xs
xsm
sm
md
lg

นายกรัฐมนตรีถกร่วม ครม.-คสช.วางกรอบแก้ รธน.ชั่วคราว เปิดทางทำประชามติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” นั่งหัวโต๊ะประชุมร่วม “ครม.-คสช.” ถกกรอบแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว เปิดทางทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ขณะที่เครือข่ายผู้ใช้จักรยาน มอบดอกไม้ขอบคุณ “บิ๊กตู่” ส่งเสริมการใช้จักรยาน

ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (6 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ คสช. โดยมีรัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

ทั้งนี้ ก่อนการประชุมที่บริเวณทางเชื่อมตึกไทยคู่ฟ้าและตึกสันติไมตรี ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้จักรยานจากประเทศ ร่วมกับมูลนิธิเมาไม่ขับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นำโดย น.ส.ก้องกาตน์ และน.ส.นินท์ ย่องลั่น บุตรสาวของเหยื่อที่เสียชีวิตจากคนเมาแล้วขับที่ จ.เชียงใหม่ เข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อมอบดอกไม้ และเสื้อนักปักจักรยานที่มีข้อความว่า “เมาขับจับขัง” ให้แก่นายกรัฐมนตรี เพื่อขอบคุณที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบายการลดอุบัติเหตุทางถนนและนโยบายส่งเสริมการใช้จักรยาน โดยนายกรัฐมนตรีได้เซ็นชื่อบนเสื้อให้แก่ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้จักรยาน ก่อนที่จะเดินขึ้นห้องประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเข้าพบนายกรัฐมนตรี ตัวแทนกลุ่มผู้ใช้จักรยานทั่วประเทศจะร่วมกันปั่นจักรยานไปยังศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เพื่อยื่นหนังสือถึงประธานศาลฎีกา เพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจในการตัดสินคดีเมาแล้วขับด้วยบทลงโทษสูงสุด คือการจำคุกหรือกักขังโดยไม่รอลงอาญา

สำหรับวาระการประชุมในการประชุมร่วม ครม.และ คสช.วันนี้ มีประเด็นที่น่าติดตามอาทิ ความคืบหน้าการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 เพื่อเปิดทางทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือถึงกรอบ รายละเอียดและแนวทางการทำประชามติหากร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ผ่านความเห็นชอบจากประชาชน

ขณะเดียวกัน ในการประชุม ครม. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอรายงานการวิเคราะห์สถานการณ์ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประเทศไทยปี 2556 และรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสที่ 1 ของปี 2558 ขณะที่กระทรวงการคลัง เสนอวาระเงินกู้จากรัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะที่ 2 และการลงนามร่างความตกลงยอมรับร่วมกันเกี่ยวกับโครงการผู้ประกอบการทางเศรษฐกิจที่ได้รับอนุญาต ระหว่างกรมศุลกากรไทยกับเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ทั้งนี้ในส่วนของการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองระหว่างปี 2547-2553 และระหว่างปี 2556-2557 จะยังไม่มีการนำมติจากที่ประชุมคณะกรรมการฯ เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นงบกลางจึงต้องขอความเห็นชอบจากสำนักงบประมาณ โดยคาดว่าจะสามารถนำเข้าสู่ที่ประชุมสัปดาห์หน้าได้











กำลังโหลดความคิดเห็น