xs
xsm
sm
md
lg

นักธุรกิจร้องนายกฯ ตร.อมเพชรแถมขู่ซ้ำ - ส.วิชาชีพ สธ.ขอความเป็นธรรมในอาชีพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นักธุรกิจค้าเพชร-ทองคำ ยื่นหนังสือร้อง “ประยุทธ์” ตร.กองปราบอมเพชรของกลาง 6 ล้าน แฉพิรุธเพียบ ไม่มีการนำเข้าสู่สำนวนคดี ปล่อยหลุดจำนำ ปูดถูก ตร.คู่กรณีส่งภาพฆ่าหั่นศพขู่ ต่อมาสมาคมวิชาชีพ สธ.ยื่นขอความเป็นธรรมความก้าวหน้าอาชีพอย่างเท่าเทียม ชี้เงื่อนไขโครงสร้างไม่อาจสร้างแรงจูงใจ

วันนี้ (15 พ.ค.) ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) น.ส.จีระพันธ์ จุลพันธ์ เจ้าของธุรกิจค้าขายเพชร-ทองคำ เขตภาษีเจริญ กทม. พร้อมด้วยครอบครัวเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ช่วยติดตามทวงถามเพชรและทองคำของตัวเองจำนวน 17 รายการ มูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท จากกองปราบปราม ที่มี ร.ต.ท.สมโชค ปานพิมพ์ พนักงานสอบสวน อายัดไว้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. 2556 ในคดียักยอกทรัพย์ จนขณะนี้ 2 ปีผ่านไปเพชรและทองคำจำนวนดังกล่าวไม่มีการนำกลับเข้ามาสู่สำนวนคดีแต่อย่างใด

น.ส.จีระพันธ์กล่าวว่า สิ่งที่ตนสงสัยคือ พฤติกรรมของ ร.ต.ท.สมโชค ที่อายัดเพชรไว้ที่โรงจำนำแห่งหนึ่งย่านบางแค และตนก็ได้โต้แย้งสิทธิว่านี่คือเพชรของตนและขอให้นำเพชรไปไว้ในที่ที่ปลอดภัยกว่านี้ และยังพบด้วยว่ามีการปลอมแปลงลายเซ็นตนทำการไถ่ถอนเพชรออกมาบางส่วนโดยอ้างว่าเพื่อประกอบคดีและได้ตัดต้นขั้วตั๋วจำนำเพชร 17 รายการทิ้ง แต่มีการทำรายการสิ่งของเพียง 15 รายการเท่านั้น จากนั้นมีการเปลี่ยนให้บุคคลนำเพชรที่ไถ่ถอนออกมากลับไปจำนำไว้คืนแล้วก็ปล่อยให้หลุดจำนำจนมีการนำไปขายทอดตลาด นั่นเท่ากับว่าเพชรจำนวนดังกล่าวไม่มีการนำกลับเข้ามาสู่สำนวนคดีแต่อย่างใด และตนก็ได้ฟ้องร้องดำเนินคดีต่อ ร.ต.ท.สมโชค คดีอยู่ในชั้นศาลแล้วและศาลได้รับคำร้องเพราะคดีมีมูล และนอกจากนี้ตนยังได้ร้องเรียนและติดตามเรื่องที่กองปราบปรามเป็นระยะแต่ก็ถูกขอร้องว่าอย่าแจ้งความ

“ดิฉันยังถูกนายตำรวจคนดังกล่าวข่มขู่หลังจากได้ดำเนินคดี เขาส่งภาพการฆ่าหั่นศพมาหลายภาพซึ่งน่ากลัวมาก โดยส่งมาในโทรศัพท์ของดิฉันผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งดิฉันมีไลน์ของตำรวจคนดังกล่าวแต่ก็ไม่เคยแชตสนทนากันเลย” น.ส.จีระพันธ์กล่าว และว่าขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ช่วยติดตามเพชรจำนวน 17 รายการที่หายไปกลับเข้ามาสู่สำนวนการสอบสวนที่ตนโดนกล่าวหาและขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายตำรวจคนดังกล่าว และจากนี้จะไปติดตามเรื่องที่ร้องเรียนไว้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) อีกทางหนึ่งด้วย

ต่อมากลุ่มสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข นำโดยนายไพศาล บางชวด นายกสมาคมฯ เข้าพบและยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ ผ่านนายสาธิต สุทธิเสริม เจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานมวลชน เพื่อขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับมาตรฐาน การกำหนดตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง, การจัดสรรอัตรากำลังด้านสาธารณสุขไม่เป็นไปตามโครงสร้าง, การเปลี่ยนสายงานหรือการเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น, ไม่มีการสร้างแรงจูงใจ รวมไปถึงหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการที่กระทรวงสาธารณสุขนำมาใช้จัดสรรอัตรากำลังแตกต่างจากกลุ่มสายงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเรียกร้องขอให้กระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณาถึงความมั่นคงและความก้าวหน้าในอาชีพของกลุ่มวิชาชีพสาธารณสุขอย่างเท่าเทียมกัน

ทั้งนี้ กลุ่มสมาคมฯในฐานะองค์กรตัวแทน มีหน้าที่ดูแลช่วยเหลือสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาทั้งในหน้าที่และความเจริญก้าวหน้าของสมาชิกซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในหน่วยปฐมภูมิที่มีอยู่กว่าหมื่นแห่งทั่วประเทศ โดยปัจจุบันคนกลุ่มนี้พัฒนาตนเองจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านสาธารณสุขศาสตร์ โดยรัฐไม่มีส่วนสนับสนุนค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด แต่ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากบุคลากรที่มีสมรรถนะการให้บริการที่เพิ่มสูงขึ้น ที่มีอยู่หลายสายงานด้วยกัน อาทิ เจ้าพนักงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข เจ้าพนักงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ เจ้าพนักงานเทคนิคเภสัชกรรม เป็นต้น แต่ด้วยเงื่อนไขของโครงสร้างการบริหารส่วนภูมิภาค และอัตรากำลังที่ไม่อาจสร้างขวัญกำลังใจ หรือแรงจูงใจให้ได้ทำให้เกิดความก้าวหน้าน้อยกว่าสายงานอื่นๆ จึงขอความเป็นธรรมตามที่กล่าวมา อย่างไรก็ตาม กลุ่มจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการสาธารณสุข ที่รัฐสภาต่อไป










กำลังโหลดความคิดเห็น