ประธาน กมธ.ยกร่างฯ ปัดเสนอให้ยืดเวลายกร่างรัฐธรรมนูญเพิ่ม 30 วัน คาด ครม.ห่วงฉุกละหุก รอ สนช.ตอบรับ ชี้กระบวนการต้องเลื่อนออกไป ไม่ทราบกระทบลงมติรับร่างฯ แจง กมธ.จ้อแก้รัฐธรรมนูญเป็นความเห็นส่วนตัว ยังไม่มีมติ รับยังไม่เตรียมประชามติ ชี้ สปช.ขู่คว่ำร่างฯ เป็นเอกสิทธิ์แสดงความเห็น แย้มไม่ผ่านไม่กลับมา
วันนี้ (20 พ.ค.) นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาให้ กมธ.ยกร่างฯพิจาณาข้อเสนอแนะแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญจากเดิม 60 วันไปอีกไม่เกิน 30 วันเป็น 90 วัน ว่ากรณีดังกล่าวทางกมธ.ยกร่างฯไม่ได้เป็นคนเสนอไป เข้าใจว่าทาง ครม.คงเห็นว่ากระบวนการยกร่างฯเป็นเรื่องที่ฉุกละหุกจึงได้เสนอให้แก้ไขเพิ่มระยะเวลา ทั้งนี้ ช่วงระยะเวลา 60 วันตามกำหนดการเดิม ทาง กมธ.ยกร่างฯ จะต้องพิจาณาแบบไม่มีวันหยุด น่าจะเป็นเหตุผลที่ ครม.เห็นว่าจะต้องแก้ไขเพื่อขยายเวลา ต้องรอดูว่า สนช.จะเห็นด้วยกับการขยายระยะเวลาไปอีก 30 วันหรือไม่ ดังนั้นหากมีการขยายเวลา จะทำให้กระบวนการทุกอย่างจะต้องเลื่อนออกไปจากกำหนดการเดิม ส่วนจะกระทบต่อวันลงมติรับร่างฯของ สปช.ในวันที่ 6 ส.ค.หรือไม่นั้นตนไม่ทราบ เพราะจะมาพูดก่อนไม่ได้ เพราะครม.อาจจะเปลี่ยนใจไม่ขยายเวลาการทำงานให้กับ กมธ.ยกร่างฯ ก็ได้
“ขณะนี้ กมธ.ยกร่างฯ ยังไม่มีการหารือว่าจะแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญประเด็นใด เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการรอคำขอแก้ไขจาก สปช., คสช. และครม. การที่ กมธ.ยกร่างฯ บางคนออกมาแสดงความเห็นว่าจะมีการแก้ไขบางประเด็น ยืนยันว่าเป็นความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่มติของที่ประชุม กมธ.ยกร่างฯ แต่อย่างใด เพราะสิ่งสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญจำเป็นต้องได้รับคำขอแก้ไขที่ถูกต้องมาก่อน จะพูดลอยๆ ไม่ได้ เหมือนกับ ยังไม่เห็นน้ำไปตัดกระบอก ไม่เห็นกระรอกไปโก่งหน้าไม้ ดังนั้นอย่าพึ่งมาถามว่าจะแก้อะไร”
เมื่อถามว่าทาง กมธ.ยกร่างฯ จะมีการเตรียมความพร้อมในการจัดทำประชามติหรือไม่ นายบวรศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรต้องเตรียม เพราะต้องเตรียมร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จก่อน เมื่อร่างสุดท้ายเสร็จแล้วและ สปช.ให้ความเห็นชอบ ค่อยมาพูดกัน แต่หาก สปช.ไม่เห็นชอบก็ไม่ต้องเตรียมอะไรทั้งนั้นเนื่องจาก ต้องมีการตั้ง สปช.และกมธ.ยกร่างฯ ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด และตนก็จะไม่กลับมาแล้ว
ส่วนที่มี สปช.บางคนออกมาแสดงท่าทีเสนอให้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ นายบวรศักดิ์กล่าวว่า ก็เป็นความเห็นของ สปช.แต่ละคน ตนก็เคารพ เนื่องจากเป็นเอกสิทธิ์ที่จะแสดงความเห็นออกมา แต่ถ้าไม่เห็นชอบก็ต้องรู้ผลว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต้องเริ่มกระบวนการใหม่ ใช้เวลาอีกเกือบปี