ครม. อนุมัติ 582 ล้านบาท ชดเชยดอกเบี้ย “ผู้ค้ารับซื้อข้าวนาปรังปี 58 เก็บสต๊อก” พร้อมทบทวนมติปรับแนวทางการบริหารจัดการตลาดมันสำปะหลังปี 2557/58 ไฟเขียวปรับเพิ่มอัตราค่าเบี้ยเลี้ยงพนักงานประจำรถ 5 สตางค์/กม.
วันนี้ (7 เม.ย.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2558 ที่เห็นชอบการจัดสรรวงเงินตามโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อคข้าวนาปรัง ปี 2558 ให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ วงเงินรวมทั้งสิ้น 38,796.54 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยนำงบประมาณที่คงเหลือจากโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2557/58 มาดำเนินโครงการ วงเงินชดเชยดอกเบี้ย 582 ล้านบาท
ครม. มีมติเห็นชอบให้ทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2557 เกี่ยวกับการจัดสรรวงเงินงบประมาณจ่ายชดเชยดอกเบี้ยตามแนวทางการบริหารจัดการตลาดมันสำปะหลังปี 2557/58 เดิม ที่ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นผู้ดำเนินการปล่อยสินเชื่อและเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามรายจ่ายที่เกิดขึ้นต่อไป เป็นให้สำนักงบประมาณจัดสรรวงเงินงบประมาณให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการที่ขอกู้กับธนาคารพาณิชย์ หรือธนาคารของรัฐ ในส่วนของการเพิ่มสภาพคล่องทางการค้า และการยกระดับมาตรฐานการแปรรูปมันสำปะหลัง เพื่อให้การดำเนินมาตรการบรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้และเกิดความคล่องตัวในการจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการที่ยื่นขอกู้กับธนาคารพาณิชย์ และเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการสมัครเข้าร่วมมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกด้วยระบบน้ำหยด จากเดิมสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2558 เป็นสิ้นสุดเดือนกันยายน 2558 และให้ขยายระยะเวลาการสมัครเข้าร่วมมาตรการยกระดับมาตรฐานการแปรรูปมันสำปะหลัง จากเดิมสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2558 เป็นสิ้นสุดเดือนกันยายน 2558
ครม. ยังมีมติเห็นชอบการปรับเพิ่มอัตราค่าเบี้ยเลี้ยงพนักงานประจำรถ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เพิ่มขึ้นอีก 5 สตางค์ต่อกิโลเมตร และปรับเพิ่มเบี้ยเลี้ยงให้แก่พนักงานประจำรถโดยสารไม่ประจำทาง เพิ่มขึ้นอีก 25 บาทต่อวัน เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการทำงานให้แก่พนักงาน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 เป็นต้นไป