รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยยอดบริจาคเข้าบัญชี “หัวใจไทย ส่งไปเนปาล” ธนาคารกรุงไทย รวมทั้งสิ้น 111.8 ล้าน ไม่นับรวมสิ่งของบริจาคที่ ร 1 รอ. และ ราบ 11 อีก สั่งกองทัพไทย - 3 เหล่าทัพ หาทางลำเลียงสิ่งของโดยเร็ว เล็งศึกษาเส้นทางเรือหลังพบต้นทุนขนทางเครื่องบินพุ่ง - สนามบินกาฐมาณฑุแน่น
วันนี้ (4 พ.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากหลังจากรัฐบาลเปิดให้ประชาชนร่วมบริจาคเงินและสิ่งของช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ให้แก่พี่น้องชาวเนปาลที่ประสบภัยแผ่นดินไหว ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. ถึง 3 พ.ค. 2558 มียอดเงินบริจาคผ่าน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ชื่อบัญชี “หัวใจไทย ส่งไปเนปาล” ธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล หมายเลขบัญชี 067-0-10330-6 นับสิ้นสุดเวลา 16.00 น. ของวันที่ 3 พ.ค. ได้รวมทั้งสิ้น 111,887,641.25 บาท
นอกจากนี้ มีรายการสิ่งของจำเป็นพี่น้องประชาชน และบริษัทห้างร้าน นำไปมอบไว้ที่ กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิต และกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ถนนพหลโยธิน บางเขน อีกเป็นจำนวนมาก ได้แก่ เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม 2,720 โหล อาหารสำเร็จรูป 1,468 กล่อง น้ำดื่ม 8,096 โหล ยาและเวชภัณฑ์ 35 ลัง และอื่นๆ อาทิ ถุงยังชีพ ขนม นม ข้าวสาร เครื่องปั่นไฟ เต็นท์ หม้อหุงข้าว รวมทั้งเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง
“รัฐบาลขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ร่วมส่งกำลังใจให้แก่รัฐบาลและประชาชนชาวเนปาล ด้วยการบริจาคทั้งเงินและสิ่งของจำนวนมาก ถือเป็นการแสดงน้ำใจเพื่อผู้ประสบภัยอย่างแท้จริง และเป็นปรากฏการณ์ที่น่าปลาบปลื้มใจในน้ำใจของคนไทย” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
ขณะที่รัฐบาล โดยกองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และ กองทัพอากาศ กำลังบริหารจัดการการลำเลียงสิ่งของบริจาคทั้งหมดให้ได้โดยเร็ว โดยจัดตามลำดับความสำคัญ อย่างไรก็ตามพบว่า การขนส่งสิ่งของปริมาณมากมีความยากลำบากพอสมควร เนื่องจากมีต้นทุนค่าเชื้อเพลิง และที่สำคัญสนามบินกาฐมาณฑุ และเมืองใกล้เคียงมีความคับคั่งมาก การลงจอดและขนถ่ายสิ่งของเป็นไปด้วยความยากลำบาก ด้วยข้อจำกัดหลายประการ การนำเงินบริจาคไปซื้อเครื่องอุปโภค บริโภคที่จำเป็นจากพื้นที่ใกล้เคียงที่ประสบภัย แล้วจัดส่งเข้าไปน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้บัญชาให้กองทัพเรือ ศึกษาเส้นทาง และท่าเรือ สำหรับลำเลียงสิ่งของเข้าสู่เขตพื้นที่ภัยพิบัติโดยเร่งด่วน เพราะเป็นการขนส่งที่มีระวางบรรทุกได้จำนวนมาก
ทั้งนี้ ในวันพุธที่ 6 พ.ค. นี้ จะมีจัดการประชุมทางไกลผ่านดาวเทียม ระหว่างศูนย์ประสานงานนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล และ สถานทูตไทยในเนปาล เป็นครั้งที่สอง เพื่อติดตามสถานการณ์การกู้ภัยและฟื้นฟูเหตุแผ่นดินไหวในเนปาลอย่างใกล้ชิด
