“สังศิต” เผยจะตั้งกาสิโนต้องมองวัตถุประสงค์ ค้านทำเพื่อเป็นตัวเลือกนักพนัน หนุนทำให้เป็นส่วนหนึ่งศูนย์ประชุมนานาชาติ ชี้ทำรายได้มากกว่า สร้างงานได้แยะ แนะคิดค่าเข้า-โชว์สเตทเมนต์ คัดกรองคนแบบสิงคโปร์ ที่สำคัญรัฐบาลต้องโปร่งใสไม่แสวงประโยชน์
วันนี้ (16 มิ.ย.) นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) อดีตรองประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี 12 สปช.ในนามกลุ่มรักชาติ เสนอขอให้รัฐบาลตั้งกาสิโนเพื่อดึงเงินเข้ารัฐและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจว่า ต้องมองก่อนว่าการเสนอมีวัตถุประสงค์อย่างไร หากจะหาเงินเข้ารัฐหรือทำให้ถูกต้อง เพราะเพื่อนบ้านรอบประเทศไทยมีการตั้งกาสิโนจำนวนมาก หากจะทำโดยเน้นรองรับอุตสาหกรรมการพนันอย่างที่พม่า มาเก๊า หรือกัมพูชาทำอยู่นั้น ตนไม่เห็นด้วยที่จะให้มีบ่อนแบบนี้ เพราะจะเป็นแค่การเพิ่มตัวเลือกของนักพนันที่จะเลือกเข้ากาสิโนเพิ่มขึ้นเท่านั้น
“หากจะสร้างกาสิโนก็ควรจะเป็นแค่หนึ่งในระบบเอนเตอร์เทนนี้เท่านั้น มีตัวอย่างที่สำเร็จแล้วคือสิงคโปร์ ที่ดึงดูดองค์กรใหญ่มาประชุมและสร้างรายได้ให้ชาติได้ เฉพาะแค่การชอปปิ้งสร้างรายได้สูงถึงร้อยละ 20 หากรัฐบาลจะทำผมว่าควรเล่นเกมใหญ่เพื่อเป็นตัวเลือกขององค์กรใหญ่ที่จัดประชุมนานาชาติประจำปีซึ่งจัดประชุมประจำปีครั้งละ 5,000-10,000 คน ถ้าทำกาสิโนให้เป็นส่วนหนึ่งในศูนย์ประชุมนานาชาติในรูปแบบนี้ผมเห็นด้วย เพราะจะเป็นอุตสาหกรรมนำรายได้เข้าประเทศได้มากกว่า และเป็นระบบคัดกรองได้ เพราะไทยได้เปรียบเพื่อนบ้านในทุกด้าน คือมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติดีกว่า และมากกว่าสิงคโปร์ และเรามีรากเหง้าของศิลปวัฒนธรรมทุกด้าน รวมถึงมีอาหารไทยและผลไม้ดีๆ ที่จะรองรับอุตสาหกรรมเหล่านี้ได้ และจะเป็นการสร้างงานในระบบได้อีกมาก”
ส่วนปัญหาที่เกรงว่าจะมีคนไทยที่จะเข้ามาใช้บริการนั้น นายสังศิตแนะนำว่า ต้องตั้งระบบคัดกรอง เช่น ที่สิงคโปร์ คิดค่าเข้าครั้งละ 100 ดอลลาร์ รายปี 1,000 ดอลลาร์ คนในประเทศจะเข้ามาใช้ต้องมีรายได้กำไรสุทธิปีละ 2-3 ล้านบาท และโชว์สเตทเมนต์เพื่อเป็นการคัดกรองคนที่พร้อม ที่มีกำลังจ่าย ไม่ใช่คนไม่พร้อม เพราะจะเป็นการสร้างปัญหาสังคมตามมาอีก ที่สำคัญต้องได้รัฐบาลมีความโปร่งใสในการดำเนินการในเรื่องนี้ โดยประกาศให้เป็นนโยบายเพื่อชาติและไม่มีการแสวงหาผลประโยชน์จากอำนาจหน้าที่ซึ่งหากรัฐบาลจะทำก็ต้องเริ่ม เพราะใช้เวลาสร้างอย่างน้อย 5 ปี