xs
xsm
sm
md
lg

ทบ.ซัดพวกจินตนาการอ้างรัฐบึ้มเอง ปัดซ้อมจนสารภาพ โยน ตร.เชิญ “พี่แม้ว-แจ๊ด” หรือไม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


โฆษกกองทัพบก ปัดซ้อมมือบึ้มจนรับสารภาพ ยันเป็นความผิดซึ่งหน้า เชื่อไม่เกี่ยวศาลตัดสินฟันโจกแดงพังประชุมอาเซียน โยนดุลพินิจตำรวจเชิญ “ชัยสิทธิ์ - คำรณวิทย์” หรือไม่ พร้อมเฝ้าระวัง วอนชาวบ้านอย่าวิตก มีส่วนน้อยที่ป่วน ซัดพวกจินตนาการรัฐสร้างสถานการณ์

วันนี้่ (9 มี.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก และโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ปาระเบิดที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการกระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ และขณะนี้ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนอยู่ในการควบคุมของทหาร ตามกฎอัยการศึก เป็นเวลา 7 วัน ทั้งนี้ ยืนยันว่า กรณีนี้ไม่มีการทำร้ายร่างกายผู้ก่อเหตุเพื่อให้ยอมรับสารภาพ เพราะเป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้าอยู่แล้ว รวมทั้งมีการเตรียมการวางแผนก่อเหตุมาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ นอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด พร้อมเชื่อว่าเหตุปาระเบิดดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกรณีศาลจังหวัดชลบุรีพิพากษาคดีแกนนำเสื้อแดงที่บุกเข้าพื้นที่การประชุมอาเซียนซัมมิต

เมื่อถามว่า ผู้ต้องหามีการพาดพิงถึงอดีตบิ๊กทหาร และอดีตบิ๊กตำรวจ ทาง คสช. จะมีการเชิญทั้ง 2 ท่านมาพูดคุยหรือสอบถามหรือไม่ พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ขณะนี้เป็นการพูดถึงในเบื้องต้นต้องมีรายละเอียดมากกว่านี้ ต้องดูว่าพนักงานสอบสวนจะมีดุลพินิจอย่างไร ตรงนี้ถือว่าเป็นองค์ประกอบในการสอบสวนของทางพนักงานสอบสวน การพูดถึงนี้มีข้อพิสูจน์ได้หรือไม่ว่าเท็จจริงอย่างไร เรื่องดังกล่าวคงต้องเป็นขบวนการสอบสวนเป็นหลัก ส่วนกรณีผู้ต้องหาได้สารภาพว่าในวันที่ 15 มี.ค. นี้ จะมีการก่อเหตุวางระเบิดถึง 100 จุด หน่วยงานด้านความมั่นคงจะดูแลอย่างไรนั้น การดูแลเป็น 2 ลักษณะ คือ การดูแลความปลอดภัย ในการเฝ้าระวังพื้นที่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยได้ทำอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าภาพที่เราเห็นนั้นอาจจะไม่มากเหมือนในช่วงแรก เพราะเราก็ต้องพัฒนาไปตามสถานการณ์ เราจะไม่วางกำลังในที่ที่เปิดเผย แต่งานในด้านการข่าว การเชื่อมโยงข้อมูล ที่มีระบบและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ ได้ในจุดนี้เรามีการดำเนินการอย่างเข้มข้น

“ผมไม่อยากให้ประชาชนได้เกิดความวิตกกังวลใจอะไร เพราะเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงมีข้อมูลอยู่แล้ว ว่า ยังมีบางกลุ่มที่เป็นส่วนน้อยมาก ที่ยังมีความพยายามในการก่อความวุ่นวาย ซึ่งข้อมูลทางด้านการข่าวของฝ่ายความมั่นคงเรามีอยู่แล้วทุกคน เพียงแต่ว่าไม่มีความรุนแรงมากเหมือนในช่วงแรกๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เราก็ไม่ประมาท และมีมาตรการรองรับอยู่แล้วส่วนที่ผู้ต้องหาระบุว่า ในวันที่ 15 มี.ค. นี้ จะมีการก่อเหตุถึง 100 จุด นั้น ต้องเข้าสู่กระบวนการในการพิสูจน์อีกครั้ง ว่า ความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด แต่ที่มีความเชื่อว่ายังมีโอกาสที่ยังมีความพยายามก่อเหตุในบางกลุ่มอยู่ แต่จะปฏิบัติได้มากน้อยแค่ไหนก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมแล้ว ส่วนที่มีการมองว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐนั้น ซึ่งเป็นเพียงสมมติฐานและจินตนาการของกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้น” พ.อ.วินธัย ระบุ

พ.อ.วินธัย กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ คสช. ได้ดำเนินการในจุดมุ่งหมายหลัก คือ ต้องบังคับใช้กฎหมายให้ได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ ทั้งนี้ หากติดตามสถานการณ์จะเห็นว่าลักษณะของการใช้ความรุนแรงไม่ได้เป็นการจัดตั้ง และมีดำเนินการมาเป็นระยะๆ อยู่แล้ว ทุกอย่างของการดำเนินการขึ้นอยู่กับองค์ประกอบและพยานหลักฐาน ถ้าไม่มีข้อแน่นชัดและหลักฐานอ้างอิงเจ้าหน้าที่จะไม่มีการให้ข้อมูลอยู่แล้ว ทั้งนี้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้ติดตามความเคลื่อนไหวกลุ่มต่างๆ มากขึ้น นอกจากนี้ ยังคงเฝ้าระวังพื้นที่ตามปกติอยู่แล้ว แต่การวางกำลังบางจุดอาจไม่เปิดเผยและไม่ได้วางกำลังชัดเจนเหมือนช่วงแรก แต่เน้นเชื่อมโยงข้อมูลด้านการข่าวที่เขัมข้นขึ้นจึงขอให้ประชาชนอย่ากังวล แต่ยอมรับว่า ยังมีความพยายามของบางกลุ่มที่จะก่อความวุ่นวาย ซึ่งการปฏิบัติได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นกับสถานการณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ติดตามการเคลื่อนไหวด้านการข่าวอย่างใกล้ชิด


ทหารจับมือบึ้มหน้าศาล !?
ทหารจับมือบึ้มหน้าศาล !?
เมื่อสถานการณ์เริ่มแหลมคม กำลังเข้าสู่ช่วงโค้งท้ายๆ มันก็ต้องมีเรื่องให้หวาดเสียวตามมากันบ้าง อย่างล่าสุดเมื่อค่ำวันที่ 7 มี.ค.ก็เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงคราม ทั้งปืนกล และระเบิดถล่มเข้าใส่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก แม้ว่าจะมองว่าเป็นการข่มขู่ สร้างสถานการณ์ เพราะเป้าหมายเป็นลานจอดรถ ไม่มีบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่เมื่อเป้าหมายคือศาล มันก็มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่า นี่คือการข่มขู่ในเชิงสัญญลักษณ์ สามารถพิจารณาแยกย่อยออกไปได้หลายประเด็น คือ หนึ่งศาลกระทำการในพระปรมาภิไธย สองมีหลายคดีที่ศาลตัดสินไปแล้ว และกำลังจะพิจารณารับฟ้อง ล้วนมีผลต่อชะตากรรมของคนบางกลุ่มทั้งสิ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น