“ทิชา” ลาออกจาก สปช. พร้อมกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ มีผล 1 มี.ค. ระบุพอแล้วสำหรับภาวะ “ปลาผิดน้ำ” เผยก่อนลาออก ถกเครียดเรื่องสิทธิสตรีถึงกับหลั่งน้ำตาและเดินออกห้องประชุม ด้าน “จเร” เผยต้องให้ประธาน สปช. เลือกคนเป็น กมธ. แทน ส่วนตำแหน่ง สปช. ต้องให้ คสช. เลือก
เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้า เฟซบุ๊กบ้านกาญจนาภิเษก นางทิชา ณ นคร สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้โพสต์ภาพลายมือของ นางทิชา ณ นคร เขียนประกาศเจตจำนงแจ้งการลาออกจากการเป็น สปช. และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ มีผลวันที่ 1 มี.ค. โดยข้อความดังกล่าวระบุว่า “ข้าพเจ้า นางทิชา ณ นคร สมาชิก สปช. ลำดับที่ 091 และหนึ่งใน 36 คน คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ขอลาออกจากตำแหน่งทั้ง 2 คือ สมาชิก สปช. และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2558”
ทั้งนี้ เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 27 ก.พ. นางทิชา ได้โพสต์ภาพที่มีข้อความว่า ตัดสินใจแล้ว ดีแล้ว ชอบแล้ว พร้อมภาพแสดงความรู้สึกยกมือไหว้ และเขียนว่า “ทุกการตัดสินใจ ผูกพัน กับชีวิต กับสังคม กับประเทศ ทิชา ณ นคร” และล่าสุดในช่วงเช้าวันที่ 28 ก.พ. นางทิชา ก็ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพสถานที่ พัทยา จ.ชลบุรี โดยระบุว่าเป็น “งานสุดท้ายในฐานะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และกลับไปเป็นป้ามล…”
นอกจากนี้ ในวันที่ 28 ก.พ. ยังมีการโพสต์ข้อความใจความว่า “ถึงเวลาที่ต้องหมดเวลากับบางภารกิจ!!!” โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า เบื้องต้นไม่ได้คิดจะสมัคร สปช. แต่ผู้ใหญ่ที่เคารพที่สุดขอมา จากนั้นก็เป็นเนื้อหาถึงรายละเอียดช่วงเวลาที่เข้ามาทำงาน จนกระทั่งผ่านการโหวตเข้ามาเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จนกระทั่ง 4 เดือนเต็มเพียงพอแล้วสำหรับ…ภาวะปลาผิดน้ำ ขอบคุณและขอโทษทุกคน ที่ไม่ได้ปรึกษาใครและไม่ได้ฟังคำทัดทานใคร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนของเฟซบุ๊กบ้านกาญจนาภิเษก ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจต่อนางทิชา อย่างไรก็ตามการลาออกครั้งนี้นางทิชาไม่ได้แจ้งถึงสาเหตุของการลาออก โดยผู้สื่อข่าวพยายามโทรศัพท์ติดต่อเพื่อสอบถาม แต่นางทิชาไม่รับสายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามในส่วนของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังอยู่ระหว่างการประชุมพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญรายมาตราเป็นวันสุดท้ายที่พัทยา ต่างก็ปฏิเสธถึงกรณีดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมช่วงดึกของคืนวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีประเด็นถกเถียงถึงเรื่องสิทธิสตรี ซึ่งบรรยากาศเป็นการอย่างเคร่งเครียดกว่า 1 ชั่วโมง ส่งผลให้นางทิชาถึงกับหลั่งน้ำตา และได้เดินออกจากห้องประชุมทันที
ขณะเดียวกัน ตั้งแต่ช่วงเช้าข่าวจากคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แจ้งว่า นางทิชา ณ นคร กมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้แสดงเจตจำนงเป็นจดหมายเขียนด้วยลายมือขอลาออกจากตำแหน่งสมาชิก สปช. และ กมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญ และเผยแพร่ในกลุ่มไลน์กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญให้รับทราบโดยทั่วกัน ทางด้านกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ หลายคนยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง ทั้งนี้ ได้ทราบข่าวเมื่อช่วงดึกของวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา แต่นางทิชาได้เดินทางกลับไป กทม. เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 27 ก.พ. แล้ว จึงยังไม่มีการสอบถามเหตุผล หรือยับยั้ง ขณะที่กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญหลายคนพยายามโทรศัพท์และส่งข้อความผ่านไลน์ แต่นางทิชาไม่ได้รับสายหรือตอบข้อความกลับแต่อย่างใด
ด้าน นายจเร พันธุ์เปรื่อง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สปช. กล่าวว่า การพิจารณาแต่งตั้งกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญคนใหม่แทนนางทิชา ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 มาตรา 32 วรรค 3 ที่ได้ระบุว่า ให้ประธาน สปช.แต่งตั้งกรรมาธิการยกร่างฯ ตามหลักเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่กรรมาธิการยกร่างฯ ลาออกจากตำแหน่ง
นายจเร กล่าวว่า หลักเกณฑ์ที่ว่านั้น ต้องให้ สปช. รับสมัครคัดเลือกโดยที่ประชุม สปช. และให้ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดเข้ารับตำแหน่งแทน กระบวนการเลือก สปช.เป็นกรรมาธิการยกร่างฯ รอบที่ผ่านมาถือเป็นกระบวนการที่ไม่สามารถนำมาใช้ได้ เพราะเป็นกระบวนการที่ผ่านและเสร็จไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ในการแต่งตั้งกรรมาธิการยกร่างฯ อาจต้องหารรือกันอีกครั้งในที่ประชุม สปช.
นายจเร กล่าวว่า ขณะที่การแต่งตั้งสมาชิก สปช. ในตำแหน่งที่ว่างลง เนื่องจากนางทิชาได้ลาออกจากการเป็นสมาชิก สปช. ด้วยนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยคิดว่าแม้นางทิชาจะพ้นตำแหน่งไปแล้ว แต่ก็จะไม่มีผลในทางกฎหมายต่อการปฏิบัติหน้าของสมาชิก สปช. ที่เหลืออยู่