เครือข่ายประชาชนยื่นผู้ตรวจฯ สอบจริยธรรม ครม. เหตุร่วมเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม-พ.ร.บ.เศรษฐกิจดิจิตอล ปล่อยสัมปทานเหมืองแร่ ชี้ปกปิดข้อมูลประชาชนและชาติเสียหาย เอกชนได้ผลตอบแทนมากกว่ารัฐ เอื้อพวกพ้อง แสวงหาประโยชน์
วันนี้ (19 มิ.ย.) เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ สภาธรรมาภิบาล นำโดยนายสุจินต์ ถวัลย์อรรณพ และคณะเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายดนัย จันทิม ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบจริยธรรมของคณะรัฐมนตรี รมว.กระทรวงพลังงาน รมว.อุตสาหกรรม รมว.เทคโนโลยีและสารสนเทศ ตามระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง 2551 ต่อกรณีร่วมกันนำเสนอและให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมปิโตรเลียม พ.ศ.. ร่าง พ.ร.บ.ภาษีปิโตรเลียม และร่าง พ.ร.บ.เศรษฐกิจดิจิตอล รวมถึงการปล่อยให้มีสัมปทานเหมืองแร่
นายสุจินต์กล่าวว่า การที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 12 พ.ค. เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ร่าง พ.ร.บ.ภาษีปิโตรเลียม ที่เสนอโดย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และนายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน โดยปกปิดข้อมูลต่อประชาชนทำให้ประเทศชาติเสียประโยชน์ เพราะเอกชนจะได้ผลตอบแทนมากกว่ารัฐและเสนอก็ปกปิดข้อมูล ขณะที่นายพรชัย รุจิประภา รมว.ไอซีที ได้เสนอ ครม.พิจารณา พ.ร.บ. เศรษฐกิจดิจิตอลโดยไม่เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนทราบเช่นกัน และการเสนอก็เป็นไปเพื่อประโยชน์พวกพ้อง ซึ่งที่นายปรีดิยาธรมีส่วนร่วมในการผ่านความเห็นชอบในฐานะคณะรัฐมนตรีก็จะไปเป็นประธานกองทุนเศรษฐกิจดิจิตอลที่ไม่สามารถถูกตรวจสอบได้โดยรัฐสภา เพราะเป็นการใช้เงินโดยไม่ผ่านกระบวนการงบประมาณตามปกติ จึงอาจเข้าข่ายเป็นการเปิดช่องในการแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบ สร้างบรรทัดฐานที่ผิด ขัดกับหลักวินัยการคลังอย่างร้ายแรง ส่วนนายจักรมนณ์ ผาสุกวณิช รมว.อุตสาหกรรม เข้าไปมีส่วนในการปล่อยให้มีสัมปทานเหมืองแร่โดยไม่สนใจสุขภาพสิ่งแวดล้อม ทำลายวิถีชีวิตชุมชน และสุขภาพอนามัยของชาวบ้าน ถือว่าเป็นการไม่รักษาผลประโยชน์ชาติเช่นกัน จึงขอให้ผู้ตรวจฯ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน หากพบว่าผิดให้แจ้งต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาลงโทษเพื่อให้เกิดมาตรฐานที่ดีในการบริหารบ้านเมือง
