“พ่อใหญ่จิ๋ว” เปิดบ้านโต้ไม่จริง ลงนาม MOU จีนในโครงการคอคอดกระ เผยแจงหวั่นกระทบสัมพันธ์ โบ้ยผู้ไม่หวังดีปล่อยข่าวอยู่ในคณะที่พบรัฐบาลจีน โยงรัฐมนตรีเอี่ยว เผยภาพข่าวเซ็นหนังสือ แค่หารือการทำงาน
วันนี้ (22 พ.ค.) ที่บ้านพักส่วนตัวภายในซอยปิ่นประภาคม ย่านนนทบุรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ชวลิตไปร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างประเทศไทยและจีนในโครงการคอคอดกระ ที่เมืองกว่างโจว เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง การที่ตนจำเป็นต้องออกมาชี้แจงเพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนได้ ทั้งนี้ข่าวที่ปรากฏออกมามีการกล่าวหาว่าตนไปร่วมลงนามกับรัฐบาลหรือตัวแทนภาคเอกชนที่กวางโจวในวันที่ 15 พ.ค. 58 พร้อมทั้งมีการนำภาพออกมาเผยแพร่นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะวันดังกล่าวเป็นวันเกิดของตน และตนอยู่กับพรรคพวกเพื่อนฝูงในประเทศไทย เรื่องนี้สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ แต่ก็ยังมีความพยายามเปลี่ยนวันเวลาในการลงนามจากวันที่ 15 พ.ค. 58 เป็นวันที่ 10 พ.ค. 58 ปล่อยข่าวออกมาอีก รวมไปถึงในส่วนของข่าวที่ระบุว่าตนใช้เอกสารลงนามที่มีตราสัญลักษณ์ของรัฐบาลนั้นก็เป็นเรื่องเท็จเช่นกัน
พล.อ.ชวลิตกล่าวต่อว่า ข่าวที่เกิดขึ้นเป็นข่าวปล่อยจากผู้ไม่หวังดีที่ต้องการสร้างความตื่นตระหนกให้เกิดขึ้น และเป็นที่น่าสังเกตว่าเมื่อข่าวปรากฏออกมาเพียงแค่ครึ่งวัน ก็มีการถอดข่าวดังกล่าวออกจากโซเชียลมีเดียทั้งหมด ขอยืนยันว่าข่าวนี้ก็เป็นเท็จ ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการลงนาม และจากการตรวจสอบทราบว่าผู้ให้ข่าวดังกล่าว เป็นหนึ่งในคณะที่ไปพบกับรัฐบาลจีนที่กวางโจวจริง และมีการลงนามบันทึกข้อตกลงด้วย แต่ไม่ทราบรายละเอียดว่าเรื่องใด อีกทั้งยังมีรัฐมนตรีคนหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้ปรากฏอยู่ด้วย
“ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของผมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนมาโดยตลอด เมื่อมีข่าวนี้เกิดขึ้นอาจทำให้นานาชาติคิดว่าไทยกับจีนจะร่วมมือกันทำอะไรเพื่อสร้างอิทธิพลให้เกิดขึ้นบริเวณนี้หรือไม่ ผมยืนยันว่าไม่เคยทำอะไรที่จะสร้างความกระทบกระเทือนและเสียหายระหว่างไทยกับจีน” อดีตนายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภาพประกอบข่าวที่เผยแพร่ออกมามีภาพของ พล.อ.ชวลิตร่วมลงนามกับนักธุรกิจของจีนอยู่ด้วย พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ภาพดังกล่าวถ่ายขึ้นเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา เกิดขึ้นภายในประเทศไทยซึ่งตนกับนักธุรกิจจีนได้หารือเรื่องการทำงาน การสร้างถนน ส่วนโครงการคอคอดกระก็มีเพียงแค่การพูดถึง แต่ไม่มีการลงนามใดๆทั้งสิ้น