รองนายกรัฐมนตรีเปิดสัมมนาเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการตรวจราชการ ปีงบประมาณ 58 เน้นตรวจราชการสำคัญกว่าอยู่ออฟฟิศ เผยสำนักงบฯ ชง ครม.ขออนุโลมยึดคำของบฯ เป็นแผนประจำปีแทน ระบุนายกฯ ฝากผู้ตรวจฯ ดูแลหนี้สินครัวเรือน, พัฒนาฝีมือแรงงาน, ปัญหาค้ามนุษย์, รองรับผู้อพยพ, ปมชุมชนแออัด, กำจัดขยะ, เสริมประสิทธิภาพ ผวจ.และอำนวยความสะดวกชาวบ้านเดือดร้อน แย้มชื่อข้าราชการโกงมีมากกว่า 100 จ่อมีรุ่น 2-3 ตามมา สั่งแยกใครเกษียณ, ดอดเปลี่ยนชื่อ-สกุลบ้าง
วันนี้ (27 เม.ย.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดการสัมมนาเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการตรวจราชการ ประจำปีงบประมาณ 2558 โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งว่าการจัดทำงานใดๆ ให้สำเร็จนั้น ปัจจัยสำคัญคือการสื่อสารสองทางที่ผู้ปฏิบัติจะต้องนำสิ่งที่จะดำเนินการไปสื่อสารให้คนภายนอกรู้ แล้วรับฟังความเห็นเพื่อมาปรับปรุงงาน ซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เคยบอกไว้ว่าการตรวจราชการมีความสำคัญกว่างานออฟฟิศ ข้าราชการอย่าตรวจราชการเฉพาะที่งานออฟฟิศว่าง เพราะการตรวจราชการสามารถเซ็นเอกสารออฟฟิศได้ แต่การอยู่ออฟฟิศไม่สามารถตรวจราชการได้ ข้าราชการสมัยก่อนดำรงตัวเช่นนี้ จึงได้รับความเลื่อมใส แตกต่างจากปัจจุบัน ซึ่งเราต้องพยายามแก้ปัญหาของการตรวจราชการให้หมดไป ทั้งนี้ ตามกฎหมายได้กำหนดให้ส่วนราชการจัดทำแผนราชการประจำปีงบประมาณ และมีหน่วยงานต่างๆคอยตรวจสอบว่าทำตามแผนงานหรือไม่ และปีนี้ที่บ้านเมืองมีความวุ่นวายทำให้การจัดทำแผนล่าช้า ไม่เป็นไปตามที่คิด เพราะมีแผนงานจากทั้ง คสช.และรัฐบาล สำนักงบประมาณจึงเสนอว่าในงบปี 2558 หลายกระทรวงยังไม่ได้ทำแผนงาน ถ้ายึดตามข้อกฎหมายก็ไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ จึงเสนอมาว่าขอให้ยึดคำขอตั้งงบประมาณประจำปี 2559 เป็นแผนปฏิบัติประจำปี 2558 ไปโดยปริยาย นายกรัฐมนตรีเห็นชอบ และให้เสนอเข้าที่ประชุม ครม.ในวันที่ 28 เม.ย.นี้
นายวิษณุกล่าวต่อว่า เมื่อมีแผนปฏิบัติราชการปี 2558 ที่อนุโลมมาแล้ว ผู้ตรวจราชการต้องไปตรวจดูว่ากระทรวงต่างๆ ทำตามหรือไม่ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีหัวข้อฝากให้ผู้ตรวจราชการได้ช่วยดูแลหลายเรื่อง เช่น เรื่องหนี้สินครัวเรือน การพัฒนาฝีมือแรงงาน ปัญหาการค้ามนุษย์ การจัดพื้นที่รองรับผู้อพยพ แม้จะมีไม่กี่พื้นที่ แต่เราต้องดูแลให้เป็นไปตามหลักมนุษยธรรม ปัญหาชุมชนแออัด การกำจัดขยะ ซึ่งเป็นหน้าที่ของหน่วยงานท้องถิ่น แต่เมื่อขยะล้นส่วนกลางต้องเข้าไปดูแล หากติดขัดตรงไหนหากถึงจุดหนึ่งก็อาจใช้มาตรา 44 เข้าไปแก้ปัญหา การให้คำแนะนำเสริมประสิทธิภาพผู้ว่าราชการจังหวัด และการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เพื่อไม่ให้เข้ามาขอความช่วยเหลือในส่วนกลาง เพราะนายกรัฐมนตรีรู้ดีว่า แม้บางครั้งอาจมีนายหน้า มีคนพามา มีค่ารถ ค่าข้าวให้ แต่ก็ลำบากไม่ใช่เล่น ถ้ามาแล้วบางครั้งรัฐบาลไม่อาจแก้ปัญหาได้ทันที จึงไม่ดีกว่าหรือ ที่จะไปใช้บริการที่ศูนย์ดำรงธรรม ตรงนี้ผู้ตรวจราชการสามารถเข้าไปดูและช่วยประสานงานให้ได้
นายวิษณุกล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการทุจริต ได้ส่งรายชื่อผู้ที่อาจมีพฤติกรรมน่าสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตมาให้รัฐบาลจำนวนมากกว่า ที่สื่อมวลชนบอกว่า 100 รายชื่อนั้น ที่จริงมีมากกว่า 100 รายชื่อ และจะมีรุ่นสองรุ่นสามตามมา ตนจึงให้ไปจำแนกรายชื่อเดิมว่ามีใครเกษียณอายุราชการไปแล้ว มีใครเปลี่ยนชื่อ-สกุลบ้าง บางเรื่องมูลทุจริตเดียวครอบคลุมไปทั้งจังหวัด ถ้าจะเอาตามข้อมูลดังกล่าวจะกระทบต่อข้าราชการทั้งจังหวัด เราจะยึดรายชื่อนั้นอย่างเดียวไม่ได้ ต้องตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมด้วย เราจะบ้าจี้ดำเนินการกับผู้ที่ถูกกล่าวหาเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะต่อไปอาจจะมีคนยืนเรื่องกล่าวหากันเป็นจำนวนมาก และในที่นี้ก็ขอเป็นกำลังใจกับผู้ตรวจราชการทุกคนที่ทำงานเป็นอย่างดี