xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” งัดมาตรา 44 ฟันเปรี้ยง “45 ข้าราชการ-เจ้าหน้าที่รัฐ” เด้งหลังถูกสอบทุจริต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หัวหน้า คสช. อาศัยมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ระงับการปฏิบัติราชการของข้าราชการ หน่วยงานอื่นของรัฐ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หลังอยู่ระหว่างถูกตรวจสอบในหลายหน่วยงาน พบคนรับแจ็กพอต “สุวัตร” ปลัดท่องเที่ยวและกีฬา “แก่นเพชร” รองปลัดมหาดไทย “พล.ต.ท.สุรพล” จเรตำรวจ โดนด้วย ด้าน “ประเสริฐ อภิปุญญา” ซูเปอร์บอร์ด กสทช. ก็โดน

วันนี้ (15 พ.ค.) ราชกิจจานุเบกษาได้ตีพิมพ์คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2558 เรื่อง มาตรการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบ และการกําหนดกรอบอัตรากําลังชั่วคราว ระบุว่า โดยที่เจ้าหน้าที่ของรัฐในส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐหลายรายอยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบของ สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และสํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน มูลกรณีเป็นเรื่องกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริต หรือประพฤติมิชอบ ทําให้เสียหายแก่ทางราชการ หรือทําให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน แม้ผลการตรวจสอบยังไม่อาจสรุปความผิดได้ชัดเจนถึงขั้นชี้มูลความผิดแต่บางเรื่องมีการกระทําเป็นขบวนการ การตรวจสอบจึงใช้เวลานานและบางเรื่องไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้เกี่ยวข้องเท่าที่ควรดังที่หน่วยงานตรวจสอบดังกล่าวได้แจ้งให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติและรัฐบาลทราบมาเป็นลําดับ

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เห็นควรกําหนดมาตรการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบดังกล่าวและกําหนดกรอบอัตรากําลังชั่วคราวเพื่อรองรับมาตรการเช่นว่านั้นอีกทั้งเพื่อประโยชน์ในการหมุนเวียนบุคลากรสําหรับการขับเคลื่อนการปฏิรูปและเร่งรัดติดตามการดําเนินการตามนโยบายสําคัญของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและของรัฐบาล เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปราชการแผ่นดิน จึงมีคําสั่งดังต่อไปนี้

ข้อ 1. ให้มีกรอบอัตรากําลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษในสํานักนายกรัฐมนตรีจํานวนหนึ่งร้อยอัตรา เพื่อรองรับการบรรจุและแต่งตั้งบุคคลตามข้อ 2. และตามบัญชีรายชื่อเพิ่มเติมในข้อ 5. หรือบุคคลตามวรรคสามของข้อนี้ที่คณะรัฐมนตรี หรือผู้บังคับบัญชาผู้มีอํานาจบรรจุและแต่งตั้งแล้วแต่กรณีเห็นสมควรให้ขาดจากตําแหน่งหน้าที่และอัตราเงินเดือนเดิมเพื่อย้ายหรือโอนไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งที่เป็นอัตรากําลังชั่วคราวดังกล่าว

การย้ายหรือโอนบุคคลไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งที่เป็นอัตรากําลังชั่วคราวตามวรรคหนึ่ง ให้ดําเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน ในกรณีนี้ให้สํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี และสํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ร่วมกันกําหนดชื่อตําแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบ และสิทธิประโยชน์ของบุคคลดังกล่าวโดยอนุโลมตามกฎหมายและระเบียบของทางราชการ

คณะรัฐมนตรีอาจให้ความเห็นชอบให้แต่งตั้งผู้ซึ่งมิได้อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบ มิได้มีความผิดและมีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติราชการให้ไปดํารงตําแหน่งที่เป็นอัตรากําลังชั่วคราวตามวรรคหนึ่งในตําแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษหรือผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจําสํานักนายกรัฐมนตรีซึ่งมีฐานะและสิทธิประโยชน์เทียบเท่าตําแหน่งเดิม มีหน้าที่รับผิดชอบการปฏิรูปราชการแผ่นดินตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายก็ได้

ในกรณีที่ปรากฏว่าผู้ดํารงตําแหน่งที่เป็นอัตรากําลังชั่วคราวไม่มีเหตุ ถูกตรวจสอบหรือไม่จําเป็นต้องดํารงตําแหน่งที่เป็นอัตรากําลังชั่วคราวต่อไปและผู้นั้นยังไม่ออกจากราชการ ให้นายกรัฐมนตรีดําเนินการเพื่อแต่งตั้งผู้นั้นไปดํารงตําแหน่งตามเดิมหรือตําแหน่งอื่นในประเภทเดียวกนและระดับเดียวกัน

ให้สํานักงบประมาณจัดงบประมาณแก่สํานักนายกรัฐมนตรีเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามข้อนี้

ข้อ 2. ให้ผู้มีรายชื่อในกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ตามบัญชีแนบท้ายคําสั่งนี้ระงับการปฏิบัติราชการในตําแหน่งเดิมเป็นการชั่วคราวและไปปฏิบัติราชการในตําแหน่งประจําสํานักงานปลัดกระทรวงในกระทรวงที่สังกัดโดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิมและให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่รัฐมนตรีเจ้าสังกัดมอบหมาย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะมีคําสั่งให้ผู้นั้นไปปฏิบัติหน้าที่ในส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นของรัฐเป็นการชั่วคราวก็ได้

นายกรัฐมนตรีอาจมีคําสั่งเปลี่ยนแปลงคําสั่งข้อนี้ได้ตามที่เห็นสมควร

ข้อ 3. ให้ผู้มีรายชื่อในกลุ่มที่ 3 และกลุ่มที่ 4 ตามบัญชีแนบท้ายคําสั่งนี้ระงับการปฏิบัติราชการในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดํารงตําแหน่งอยู่เป็นการชั่วคราวโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนจนกว่านายกรัฐมนตรีจะมีคําสั่งเป็นอย่างอื่น

ข้อ 4. ให้ผู้มีรายชื่อในกลุ่มที่ 5 ตามบัญชีแนบท้ายคําสั่งนี้ไปช่วยราชการที่ศาลากลางจังหวัดที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นตั้งอยู่หรือสถานที่ราชการอื่นตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกําหนดแต่ต้องมิใช่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่ต้องมีคําร้องขอ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายเป็นผู้บังคับบัญชามีอํานาจมอบหมายให้ผู้นั้นปฏิบัติงานตามความเหมาะสม จนกว่านายกรัฐมนตรีจะมีคําสั่งเป็นอย่างอื่น

ในกรณีนี้ มิให้บุคคลดังกล่าวได้รับเงินประจําตําแหน่งและสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการชั่วคราว ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น พ.ศ. 2555 อันเนื่องจากการไปช่วยราชการตามคําสั่งนี้

ข้อ 5. หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อาจประกาศบัญชีรายชื่อบุคคลเพิ่มเติมจากรายชื่อตามบัญชีแนบท้ายคําสั่งนี้ก็ได้ ในกรณีนี้ให้นําความในข้อ 2. ข้อ 3. และข้อ 4. มาใช้บังคับโดยอนุโลม

ข้อ 6. ในกรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคําสั่งนี้ ให้สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนหรือกระทรวงมหาดไทยแล้วแต่กรณีเสนอปัญหาและแนวทางแก้ไขให้นายกรัฐมนตรีวินิจฉัย คําวินิจฉัยของนายกรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด

คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 15 พฤษภาคม พุทธศักราช 2558 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

สำหรับบัญชีแนบท้ายคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ 16/2558 แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ข้าราชการ จำนวน 24 ราย แบ่งออกเป็น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 4 ราย ได้แก่ นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวง, ว่าที่ร้อยตรี อานุภาพ เกษรสุวรรณ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว, นายพัฒนาชาติ กฤติบวร อธิบดีกรมพลศึกษา และ นายนิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ รองอธิบดีกรมพลศึกษา, กระทรวงการคลัง 6 ราย ได้แก่ นายสาธิต รังคศิริ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง, นายราฆพ ศรีศุภอรรถ ผู้ตรวจราชการกระทรวง, นายป้อมเพชร วิทยารักษ ์ ผู้เชี่ยวชาญประจําภาค 7, นายศุภกิจ ริยะการ (นายสิริพงษ์ ริยะการธีรโชติ) สรรพากรพื้นทนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส, นายพายุ สุขสดเขียว สรรพากรพื้นที่ปัตตานี จังหวัดปัตตานี และ นายมานิตย์ พลรัตน์ สรรพากรอําเภอ สํานักงานสรรพากรพื้นที่สาขาเมืองตาก จังหวัดตาก, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2 ราย ได้แก่ นายปัญญา ศิลปะ เกษตรจังหวัดนครราชสีมา และ นายอุดร ชมาฤกษ์ เกษตรจังหวัดอุบลราชธานี

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง, กระทรวงมหาดไทย 10 ราย ได้แก่ นายแก่นเพชร ช่วงรังษี รองปลัดกระทรวง, นายกิตติภพ ตราชูวณิช ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง, นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี, นายเวชสุวรรณ อาจวิชัย หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมุกดาหาร, นายนิรันดร์ บุญสิงห์ หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดสุรินทร์, นายพรต ภูภักดิ์ นายอําเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม, นายภัลลพ พิลา นายอําเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี, นายสมภพ ร่วมญาติ นายอําเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี, นายอรรณพ อกอุ่น นายอําเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี และนายวีรชาติ ผ่องโชติ นายอําเภอตระการพืชผล จังหวัดอุอุบลราชธานี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แก่ พลตํารวจโท สุรพล ทวนทอง จเรตํารวจ

กลุ่มที่ 2 หน่วยงานอื่นของรัฐ ได้แก่ นายประเสริฐ อภิปุญญา กรรมการติดตามและประเมนผลการปฏิบัติงานของสํานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ ซูเปอร์บอร์ด กสทช.

กลุ่มที่ 3 นายกและรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบล (อบต.) จํานวน 14 ราย ได้แก่ นายชาติ กันล้อม นายก อบต.ท่าตําหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม, นายเดชาวุธ เสนยะ นายก อบต.น้ำตก อ.นาน้อย จ.น่าน, นายสนธยา มีสถิตย์ นายก อบต.ลําเลียง อ.กระบุรี จ.ระนอง, นายมนตรี ถ้ำเล็บมือ นายก อบต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ, นายสริภพ ภูนิสัย นายก อบต.ทองเอน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี, นายวรวุฒิ ยิ้มจันทร์ รองนายก อบต.ทองเอน, นายประทีป ยั่งยืน นายก อบต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ, นายภัทรพล จำปารัตน์ นายก อบต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ, นายทรงชัย นกขมิ้น นายก อบต.ราชาเทวะ อ.บางพลี และ นายมนตรี บุญสุยา นายก อบต.แกใหญ่ อ.เมือง จ.สุรินทร์, นายสมภาร เคนหาญ นายก อบต.กุดจิก อ.เมืองฯ จ.หนองบัวลําภู, นายทนงทรัพย์ ถนอมจิตต์ นายก อบต.จิกเทิง อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี, นายสุวรรณ เมฆบุตร นายกอบต.คันไร่ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี และนายวงศ์พิสุทธิ์ ดํารงค์สิทธิ์ นายก อบต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร

กลุ่มที่ 4 นายกเทศมนตรี จํานวน 3 ราย ได้แก่ น.ส.สุนี ปูนกลาง นายกเทศมนตรีตําบลใหม่ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา, นายปัญญา เขียวธง นายกเทศมนตรีตําบลต้นธง อ.เมือง จ.ลําพูน และ นายรัชนาท ภูผินผา นายกเทศมนตรีตําบลทุ่งฝน อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี และกลุ่มที่ 5 ปลัดและรองปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จํานวน 3 ราย ได้แก่ น.ส.มณีรัตน์ ดวงกุณา ปลัด อบต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ, นายฟ้าใส เสนาธรรม (นายชยพล เสนาธรรม) ปลัดเทศบาลตําบลบ้านแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ และนายนพคุณ พรหมพุทธา รองปลัดเทศบาลตําบลต้นธง อ.เมือง จ.ลําพูน เป็นต้น






กำลังโหลดความคิดเห็น