xs
xsm
sm
md
lg

สั่งเลิก กม.ขอทาน หลังใช้มากว่า 74 ปี - “วณิพก” ต้องขอท้องถิ่นแสดง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สั่งยกเลิก พ.ร.บ.ขอทาน พ.ศ. 2484 หลังใช้มากว่า 74 ปี หวังเพื่อลดอัตราขอทานในประเทศไทย เน้นฟื้นฟูให้คนมีอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ หวังมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตั้งกรรมการคุมฯ รมว.พม. นั่งประธานฯ เด็ดขาดห้ามมีขอทานทุกกรณี-ห้ามมอบทรัพย์สินให้-ห้ามกระการกระทำได้ให้ผู้อื่นเกิดความสงสารโดยไม่ได้มีการทำงานตอบแทน-ไม่ให้มีการแสดงในที่สาธารณะโดยขอรับทรัพย์สินตามผู้ฟัง ระบุ “กรณีวณิพก” ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น เพื่อขออนุญาตก่อนกำหนดพื้นที่ในการแสดง



วันนี้ (20 เม.ย.) ร.อ.น.พ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.เห็นชอบ พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน โดยให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ดำเนินการแก้ไขจัดระเบียบขอทาน ยกเลิก พ.ร.บ.ขอทาน พ.ศ. 2484 ก่อนส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป

ทั้งนี้ มีการตั้งคณะกรรมการควบคุมการขอทาน ห้ามมิให้บุคคลใดทำการขอทาน พร้อมการระบุลักษณะผู้ที่เป็นขอทาน เช่น การกระทำที่ให้ผู้อื่นมอบทรัพย์สินให้โดยไม่ได้มีการทำงานตอบแทนหรือด้วยทรัพย์สินใด การกระทำได้ให้ผู้อื่นเกิดความสงสารโดยไม่ได้มีการทำงานตอบแทนหรือด้วยทรัพย์สินใด รวมถึงไม่ให้มีการแสดงในที่สาธารณะโดยขอรับทรัพย์สินตามผู้ฟังสมัครใจเป็นการขอทาน แต่ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นก่อน ซึ่งการเล่นดนตรีในที่สาธารณะต้องมีการขออนุญาตก่อน และกฎกระทรวงต้องมีการกำหนดพื้นที่ในการแสดงด้วย

นอกจากนี้ยังกำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ใช้บังคับ ขู่เข็ญ จ้างวาน ยุยงส่งเสริม กระทำด้วยวิธีการใดให้ผู้อื่นขอทานหรือนำบุคคลอื่นเป็นประโยชน์ต่อการขอทานของตนด้วย

อย่างไรก็ตาม พม.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จัดการขอทานที่เป็นคนต่างด้าวให้ส่งกลับประเทศ ส่วนขอทานที่เป็นคนไทยให้พิจารณาดำเนินการฝึกอบรมและฝึกอาชีพให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองต่อไปได้

รายงานระบุว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้หวังเพื่อลดอัตราคนขอทานในประเทศไทย โดยเน้นให้คนขอทานมีอาชีพที่สามารถเลี้ยงตนเองได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ ให้ พม.รับไปพิจารณาศึกษาบทบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือบุคคลผู้ที่ทำการขอทานเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ คนวิกลจริต คนพิการหรือทุพพลภาพ ผู้เจ็บป่วยซึ่งไม่สามารถประกอบอาชีพได้ คนไม่มีญาติมิตรอุปการะเลี้ยงดูและไม่มีทางเลี้ยงชีพอย่างอื่น หรือผู้ซึ่งอยู่ในสภาวะยากลำบาก ให้พ้นสภาพจากการเป็นคนขอทาน และดูแลฟื้นฟูสมรรถภาพ เพื่อให้บุคคลเหล่านั้นสามารถกลับมาดำรงชีพในสังคมได้ เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 พระราชบัญญัติการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2557 เพื่อมิให้เกิดความซ้ำซ้อนกัน

ทั้งนี้ สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ มีดังนี้

“1. กำหนดให้ยกเลิกพระราชบัญญัติควบคุมการขอทานพุทธศักราช 2484

2. กำหนดให้มีคณะกรรมการควบคุมการขอทาน ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานกรรมการโดยตำแหน่ง และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่กำหนด และให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการขอคณะกรรมการและให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด

3. กำหนดห้ามมิให้บุคคลใดทำการขอทาน และกำหนดให้การกระทำดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าเป็นการขอทาน

- การขอทรัพย์สินของผู้อื่นด้วยวาจา ข้อความ หรือแสดงกิริยาอาการใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ ทั้งนี้ โดยมิได้มีการตอบแทนด้วยการทำงานอย่างใด หรือด้วยทรัพย์สินใดแต่ไม่รวมถึงการขอกันญาติมิตร หรือการเรี่ยไรตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการเรี่ยไร

- การกระทำใดเพื่อให้ผู้อื่นเกิดความสงสารและมอบทรัพย์สินให้ โดยมิได้มีการตอบแทนด้วยการทำงานอย่างใดหรือด้วยทรัพย์สินใด

4. กำหนดให้การเล่นดนตรีหรือการแสดงความสามารถอื่นใดในที่สาธารณะโดยขอรับทรัพย์สินตามแต่ผู้ชมหรือผู้ฟังจะสมัครใจให้ มิให้ถือว่าเป็นการขอทานแต่ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำหนด

5. กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งตัวผู้ที่ทำการขอทานเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ คนวิกลจริต คนพิการหรือทุพพลภาพ ผู้เจ็บป่วยซึ่งไม่สามารถประกอบอาชีพได้ คนไม่มีญาติมิตรอุปการะเลี้ยงดูและไม่มีการเลี้ยงชีพอย่างอื่น หรือผู้ซึ่งอยู่ในสภาวะยากลำบากไปรับการสงเคราะห์ในสถานสงเคราะห์และให้พ้นความผิด

6. กำหนดให้สถานสงเคราะห์พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายเฉพาะกับผู้ที่ทำการขอทานซึ่งเป็นบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะบังคับอยู่แล้ว เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นและสมควร เพื่อประโยชน์ของผู้ทำการขอทาน สถานสงเคราะห์จะไม่ดำเนินการตามกฎหมายและรับตัวผู้ที่ทำการขอทานนั้นไว้ในความดูแลต่อไปก็ได้

7. กำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ที่ทำการขอทาน ผู้ที่ถูกส่งตัวไปยังสถานสงเคราะห์ซึ่งไม่ไปหรือหลบจากสถานสงเคราะห์ ผู้ที่ช่วยเหลือผู้ที่ถูกส่งตัวไปยังสถานสงเคราะห์หรือผู้ที่อยู่สถานสงเคราะห์ให้หลบหนี และผู้ใช้ บังคับ ขู่เข็ญ จ้าง วาน หรือยุยงส่งเสริม หรือกระทำด้วยวิธีการอื่นใดให้ผู้อื่นขอทาน หรือนำบุคคลอื่นมาใช้ประโยชน์ในการขอทานของตน

8. กำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ที่เล่นดนตรีหรือแสดงความสามารถอื่นใดในที่สาธารณะโดยไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น ผู้ที่เล่นดนตรีหรือแสดงความสามารถในที่สาธารณะซึ่งได้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว หรือได้รับยกเว้นไม่ต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือระเบียบที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำหนด และผู้ซึ่งไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำหนด”



กำลังโหลดความคิดเห็น