“ประยุทธ์” ลั่นไทยมีมนุษยธรรมเต็มที่แก้ปัญหาโรฮีนจา สั่งฝ่ายความมั่นคงพิจารณาหาพื้นที่ตั้งศูนย์ ย้ำแค่ชั่วคราว เตรียมถาม 15 ชาติจะร่วมแก้อย่างไร ชี้หากพม่าไม่ร่วม ต้องเข้าใจ ทุกประเทศมีศักดิ์ศรีเท่ากัน วอนสื่ออย่าประโคมข่าวชักศึกเข้าบ้าน
วันนี้ (15 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีการแก้ปัญหาโรฮีนจาว่า การดำเนินการในส่วนของรัฐบาลได้สั่งทหารเรือไปตั้งแต่แรกให้ตรวจตราหากเจอเรือลอยลำอยู่ เขาว่าอย่างไร จะไปไหน ถ้าเขาบอกจะไปประเทศที่ 3 แต่ไม่ขอเอ่ยชื่อ ทหารเรือถามว่าจะเข้ามาในไทยก่อนหรือไม่ แต่เขาบอกว่าขอสมัครใจไม่เข้าเขตไทย จะขอลอยลำอยู่อย่างนั้น ตนยังเป็นห่วงว่ากลางคืนจะไปกันอย่างไร เราทำได้แต่เพียงสิ่งที่เขาขอ น้ำ น้ำมัน เพื่อไปที่หมายและต้องไปฝึกไต้ก๋งอีก ตรงนี้ถือว่าเราทำหน้าที่ครบแล้วในเรื่องของมนุษยธรรม ตรงนี้มีสองอย่างถ้าลอยลำนอกเขตน่านน้ำไทยแบบสมัครใจเราทำอะไรเขาไม่ได้ และถ้าเข้ามาในเขตน่านน้ำไทยเราก็ผลักดันเขาไม่ได้ เพราะผิดกฎหมายไทยในเรื่องการข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย เขาทั้งหมดจะต้องขึ้นฝั่ง โดยที่เราต้องหาพื้นที่ควบคุมเพื่อดำเนินคดี กฎหมายไทยเป็นแบบนี้ สื่ออย่าไปเขียนให้เกิดความเสียหายเพราะเรามีมนุษยธรรมอยู่แล้ว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ปัญหานี้เกิดมาหลายสิบปีแล้วเราช่วยมาตลอด บาทีมาถึงก็เจาะเรือให้จมเพื่อเข้าฝั่งไทย โดยรู้ว่าไทยจะต้องช่วย และก็คาราคาซังอยู่แบบนี้ ซึ่งในทางกฎหมายจะต้องสืบสวน พิสูจน์สัญชาติ ต้องใช้เวลานาน ส่วนที่มีข่าวว่ารัฐบาลไทยตั้งศูนย์ ตรงนี้ไม่ใช่ตั้งศูนย์แต่กำลังให้ฝ่ายความมั่นคงพิจารณาดูว่าพื้นที่ ที่จะต้องควบคุมตามกฎหมายต้องมีหรือไม่ เพราะไม่ใช่รายเล็กๆ แต่มากันเป็นครอบครัว เดิมมีการคววบคุมไว้ที่ ตม. ถ้าในกรุงเทพฯ ก็ที่สวนพลู เป็นพื้นที่นิดเดียว แต่วันนี้มากันเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูก ลูกติดท้องมาก็มี หากคลอดลูกในพื้นที่ควบคุมก็จะลำบาก จึงบอกว่าต้องไปหปามาจะใช้พื้นที่ใดก็ตาม แต่ไม่ใช่ถาวร เป็นเพียงศูนย์ชั่วคราวระหว่างการดำเนินคดี และต้องส่งกลับประเทศต้นทาง หรือส่งไปประเทศที่ 3
“ตรงนี้สื่อต้องช่วยในการที่จะทำให้องค์กรต่างๆ ที่ประโคมข่าวตามสื่อไทย จะมาช่วยเราตรงไหน ซึ่งเขาจะต้องไปประเทศต้นทางว่ามาจากไหน และเดือดร้อนอะไร ทำไมคนเหล่านี้ต้องอพยพมา ยากจนหรือเปล่า ถ้าเขายากจนจะไปหาทางอย่างไรให้เขากินดีอยู่ดีเหมือนที่เราทำอยู่ตอนนี้ไหม ดีกว่าจะมาแก้กันที่ปลายเหตุทั้งหมด และกรณีที่มีคนเข้ามาอยู่นานแล้วจะทำอย่างไร ส่งไปอยู่ประเทศที่ 3 จะมีใครรับหรือไม่ ก็ไม่มี ถ้าเรามองในแง่มนุษยธรรมอย่างเดียวก็ใช่ แต่มองนแง่ภาระประเทศไทยก็อีกอันหนึ่ง ตรงนี้ถามว่าอะไรสำคัญกว่า แต่เราไม่ไปละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือกฎหมายระหว่างประเทศ วันนี้ทุกคนทำงานหนัก สื่อต้องเข้าใจโดยเฉพาะบางสื่อพยายามขึ้นไปบนเรือ และถ่ายภาพความยากลำบากของเขา ทำไมสื่อไม่มองอีกแง่มุมว่าลำบากขนาดนี้ ทำไมจึงต้องมา นั่นแสดงว่าเขาหนตายมาหรือเปล่า คือเขาไม่มีอนาคตแล้ว ฉะนั้นต้องไปแก้ที่ต้นทางเป็นหลัก ปลายทางของเขาคือประเทศที่ 3 ต้องไปหาว่าประเทศที่ไหนเขาจะรับ ถ้ายังหาไม่ได้ก็ต้องแก้ที่ต้นทางอย่างเดียว กลางทางจะเกิดหรือไม่ถ้าไม่มีต้นทาง ไม่มีคนในเชื้อชาติเดียวกันสนับสนุนมาหรือหนีออกมา หรือองค์กรภาคประชาชนที่ตั้งอยู่ พวกนี้แหระเป็นคนเอาออกมาทั้งสิ้น ถูกบ้างผิดบ้าง เจ้าหน้าที่เห็นประโยชน์ก็เข้าไปร่วมมือ วันนี้ต้องแก้ทั้งหมด ทั้งเรื่องกฎหมาย วิธีการปฏิบัติ ความเอาจริงเอาจัง ลงโทษเจ้าหน้าที่ทั้งทางวินัยและอาญา รวมถึงการพูดคุยกับองค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิมนุษยชน สถานทูต ยูเอ็น ต้องพูดทั้งหมด เวลานี้กำลังจะประชุม 15 ประเทศร่วมกันเพื่อหาทางแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยจะขอคำยืนยันหากจะให้ไทยดูแลคนเหล่านี้ จะให้ดูแลอย่างไรและดูนานถึงเท่าไหร่ จะใช้งบประมาณที่ไหน” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า วันนี้เรามีศูนย์อพยพพักพิงอยู่ 9 ศูนย์ เราพยายมจะให้หมดไปจากประเทศไทยให้ได้ เพราะเป็นแหล่งของอาชญากรรม ลักลอบ ทำความผิด รวมถึงยาเสพติด ทำความผิดกันเยอะแยะไปหมด หากเรารับมาเรื่อยๆ จะเกิดอะไรขึ้น คนไทยจะไปอยู่ที่ไหน ขอถามหน่อย การที่เราจะเอื้อเฟื้อคนนั้นไม่ผิดเพราะเราเป็นไทยพุทธ แต่เราต้องดูว่ากฎหมายไทยว่าอย่างไร และคนไทยยังลำบากอยู่หรือเปล่า ถ้าไม่เช่นนั้นเขาจะมาอยู่เมืองไทยจำนวนมาก คนไทยต้องอพยพแทน ขณะเดียวกันคนเหล่านี้ขยัน แข็งแรงเพราะเคยลำบากมาก่อนซึ่งจะมาแย่งงานแย่งอาชีพคนไทย ตรงนั้นสำคัญ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุมร่วมกัน 15 ประเทศ ในวันที่ 29 พ.ค. 2558 หากประเทศเมียนมาร์ ไม่มาร่วม จะทำให้เป็นปัญหาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ใครมาก็มา ไม่มาก็คือไม่มา บังคับกันได้ที่ไหน ศักดิ์ศรีทุกประเทศเท่ากัน เขามาจะได้หรือไม่ได้อะไร เป็นเรื่องผลประโยชน์ชาติกันทั้งนั้น ขณะที่เราเป็นกลางทางมุ่งหวังที่จะทำให้สังคมสันติสุข ประชาชนทุกประเทศเป็นหน้าที่ของรัฐบาลทุกรัฐบาล คิดว่าทางพม่าก็เตรียมการอยู่แล้ว เรื่องศูนย์อพยพพักพิงที่ค้างอยู่ในประเทศไทย ได้พูดกับตนเองแล้วว่ากำลังเตรียมพื้นที่อยู่ ถ้าพร้อมเมื่อไหร่เขาก็พร้อมจะรับกลับโดยทันที แต่อันนี้ถือว่าเป็นปัญหาแทรกมาอีกเรื่องซึ่งมีปัญหาการเมืองด้วย รวมถึงเรื่องของสัญชาติ เป็นเรื่องบ้านเมืองเขา อย่าไปละลาบละล้วงเขาเลย ต้องเคารพกัน
เมื่อถามว่าหากพม่าไม่เข้าร่วมประชุมจะทำให้การประชุมไม่เป็นผลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ปัญหาคือเขามองสถานะคนเหล่านี้อย่างไร ท่านทราบอยู่แล้ว เมื่อเขามองอย่างไรเป็นเรื่องขององค์กรระหว่างประเทศที่ต้องไปคุยกับเขา ไม่ใช่เอาองค์กรต่างประเทศมากดดันประเทศไทยอย่างเดียว ขณะที่สื่อก็ประโคมว่าไทยต้องมีมนุษยธรรม ตรงนี้ถามว่าใครต้องรับผิดชอบ หากเขามาอยู่ในไทยในระยะเวลานานๆ ไทยใช่หรือไม่ ถ้าบอกว่าไทยรับได้ทั้งหมด ใครเดือดร้อนมาไทยได้เลยตรงนี้จะเอาไหม
เมื่อถามว่า วันนี้องค์กรระหว่างประเทศกดดันไทยมากไปหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มากเกินไป สื่อก็ประโคมกันเข้าไป เขาก็พุ่งมาที่เรา วันนี้สื่อต่างประเทศทั้งหมดเอาข้อมูลมาจากสื่อไทยทั้งสิ้น ตนถามผู้นำและสื่อทุกประเทศว่าเอาข้อมูลที่ไหนมาพูด ได้รับคำตอบว่าอ่านจากสื่อไทย หรือโซเซียลฯ ไทย เขาตอบอย่างนี้ สื่อไปแก้ตัวเอาแล้วกัน อะไรที่เป็นผลเสียต่อบ้านเมืองขอให้ระวังกันหน่อย เสนอในทางที่ดีบ้าง ปัญหานั้นใช่มันเกิดมายาวนาน ทุกรัฐบาลไม่สามารถแก้ได้ แต่รัฐบาลนี้จะต้องแก้ให้ได้ แต่จะได้หรือไม่ต้องร่วมมือกัน ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน สื่อ ตรงนั้นสำคัญ อย่าไปลากศึกเข้าบ้านกันมากนัก
“ปัญหาเหล่านี้ต้องแก้อย่างละมุนละม่อม เรื่องใดก็ตามที่เป็นกิจการภายในประเทศ เป็นเรื่องที่ประเทศนั้นต้องแก้ไขเอง โดยได้รับการสนับสนุนจากประเทศเพื่อนบ้าน ฉะนั้นเรื่องภายในของเขาทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องการปกครอง ของต่างประเทศมีวิธีการของเขา ฉะนั้นเราไปช่วยอย่างอื่น เช่น สนับสนุนการแก้ปัญหาความยากจน ให้เขาอยู่ไปก่อน แต่ทำอย่างไร เราจะเข้าไปช่วยเหลือตรงนั้นได้ องค์กรระหว่างประเทศจะเข้าไปอย่างไร ดูแลเรื่องการรักษาพยาบาล อาชีพ รายได้ต่างๆ ใครจะรับไม่รับรู้ แต่เห็นว่าไปดูอย่างนั้นดีกว่าเขาจะได้ไม่ออกมาอีก ส่วนเรื่องการค้ามนุษย์ถือเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ มีขบวนการนำพากระทำผิดกฎหมาย ตรงนี้เรียกว่าค้ามนุษย์ แต่คนเหล่านี้ไม่ได้มาประเทศไทยเป็นหลัก แค่มาเป็นที่พักคอยเพื่อไปประเทศที่ 3 หรือประเทศอื่นที่หางานทำ หนีตายมาเพื่อไปเริ่มชีวิตใหม่ เขาไม่ได้อยากอยู่ประเทศไทย เพราะคนเหล่านี้นับถือศาสนาอิสลาม วิเคราะห์กันตรงนี้บ้าง