xs
xsm
sm
md
lg

“นิพิฏฐ์” โวย กมธ.ยกร่างฯ อคตินักการเมือง หวั่นระบบเลือกตั้งทำแตกแยกระดับจังหวัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ภาพจากแฟ้ม)
รอง หน.ปชป. วิจารณ์ กมธ. ยกร่างฯ ทำระบบเลือกตั้งผสมเพราะอคตินักการเมือง ท้าลงเลือกตั้งแข่งในพื้นที่ชนะให้เตะก้น ระบุจุดอ่อนโอเพน ลิสต์ เพิ่มปัญหาขัดแย้ง สร้างจังหวัดนิยม ฟันธงเขตเล็กไม่ได้ ส.ส. ปาร์ตีลิสต์

วันนี้ (16 มี.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ วิจารณ์การร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่เลือกใช้ระบบสัดส่วนผสม หรือ โอเพน ลิสต์ เพื่อลดอำนาจกรรมการบริหารพรรคและกลุ่มทุนที่หนุนพรรค โดยให้ประชาชนเลือก ส.ส. ที่รู้จักและมีผลงานแทนว่าคนเหล่านี้ไม่เคยลงเลือกตั้ง หากระบุเหตุผลเช่นนี้ ก็คือการเลือก ส.ส. เขต แล้วมาตัดจำนวน ส.ส. เขตให้น้อยลงทำไม

ส่วนที่อ้างว่าที่ผ่านมามีคนใกล้ชิดหัวหน้าพรรค หรือกลุ่มทุนมาเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคนั้น เป็นการมองพรรคการเมืองด้วยอคติว่า พรรคหรือนักการเมืองชั่วร้ายทั้งหมด ทั้งที่มีทั้งคนดี คนเลว และพรรคการเมืองบริหารผ่านกรรมการบริหารพรรคคือใช้เสียงข้างมากในการโหวต ส่วนเรื่องทุนครอบงำ พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีทุน จึงไม่มีปัญหานี้ ต้องจัดงานระดมทุนอย่างเปิดเผย เพราะข้อเท็จจริง ทุนกับพรรคต้องคู่กัน แต่ต้องจัดลำดับความสำคัญ เช่น 1 ใน 3 ส่วน ดังนั้น การให้คนเก่ง ที่บริจาคเงินให้พรรคโดยเปิดเผยดีกว่าการแอบยัดเงินใต้โต๊ะให้เพื่อผลักดันในวาระซ่อนเร้น

“ผมขอท้ากรรมาธิการยกร่างฯ ให้มาลงสมัคร ส.ส. ในระบบบัญชีรายชื่อสัดส่วนผสมในโซนภาคใต้ หากได้คะแนนเกินหมื่นผมจะยอมให้เตะก้นจากพัทลุงถึงกรุงเทพฯ เลย เชื่อว่าไม่มีมีใครกล้ารับคำท้าแน่นอน” นายนิพิฏฐ์ กล่าว

นายนิพิฏฐ์ กล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่าระบบเลือกตั้งผสมจะมีปัญหาแน่นอน เพราะมีการลดจำนวน ส.ส. เขตแต่ละจังหวัดลง อดีต ส.ส. เขตเหล่านี้ก็จะไปลงในบัญชีรายชื่อ ฉะนั้น ประชาชนแต่ละจังหวัดก็จะเลือกคนเหล่านี้เข้ามาอีก เพราะรู้จักมากกว่าผู้สมัครหน้าใหม่ ที่สุดก็จะหลายเป็นจังหวัดใครจังหวัดมัน จะเกิดเป็นวัฒนธรรมจังหวัดนิยม เช่น ตนต้องไปลง ส.ส. บัญชีรายชื่อที่พัทลุง ชาวบ้านที่นั่นก็ต้องเลือกตน มากกว่าเลือกผู้สมัครจากจังหวัดอื่น ขณะที่จังหวัดอื่นก็จะเลือกอดีต ส.ส. เขตของเขาที่มาลงในระบบบัญชีรายชื่อเช่นกัน จะเกิดปัญหาว่าพรรคการเมืองจะหาคนดี คนเก่งมาสร้างเป็นเลือดใหม่ได้อย่างไร นี่ต่างหากที่เป็นการทำลายพรรคการเมืองให้อ่อนแอลง และหากได้คนที่มีอิทธิพลและมีอำนาจเงิน อาจเกิดการซื้อเสียงข้ามจังหวัดในแต่ละโซนเลือกตั้งเพื่อให้ตัวเองได้เป็น ส.ส. และไม่ตกลำดับชั้น

“ผมฟันธงเลยว่า จังหวัดเล็ก เช่น ระนอง พังงา ภูเก็ต ต่อให้มีคนดี เด่น ดังแค่ไหนก็ไม่ได้เป็น ส.ส. เพราะประชาชนในจังหวัดมีน้อยกว่าจังหวัดใหญ่ เมื่อเกิดจังหวัดนิยม ก็จะยิ่งมีความแตกแยกลงลึกในแต่ละชุมชนจังหวัดต่างๆ มากยิ่งขึ้น แค่ในอดีตมีคนบอกว่า ขัดแย้งจากภาคนิยม แต่ครั้งนี้ความขัดแย้ง แตกแยกจะรุนแรงยิ่งกว่าที่กรรมาธิการยกร่างฯ คิดไม่ถึง” นายนิพิฏฐ์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น