ไฟเขียวพลังงาน ลงนามความร่วมมือซื้อก๊าซธรรมชาติ - แอลเอ็นจี ของพม่า ระยะเวลา 3 ปี เผย ปัจจุบันไทยพึ่งพาก๊าซพม่า ประมาณ 1,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน พร้อมเตรียมสร้างคลังแอลเอ็นจีในพม่า เพื่อรับก๊าซหากแหล่งก๊าซเกิดปัญหา พร้อมความร่วมมือซื้อไฟฟ้าพม่าระยะ 10 ปี
วันนี้ (7 พ.ค.) ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงพลังงานไทยและกระทรวงพลังงานพม่า เพื่อส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงาน แต่จะไม่มีผลผูกมัดทางกฎหมาย
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) รับทราบมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบให้กระทรวงพลังงานทำความตกลงเบื้องต้น (เอ็มโอยู) กับ พม่า 2 ฉบับ คือ ความร่วมมือในการซื้อเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติและก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ระยะเวลา 3 ปี จากปัจจุบันไทยพึ่งพาก๊าซพม่า ประมาณ 1,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และความร่วมมือยังรวมถึงการที่ไทยเตรียมสร้างคลังแอลเอ็นจีในพม่า เพื่อรับก๊าซหากแหล่งก๊าซเกิดปัญหา อีกฉบับคือ ความร่วมมือซื้อไฟฟ้าระยะ 10 ปี เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับระบบไฟฟ้า
มีรายงานว่า สำหรับ ร่างบันทึกความเข้าใจทั้ง 2 ฉบับ มีสาระสำคัญ ดังนี้ ร่างบันทึกความเข้าใจฯ ระบุสาขาความร่วมมือด้านพลังงานและพลังงานไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงานร่วมกันของทั้งสองประเทศ
ร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าวมิใช่สนธิสัญญาระหว่างประเทศ หรือเอกสารที่มีผลผูกพันทางกฎหมายใดๆ จึงไม่ก่อให้เกิดสิทธิ หรือพันธกรณีภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ
ส่วนบันทึกความเข้าใจทั้งสองฉบับจะจัดทำเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ ร่างบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าวเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการวางกรอบความร่วมมือด้านพลังงานของทั้งสองประเทศ เพื่อส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงาน โดยกำหนดเป็นกรอบดำเนินการกว้างๆ ในการดำเนินงานและไม่มีข้อผูกมัด รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดพันธกรณีทางกฎหมาย และจะไม่มีผลเป็นการผูกพัน โดยเจาะจงแก่ประเทศไทยในด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ หรือการค้าการลงทุนอย่างกว้างขวางแต่อย่างใด