร์ยี จำกัด ถือหุ้น 99.98%
5. บริษัท ซุปเปอร์ เอิร์ธ เอนเนอร์ยี 5 จำกัด ทุนจดทะเบียน 100,000 บาท ลักษณะการประกอบธุรกิจ ดำเนินการและหรือลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทที่ดำเนินโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานขยะ โดยบริษัท ซุปเปอร์เอิร์ธ เอนเนอร์ยี จำกัด ถือหุ้น 99.98%
6. บริษัท เจนเนอรัส แลนด์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 100,000 บาท ดำเนินการและหรือลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทที่ดำเนินโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ บริษัท ซุปเปอร์ โซล่าร์ เอนเนอร์ยี จำกัด ถือหุ้น 99.98%
ล่าสุด กรมธนารักษ์ได้สรุปราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดิน รอบบัญชีปี พ.ศ. 2558 ในพื้นที่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี โดยมีรายงานจากฝ่ายการมืองใน ต.เชียงรากใหญ่ ว่า ที่ดินแปลงนี้มีเจ้าของประมาณ 3-4 ราย ไม่สามารถระบุชัดเจนได้แต่แบ่งเป็นกลุ่มทหาร นักการเมือง และประชาชน โดยที่ดินมีราคาประเมินอยู่ที่ไร่ละ 4 ล้านบาท
ตามข้อมูลเดิมของ ฝ่ายการเมืองท้องถิ่นใน ต.เชียงรากใหญ่ ระบุว่า หากมีการสร้างโรงไฟฟ้าชุมนุม ชาวบ้านจะได้รับประโยชน์จากศูนย์กำจัดขยะ ประกอบด้วย รายได้จากการขายไฟฟ้าร้อยละ 2 จาก “บริษัท ปทุมธานี คลีน เอนเนอร์จี จำกัด” และร้อยละ 1 จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สนามฟุตบอลขนาดมาตรฐาน 1 แห่ง กองทุนส่งเสริมกีฬาฟุตบอลปีละ 2 ล้านบาท และรายได้จากค่าขนขยะของบริษัทปทุมธานีฯ ร้อยละ 15 ซึ่งเก็บค่าขนส่งขยะตันละ 200 บาท โดยประมาณการว่าปทุมธานีจะมีขยะประมาณ 1,800 ตันต่อวัน
ฝ่ายการเมืองระบุว่า “บริษัทปทุมธานี คลีน เอนเนอร์จี จำกัด” เป็นเพียงบริษัทที่ตั้งขึ้นเฉพาะกิจ ด้วยเงินจดทะเบียนประมาณ 1 ล้านบาท
รายงานแจ้งว่า ล่าสุดพบว่ามีการการทำ MOU เมื่อปลายปี 2557 โดยเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างบริษัท ปทุมธานีฯ กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี ซึ่งรับประกันว่าจังหวัดปทุมธานีมีปริมาณขยะให้ผู้ลงทุนอย่างแน่นอน ยังไม่ใช่การทำสัญญาตามกฎหมาย ส่วนสัญญาการก่อสร้างโรงงานนั้นบริษัทฯ ต้องดำเนินการอีกหลายขั้นตอน ซึ่งจะเสร็จช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับท้องถิ่น
ทั้งนี้ยังพบว่า “คณะกรรมการของจังหวัด” เป็นผู้คัดเลือกบริษัท ปทุมธานีฯ เข้ามาลงทุนจากหลายๆ บริษัทที่เสนอการลงทุนเข้ามาที่จังหวัด และมีเพียง 2 บริษัทเท่านั้นที่ผ่านเกณฑ์คัดเลือก คือ บริษัทของญี่ปุ่น และเยอรมนี
มีรายงานว่า ก่อนหน้านั้นมีตัวแทนอุตสาหกรรมจังหวัด สิ่งแวดล้อมจังหวัด กรมโยธาธิการ ปลัดอำเภอ รองผู้ว่าราชการจังหวัด เดินทางไปดูโรงงานเผาขยะเพื่อผลิตไฟฟ้าทั้งที่ประเทศเยอรมนีในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2557 และที่ประเทศญี่ปุ่นที่เพิ่งเดินทางไปเมื่อเร็วๆ นี้ จนเกิดเรื่องกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง