xs
xsm
sm
md
lg

“พีระศักดิ์” คาดต้นเดือนหน้า ครม.เสนอขอแก้ไข รธน.เปิดทางทำประชามติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พีระศักดิ์ พอจิต (แฟ้มภาพ)
รองประธาน สนช.คาด ต้นมิ.ย. ครม.เสนอข้อแก้ไข รธน.ชั่วคราวเพื่อเปิดทางทำประชามติให้พิจารณา ย้ำในร่าง รธน.ฉบับใหม่ต้องมี ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง ระบุวิกฤตการเมืองเกิดจากตัวบุคคล ไม่เกี่ยวระบบเลือกตั้ง ส่วนการยื่นถอดถอน “ยิ่งลักษณ์” กรณีไม่ยึดพาสปอร์ต “นช.แม้ว” สามารถทำได้ เหตุต่างกรรมต่างวาระจากกรณีที่ผ่านมา


นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่สอง กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมหลังจากที่คณะรัฐมนตรีเตรียมขอแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เพื่อเปิดช่องให้มีการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญว่า เท่าที่ทราบ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้พุดคุยกับคณะรัฐมนตรีแล้ว คาดว่าในช่วงต้นเดือนมิถุนายน จะเสนอเข้ามายังสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อพิจารณา โดยน่าจะเป็นเรื่องการขยายเวลาให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จาก 60 วัน เป็น 90 วัน ทำให้การลงมติร่างรัฐธรรมนูญของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ต้องเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 6 กันยายน ซึ่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีหน้าที่เพียงให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบเท่านั้น และมีเวลาพิจารณาเพียง 15 วัน และได้วางกรอบเบื้องต้นพิจารณา 3 วาระรวดในวันเดียว

นายพีระศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษา เสนอแนะ และรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เสนอให้เรื่องที่มา ส.ว. มาจากการสรรหาทั้งหมดว่า ต้องดูรัฐธรรมนูญที่จะออกมาว่าเป็นอย่างไร คงพูดล่วงหน้าไม่ได้ แต่เท่าที่ทราบไม่ได้ห้าม ส.ว.ปี 2551 กับ ส.ว.ปี 25857 เพราะในหลักการ ส.ว.ปี 2557 เข้ารับการสรรหาได้อยู่แล้ว และจากการถามคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ห้าม ส.ว.ปี 2551 และส.ว.ปี 2557 ก็มีแนวโน้มเพราะยังทำหน้าที่ไม่ครบวาระ

ส่วนที่มาส.ว.ตนยืนยันมาโดยตลอดว่าที่ผ่านมา เราลองมาหมดแล้วให้มีทั้งแบบเลือกตั้งทั้งหมด หรือสรรหาทั้งหมด หรือแบบผสม ซึ่งเหตุการณ์วิกฤตของบ้านเมืองที่ผ่านมาไม่ได้เกิดมาจาก ส.ว. ซึ่งประชาชนยังผูกยึดกับ ส.ส.ดังนั้น ไม่ควรลดจำนวน ส.ส. ขณะเดียวกัน ส.ว. ก็มีการเลือกตั้งในทุกจังหวัดก็มีส.ว.จึงไม่ควรไปตัดออก จะได้พูดได้ว่า ส.ว.ก็ยึดโยงประชาชน

ทั้งนี้ มองว่าเหตุการณ์วิกฤตของบ้านเมืองที่ผ่านมาไม่ได้เกิดจากระบบว่าเป็นเลือกตั้งหรือสรรหา แต่อยู่ที่ตัวบุคคล และถ้ายังระแวง ก็น่าจะนำรูปแบบของรัฐธรรมนูญ 2550 ที่มีทั้ง ส.ว.เลือกตั้งและสรรหา ที่สำคัญต้องสร้างกระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว.ที่มีความละเอียด รอบคอบ และยุติธรรม ต้องไม่ใช่มาจากการสรรหาของคน 6-7 คน และโยงกันไปมา

รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่สอง ยังกล่าวถึงการที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังพิจารณาเพื่อชี้มูลถอดถอนหรือไม่ กรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายาสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไม่เรียกคืนหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ต้องดูว่า ป.ป.ช.จะชี้มูลกรณีดังกล่าวหรือไม่ แต่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก็ได้วางแนวทางไว้ หากมีการส่งเรื่องมาเป็นการชี้มูลถอดถอนในการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีและเข้าหลักเกณฑ์ ก็สามารถเข้าสู่กระบวนการถอดถอนได้ แต่ไม่ใช่การถอดถอนซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะเป็นเรื่องต่างกรรมต่างวาระ ส่วนผลที่จะออกมาหากมีมติถอดถอนอย่างน้อยที่สุด ระยะเวลาที่จะถูกห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็จะยืดออกไปอีก แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูสำนวนชี้มูลของป.ป.ช.ก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นชนวนความขัดแย้งครั้งใหม่หรือไม่ นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีบอกว่าเป็นเรื่องของข้อกฎหมาย ไม่ใช่การกลั่นแกล้ง แต่เป็นกระบวนการที่ดำเนินการมานานแล้ว และมายุติลงเวลานี้พอดี ไม่ใช่ว่านายกรัฐมนตรีไปจี้ จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจว่าเป็นกระบวนการที่ทำมาอยู่แล้ว ทั้งนี้ เป็นหน้าที่ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายความมั่นคงที่ต้องดูแล เพราะแน่นอนว่าต้องมีกลุ่มคนที่เห็นด้วยกับการถอนหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณออกมาเคลื่อนไหวเพื่อแสดงออก ตนคิดว่านายกรัฐมนตรีตัดสินใจถูกที่ให้ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำตามหน้าที่นั้น ส่วนนายกรัฐมนตรี ก็มีมาตรา44 นำมาใช้ระงับเหตุการณได้ แต่ถ้าไม่ทำก็เกิดคำถามอีกว่า มีอำนาจแต่กลับไม่ทำหน้าที่


กำลังโหลดความคิดเห็น