“บิ๊กป้อม” สั่งหน่วยงานมั่นคงสกัดนายทุนลักลอบขนน้ำมันปาล์มจากมาเลเซีย หลังพบราคาต่ำกว่ำไทยถึงกิโลกรัมละ 6 บาท ไฟเขียวออกกฎหมายปาล์มแห่งชาติ พร้อมขอร้องเอกชนรับซื้อปาล์มดิบกิโลฯ ละ 4.20 บาท
วันนี้ (20 พ.ค.) มีรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการฯ อย่างเร่งด่วน ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้ มีนายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรฯ นางชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร นอกจากนี้มีตัวแทนจากกรมพลังงานทดแทน กระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง อาทิ สมาคมผู้ผลิตน้ำมันปาล์ม เข้าร่วมประชุมด้วย
มีรายงานว่า หลังหารือกว่า 1 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติกำหนดราคาให้ภาคเอกชนเข้ามารับซื้อผลปาล์มดิบในราคากิโลกรัมละ 4.20 บาทสำหรับผลปาล์มดิบที่มีน้ำมัน 17 เปอร์เซ็นต์
พล.อ.ประวิตรกล่าวภายหลังว่า มติดังกล่าวมีเงื่อนไขว่า ถ้ามีเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูงกว่าที่กำหนด จะบวกราคาขึ้นเปอร์เซ็นต์ละ 30 สตางค์ ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้จัดตั้ง “คณะกรรมการประชาสัมพันธ์” ให้ประชาชนและเกษตรกรได้รับรู้ข้อมูลจากรัฐบาลในมาตรการแก้ไขปัญหาทุกระยะซึ่งมีทั้งระยะเร่งด่วนและระยะสั้นภายใน 3 เดือน
ส่วนระยะยาวจะทำให้การแก้ไขเป็นระบบ พร้อมกับจะให้มีการออก พ.ร.บ.ปาล์มแห่งชาติ โดยให้กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม รวมถึงผู้ประกอบการร่วมกันจัดทำร่างกฎหมายดังกล่าวที่จะวางมาตรการแก้ไขอย่างครบวงจร
“สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ปัญหาลักลอบน้ำมันเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากมีราคาต่ำกว่าถึงกิโลกรัมละ 6 บาท จึงสั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารเรือ ตำรวจน้ำ และกรมศุลกากร เข้มงวดในการตรวจจับการลักลอบนำเข้าในประเทศไทย” รองนายกฯ ระบุ
ขณะที่ประชุมได้รับทราบทางลับว่า พื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันทั่วประเทศขณะนี้มีกว่า 4 ล้านไร่ มีผลผลิตเฉลี่ยปีละ 12 ล้านตัน แต่ที่ผ่านมากลุ่มพ่อค้ากดราคาเกษตรกร โดยอ้างเหตุผลว่าผลปาล์มดิบมีเปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำ ส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาขาดแคลนแรงงาน และตัดปาล์มน้ำมันที่มีอายุไม่ถึงมาขาย
“แต่มีการตรวจสอบพบว่า มีกลุ่มเอกชนบางรายลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีราคาถูกกว่าน้ำมันปาล์มในประเทศไทย ถึงกิโลกรัมละ 6 บาท ทำให้กระทบต่อราคาปาล์มดิบในไทยอย่างรุนแรง”