รมว.สาธารณสุข เผยผู้ป่วยเมอร์สชาวโอมานอาการดีขึ้น รออีก 14 วัน หากผลตรวจเป็นลบถือว่าปลอดภัย ขอให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศเชื่อมั่นไทยมีมาตรการเฝ้าระวังและเกราะป้องกันที่เข้มแข็งพอ เตรียมเรียกโรงพยาบาลเอกชนทำความเข้าใจหลังมีข่าวไม่รับผู้ป่วยเมอร์ส
นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าอาการของผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (เมอร์ส) ในประเทศไทยว่า เช้าวันเดียวกันนี้ผู้ป่วยชาวโอมานที่ติดเชื้อไข้หวัดเมอร์สมีอาการดีขึ้นสามารถที่จะเคลื่อนไหวได้บ้าง ทั้งนี้ ญาติของผู้ป่วยจำนวน 3 คนยังแข็งแรงดี ส่วนผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อที่แต่เดิมมี 176 คนก็ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ และบางคนก็ออกนอกประเทศไทยไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม หากทีมแพทย์ของเราตรวจเชื้อของผู้ป่วยชาวโอมานพบผลเป็นลบอีก 2 ครั้งภายใน 14 วันก็จะยืนยันได้ว่าผู้ป่วยอยู่ในอาการปลอดภัยแล้ว
นพ.รัชตะกล่าวว่า ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นห่วงและหวังให้เราควบคุมสถานการณ์ได้ก่อนฤดูกาลท่องเที่ยวของไทยจะมาถึงนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขก็พยายามสร้างระบบและมาตรการป้องกันพร้อมกับเฝ้าระวังผู้ป่วยรายใหม่อย่างเต็มที่ และไม่ได้ปิดกั้นการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยแต่อย่างใด ส่วนการเดินทางออกไปยังประเทศแถบตะวันออกกลาง และเกาหลีใต้ คนไทยยังสามารถเดินทางได้ตามปกติ เพราะฉะนั้นหน้าที่ของเราคือสร้างเกราะกำบังภูมิคุ้มการประชากรไทยให้เข้มแข็งพอ และพร้อมที่จะคัดกรองตลอดเวลาว่าผู้ใดมีความเสี่ยงติดเชื้อโรคก่อนเข้าภายในประเทศไทย โดยกระทรวงฯ ได้แจกแผ่นพับให้ผู้โดยสารขาเข้าประเทศทั้ง 37 เที่ยวบินว่าทุกคนมีความเสี่ยง และหากมีไข้ในระหว่างเดินทางหรือเมื่อเดินทางมาถึงต้องแจ้งสายด่วน 1669 โดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลเพราะเราจะส่งทีมแพทย์ไปรับถึงสนามบินทันที
“นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศขอให้มีความเชื่อมั่นว่าเรามีมาตรการเฝ้าระวังและเกราะป้องกันที่เข้มแข็งพอในการเฝ้าระวังโรคชนิดนี้ ตั้งแต่เครื่องบินก่อนลงจอดและขึ้นบิน รวมถึงระหว่างเดินทาง หรือแม้กระทั่งแท็กซี่ที่ออกจะสนามบินระหว่างประเทศ ตลอดจนโรงพยาบาลทุกแห่งทั้งรัฐและเอกชนที่มีความพร้อมในการรับผู้ป่วยอยู่แล้ว”
ส่วนที่มีกระแสโรงพยาบาลเอกชน 2 แห่งปฏิเสธรับผู้ป่วยที่อาจเสี่ยงติดเชื้อ จึงส่งต่อสถาบันบำราศนราดูรแทนนั้น นพ.รัชตะกล่าวว่า เราได้นัดประชุมเพื่อทำความเข้าใจกับโรงพยาบาลเอกชนกว่า 100 แห่งเรื่องการขอให้ความร่วมมือ และยืนยันว่าโรงพยาบาลเอกชนไม่สามารถปฏิเสธผู้ป่วยแต่กระแสข่าวที่ออกมาทางโรงพยาบาลเอกชนได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขว่าหากมีความกังวลว่าผู้ป่วยอาจติดเชื้อก็ให้ประสานส่งตัวไปยังสถาบันบำราศนราดูรได้
เมื่อถามว่าหากประชาชนที่เดินทางกลับมาจากเกาหลีใต้หรือพื้นที่เสี่ยงต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าดูอาการถึง 14 วัน กระทรวงสาธารณสุขจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอย่างไรบ้าง นพ.รัชตะกล่าวว่า คนไทยทุกคนมีหลักประกันสุขภาพอยู่แล้ว แต่ถึงแม้จะเดินทางไปโรงพยาบาลเอกชนทางกระทรวงฯ ก็ดูแลค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ในส่วนของการเฝ้าระวัง
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเพิ่มเติมมาตรการเฝ้าระวังของ สธ.หรือไม่ นพ.รัชตะกล่าวว่า ตนยังไม่ได้พบนายกฯ แต่ได้รายงานความคืบหน้าทุกระยะให้ทาง นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุข รับทราบตลอดและทางเราเองก็ทำงานกันอย่างเต็มความสามารถ มีการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าทุกระยะอยู่แล้ว