เกาะกระแส
00 นี่ก็เป็นไปตามโรดแมปเหมือนกันสำหรับการยกเลิกกฎอัยการศึก รอเพียงการโปรดเกล้าฯลงมาเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ใช้บังคับ ม.44 ในรธน.ฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 และคงจะมีการคำสั่ง คสช.กำหนดรายละเอียดการบังคับใช้ตามมา ซึ่งก็ได้มอบหมายให้ รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย วิษณุ เครืองาม ดูแล และตามข่าวบอกว่ามีการเขียนเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว รอเพียงมีการประกาศยกเลิกประกาศกฎอัยการศึกอย่างเป็นทางการเท่านั้น
00 คำยืนยันจากปากของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯในฐานะหัวหน้าคสช.เป็นผูัใช้อำนาจเบ็ดเสร็จใน มาตราดังกล่าวเพียงผู้เดียว แต่เขายืนยันว่าใช้"อย่างสร้างสรรค์"และ"อ่อนกว่า"กฎอัยการศึกแน่นอน ส่วนใหญ่ก็ใช้กฎหมายตามปกติบังคับ ยกเว้นคดีเกี่ยวกับความมั่นคงที่ต้องขึ้นศาลทหาร แต่ก็สามารถอุทธรณ์ฎีกาได้ถึงสามศาล และที่ยังอยู่ก็คือเจ้าหน้าที่มีอำนาจในการควบคุมตัวได้ไม่เกิน 7 วันเหมือนเดิม พิจารณาจากที่กล่าวมามันก็ต้องยอมรับว่า "เบากว่ากฎอัยการศึก"จริงลงมาหลายขีดเชียวแหละ !!
00 ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับอีกว่าการยกเลิกกฎอัยการศึก มันก็ส่งผลดีในสายตาของต่างชาติ นักลงทุนและนักท่องเที่ยว ทุกอย่างจะออกมาในทางบวกมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการรับรองเรื่องประกันภัย หากเกิดความเสียหายในภายหลัง เพราะที่ผ่านมาจะมีปัญหาเรื่องดังกล่าวค่อนข้างมาก ดังนั้นหากยกเลิกกฎอัยการศึกที่ต่างชาติในตะวันตกเขากลัว แม้ว่าในบ้านเรามันน่ากลัวแต่ชื่อเท่านั้น ในความเป็นจริงมันก็ไม่ได้คุกคามเสรีภาพของสุจริตชน หรือนักท่องเที่ยว นักลงทุนแต่อย่างใดเลย เอาเป็นว่าเมื่อยกเลิกกันแล้ว หันมาใช้ ม.พิเศษตาม รธน.ก็ต้องดีกว่าเดิม และทุกอย่างขึ้นอยู่คนที่ใช้ว่าจะ "สร้างสรรค์"อย่างที่พูดหรือไม่ ถ้าทำได้มันก็โอเค เดินหน้ากันไป !!
00 ยังรู้สึกสยองกับข่าวร้ายของ รมว.คลัง สมหมาย ภาษี ที่ออกมายอมรับว่าเศรษฐกิจอยู่ในขั้นโคม่า เนื่องจากคนไทยมีหนี้สินครัวเรือนสูงที่สุดในโลกคือสูงถึงร้อยละ 80 ต่อจีดีพี ทำให้เป็นเหตุผลว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านมาของรัฐบาลยังไม่ได้ผล เพราะคนไม่มีกำลังซื้อ ไม่มีเงินเหลือใช้จ่าย ประกอบกับเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัว ส่งผลให้การส่งออกของไทยก็ยังไม่ฟื้น สินค้าเกษตรส่งออกไม่ได้มาก ราคาตกยิ่วซ้ำเติมกำลังซื้อ ถึงได้บอกว่า บางทีมันก็ท้อแท้เหมือนกัน ว่าเราจะอยู่ในสภาพย่ำแย่แบบนี้กันอีกนานแค่ไหน และข่าวร้ายอีกก็คือ สมหมาย บอกว่ามีทางแก้ก็คือ"ต้องขึ้นภาษี" แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่มีทางเป็นไปได้ และเชื่อว่า "นายกฯลุงตู่"คงไม่ยอมแน่ ถึงได้เลื่อนการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้างออกไปก่อน แม้เป็นเรื่องจำเป็น แต่เมื่อบรรยากาศไม่เอื้ออำนวย มันก็ต้องยืดเวลาออกไปก่อน ไม่เช่นนั้นคนที่พังก่อนก็คือรัฐบาลและคสช.นั่นแหละ !!
00 สิ่งที่จะพิสูจน์ให้ว่าการใช้ม.44 จะสร้างสรรค์แค่ไหน ก็รอพิสูจน์จากการที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯเปิดเผยว่า นายกฯจะใช้มาตราดังกล่าวแก้ปัญหาเรื่องที่องค์การการบินระหว่างประเทศลดมาตรฐานการบินของไทย เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปด้วยความรวดเร็วและทันการณ์ เพราะตามเงื่อนไขขององค์การการบินระหว่างประเทศกำหนดให้แก้ไขภายใน 90 วันนั้นหากใช้กลไกปกติเขาบอกว่าต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1-ปีครึ่ง ก็ต้องพิสูจน์กันให้เห็นว่าจะทำได้แค่ไหน สร้างสรรค์จริงหรือเปล่า !!
00 การยกร่างรธน.ฉบับใหม่ร่าง"ฉบับแรก" 315 มาตราได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย เช่นเรื่องบันทึกเจตนารมณ์ เป็นต้น ก่อนที่จะส่งให้ สปช.พิจารณาในวันที่ 17 เม.ย.และ สปช.กำหนดวันประชุมพิจารณาวันที่ 20-26 เม.ย.นี้ อย่างไรก็ดีเวลานี้เท่าที่ดูแนวโน้มแล้ว เชื่อว่าในประเด็นที่มา สว.คงจะออกมาแบบผสมกันคือ เลือกตั้งและสรรหา ส่วนประเด็นนายกฯคนนอก คงมีเงื่อนไขกำกับ เช่น ใช้เสียง สส.สองในสาม และกำหนดเวลาดำรงตำแหน่ง 1-2 ปีเป็นต้น ซึ่งทำให้ความร้อนแรงลดลงไปได้เยอะทีเดียว ขณะเดียวกันมีแนวโน้มเป็นไปได้สูงก็คือจะมีการลงประชามติก่อนบังคับใช้รธน.ซึ่งนั่นเท่ากับว่าการเลือกตั้งจะต้องยืดออกไปถึงปลายปีหน้า !!