เด็กเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการปทุมธานี ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ขอโยกย้ายตรวจสอบ ผอ.บริหารงานไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล งงเคยโดนร้องเรียนมาจากที่เก่าแล้วก็ยังมาโผล่อยู่นี่ได้
วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่ห้องรับเรื่องร้องทุกข์ชั่วคราว ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. เมื่อเวลา 11.30 น. กลุ่มนักเรียนจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการปทุมธานี ในนามสมาคมศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันจำนวน 30 คน นำโดยนายมงคล คุ้มสิน ได้มายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่องขอให้โยกย้ายและตรวจสอบการบริหารงานของ นายสาทร สมบุญ ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการปทุมธานี ที่บริหารงานไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ไม่โปร่งใสและเป็นธรรม บริหารงานตามอำเภอใจ รวบอำนาจไว้แต่เพียงผู้เดียว โดยมีนายสาธิต สุทธิเสริม เจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานมวลชน ศูนย์บริการประชาชน เป็นตัวแทนรับเรื่อง
ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าวระบุพฤติกรรมของนายสาทร อาทิ เน้นใช้งบประมาณไปกับการทาสีอาคาร โรงอาหาร และอื่นๆ โดยไม่จำเป็น โดยไม่พัฒนาคนไม่พัฒนาการเรียนการสอน, จัดซื้อหนังสือและสื่อไม่ตรงความต้องการและเกินความจำเป็น, เปิดช่องและปล่อยให้บริษัทเอกชนจำหน่ายเครื่องดื่มในโรงเรียนที่ไม่มีคุณภาพและราคาแพง รวมถึงปิดกิจการน้ำดื่มของโรงเรียน, ชอบพูดจาข่มขู่ ก้าวร้าว และพูดเกินความจริงไม่ให้ขวัญกำลังใจ, ห้ามครูและนักเรียนอยู่ภายในโรงเรียนหลังเวลา 16.30 น.โดยไม่ให้ซ้อมกีฬาหรือทำกิจกรรมใดๆ รวมถึงนายสาทรมีการถูกร้องเรียนจากโรงเรียนเดิม ทางเราจึงมีข้อสงสัยเหตุใดจึงถูกย้ายมาเป็นผู้บริหารโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ปทุมธานี อย่างไรก็ตาม สมาคมศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน่วนหนึ่งเล็งเห็นปัญหาดังกล่าวจึงพร้อมใจลงชื่อเพื่อขอทำเรื่องโยกย้าย และตรวจสอบการบริหารงานของนายสาทร
วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่ห้องรับเรื่องร้องทุกข์ชั่วคราว ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. เมื่อเวลา 11.30 น. กลุ่มนักเรียนจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการปทุมธานี ในนามสมาคมศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันจำนวน 30 คน นำโดยนายมงคล คุ้มสิน ได้มายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่องขอให้โยกย้ายและตรวจสอบการบริหารงานของ นายสาทร สมบุญ ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการปทุมธานี ที่บริหารงานไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ไม่โปร่งใสและเป็นธรรม บริหารงานตามอำเภอใจ รวบอำนาจไว้แต่เพียงผู้เดียว โดยมีนายสาธิต สุทธิเสริม เจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานมวลชน ศูนย์บริการประชาชน เป็นตัวแทนรับเรื่อง
ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าวระบุพฤติกรรมของนายสาทร อาทิ เน้นใช้งบประมาณไปกับการทาสีอาคาร โรงอาหาร และอื่นๆ โดยไม่จำเป็น โดยไม่พัฒนาคนไม่พัฒนาการเรียนการสอน, จัดซื้อหนังสือและสื่อไม่ตรงความต้องการและเกินความจำเป็น, เปิดช่องและปล่อยให้บริษัทเอกชนจำหน่ายเครื่องดื่มในโรงเรียนที่ไม่มีคุณภาพและราคาแพง รวมถึงปิดกิจการน้ำดื่มของโรงเรียน, ชอบพูดจาข่มขู่ ก้าวร้าว และพูดเกินความจริงไม่ให้ขวัญกำลังใจ, ห้ามครูและนักเรียนอยู่ภายในโรงเรียนหลังเวลา 16.30 น.โดยไม่ให้ซ้อมกีฬาหรือทำกิจกรรมใดๆ รวมถึงนายสาทรมีการถูกร้องเรียนจากโรงเรียนเดิม ทางเราจึงมีข้อสงสัยเหตุใดจึงถูกย้ายมาเป็นผู้บริหารโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ปทุมธานี อย่างไรก็ตาม สมาคมศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน่วนหนึ่งเล็งเห็นปัญหาดังกล่าวจึงพร้อมใจลงชื่อเพื่อขอทำเรื่องโยกย้าย และตรวจสอบการบริหารงานของนายสาทร
