รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลั่นพร้อมรวบบิ๊กข้าราชการเอี่ยวค้ามนุษย์อีก ยันไม่มีแรงกดดันจนทำงานไม่ได้ จ่อหาเครือข่ายเชื่อมโยงขบวนการทั้งหมด จับตาเกี่ยวนายทุน-นักการเมืองหรือไม่ เผยปิดปลายทางเขาแก้วทำขนส่งโรฮีนจาหยุดชะงัก รับอายัดทรัพย์แล้ว 200 ล้าน
วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.15 น. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงการดำเนินคดีต่อ พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจาว่า การออกหมายจับดังกล่าวมาจากการสอบปากคำผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง ในอนาคตหากมีเจ้าหน้าที่หรือฝ่ายปกครองเข้าไปเกี่ยวข้องพร้อมออกหมายจับอีกซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้กำชับและเน้นย้ำมาโดยตลอดว่าให้สืบสวนสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นใครหรือเกี่ยวข้องในลักษณะใด ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน ไม่มีแรงกดดันจนทำให้ไม่สามารถปฏิบัติงานได้ นอกจากนี้ต้องหาเครือข่ายที่เชื่อมโยงเพื่อจะได้ทราบถึงกระบวนการค้ามนุษย์ทั้งหมด
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ขณะนี้เหลืออยู่อีกประมาณ 30 คน มีภูมิลำเนาอยู่ใน จ.สงขลา สตูล ระนอง รวมทั้งนายณัฐภัทร แสงทอง หรือ “โกมิก” ที่ถูกจับที่ประเทศพม่า โดยเราได้ประสานขอตัวแล้วเพราะเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญที่จะต้องสอบสวน ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ ขณะนี้ได้ทยอยเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่แล้ว ส่วนเรื่องนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองและนายทุนหรือไม่นั้นคงต้องจับตาดูด้วย
“คนทำมาหากินเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องอยู่กระบวนการเดียว โดยเริ่มตั้งแต่ต้นทางคือที่ จ.ระนอง ระหว่างทางคือ จ.นครศรีธรรมราช จ.สตูล และปลายทางที่เขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา โดยเราได้กำหนดยุทธการปิดปลายทาง คือ จากบนเทือกเขาแก้ว และรอยต่อจาก จ.สงขลา และ จ.สตูลแล้ว ทำให้ไม่มีที่พักพิง จึงทำให้ต้นทางที่ จ.ระนองหยุดชะงัก นอกจากนี้ เรายังยึดและอายัดทรัพย์สินผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการกว่า 200 กว่าล้านบาท” พล.ต.อ.เอกกล่าว