“ประยุทธ์” ลั่นฟันพวกเคลื่อนไหวผิดกฎหมาย ย้ำตนไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ไม่รู้ “ทักษิณ” พยายามโทร.หา บอกจะไปไหนก็ไปอย่ามายุ่ง ยันไม่ท้อ วอนช่วยกันปฏิรูปหรือจะอยู่กับดักเดิมก็ตามใจ บ่นสื่อทำไมเอาใจยากอย่างนี้วะ รับเจออุปสรรคเยอะแยะ งงผู้ใหญ่ไม่ชอบตนเลย ระบุยังชมสื่อน่ารัก เพิ่มความดีลดอารมณ์โกรธพวกยั่ว รับ ครม.ไม่มีประเด็นปลดปลัด สธ.
วันนี้ (24 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองว่า เราเดินหน้าตามโรดแมป และเรื่องความมั่นคงเราดูแลเรื่องความปลอดภัย
“ใครจะเคลื่อนไหวอะไรที่ผิดกฎหมายเราก็ดำเนินการ ไม่รู้อะไรคืออะไร แต่การเมืองก็คือการเมือง และผมไม่ใช่การเมือง ผมอาจะมองดูว่าเป็นรัฐบาล แต่ผมไม่ได้มาด้วยวิธีการเมือง ผมยังยืนยันเสมอว่าไม่ใช่นักการเมือง ผมมาบริหารบ้านเมืองในช่วงเวลาที่วิกฤตด้วยวิธีพิเศษบวกกับปกติ และภายใต้แรงกดดันของสังคม ของสื่อ และต่างประเทศ ตัวผมยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นไปคิดเอาว่าผมทำเพื่ออะไร” นายกรัฐมนตรีกล่าว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พยายามที่จะติดต่อนายกรัฐมนตรีทุกช่องทางว่า “ไม่รู้ ไม่รู้ ผมไม่ยุ่งหรอก จะไปไหนก็ไปเถอะไป จะไปไหนท่านก็ไปของท่านอยู่แล้ว อย่ามายุ่งกับผม ผมก้าวหลุดพ้นกับดักพวกนี้หมดแล้ว ไปว่ากันตามกฎหมาย อย่ามาเอาผมมารบกับเขาคนโน้นคนนี้ ขี้เกียจ ไม่เอาด้วยแล้ว ถามไม่เคยพ้นสักที”
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ไม่มีความพยายามที่จะติดต่อมาเลยใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า วันนี้นายกฯ เป็นอะไรหรือไม่ ดูเหมือนท้อ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มีท้ออยู่แล้ว
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าหลังปฏิรูปเสร็จสิ้น หรือหมดภาระกิจแล้วอนาคตจะสดใสกว่าที่ผ่านมาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ยังปฏิรูปไม่เสร็จ ทำไมช้าเกินไปหรือ ถ้าทำมาแล้วไม่คาดหวังจะทำมาทำไม ถ้าทำมาเพื่อให้มันแย่กว่าเดิมแล้วจะทำทำไม แต่ปัญหาคือทุกคนต้องร่วมมือกับผมด้วย ต่อให้ผมทำอย่างไร สั่งอย่างไร หรือแก้ไขอย่างไร ถ้าทุกคนมุ่งแต่จะกลับมาสู่ที่เดิม ก็ไม่รู้จะทำยังไงช่วยไม่ได้ ก้าวไปติดกับดักอยู่เหมือนเดิมก็ตามใจ
เมื่อถามว่า บางคำพูดของนายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่าให้ไปถามรัฐบาลต่อไป นายกฯ กล่าวว่า บอกแล้วว่านั่นคือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นในวันหน้า กับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ แล้วสื่อฯก็มาไล่ถามก็ตนว่าจะได้หรือไม่ จะดีหรือไม่ จึงได้บอกว่าให้เอาคำถามเหล่านี้ไปถามกับเขาว่าเขาทำหรือไม่ แล้วเขาได้ทำต่อกับสิ่งที่ทำหรือไม่
“สิ่งที่ผ่านมามันมีปัญหาเราจึงต้องแก้ไขสิ่งที่มีปัญหาก่อน บางอันทำเสร็จก็ทำ บางอันทำไม่เสร็จก็ต้องส่งต่อให้เขาทำ จึงได้บอกสื่อให้ไปถามเขาต่อ ทำไมมันเอาใจยากอย่างนี้วะ” นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าอุปสรรคอะไรทำให้ คสช.ไม่สามารถเดินไปตามโรดแมปได้ นายกฯ กล่าวว่า “ผมไม่สบายมั้ง เราก็ทำ อุปสรรคเยอะแยะไป ทั้งสิ่งแวดล้อม ปัจจัยภายนอกประเทศ ภายในประเทศ ความร่วมมือของคนในประเทศ ผมได้รับไปรษณียบัตรจากเด็กๆ เยอะแยะ ส่งมาผมก็ชื่นใจ ที่เอากำลังใจมาให้ลุงตู่ ขอให้สุขภาพ แข็งแรง พักผ่อนบ้างนะครับ นะคะ ลุงตู่ ทำไมเด็กมันรักผม แต่ผู้ใหญ่ไม่ชอบผมเลย มันเป็นอะไร”
เมื่อถามว่า มีช่องทางไหนที่จะให้ประชาชนส่งกำลังใจมาถึงท่านนายกฯ ได้บ้าง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า นี่ไง ชมมาสิ พูดสิ ลองชมมาสิ พูดแบบชม จากนั้นผู้สื่อข่าวได้กล่าวกับนายกฯ ว่า “ท่านนายกฯ ทำเรื่องค้ามนุษย์ ได้ดีกว่าทุกรัฐบาล” ซึ่งนายกฯ กล่าวตอบว่า “เออ มีเรื่องเดียว” ซึ่งทำให้นักข่าวกล่าวตอบไปว่า “มีเรื่องข้าว เรื่องยางด้วย” นายกฯ จึงกล่าวแบบยิ้มๆ ว่า “อย่างนี้แหละ เขียนให้มันดีหน่อย” บอกมาสิว่ามีอะไรดีบ้าง นักข่าวจึงได้ย้อนถามว่าให้นายกฯ พูดชมสื่อฯ บ้าง นายกฯ กล่าวว่า “ฉันไม่เคยว่าอะไรเธอเลยนะ ฉันก็ชมว่าสื่อน่ารัก ทุกคนมีความรับผิดชอบ สื่อดีๆ ก็มีเยอะแยะไป ฉันไม่พูดถึงสื่อทุกคนเมื่อไหร่เล่า อะไรที่อ่านแล้วไม่บันเทิง ไม่มีความสุขก็อย่าไปอ่าน เขาอยากจะเขียนก็เขียนไป”
เมื่อถามว่า วันนี้ทัศนคติระหว่างสื่อมวลชนและนายกฯ ดีขึ้นหรือยัง นายกฯ กล่าวว่า “ก็ดีมาตลอด จากวันแรกจนถึงวันนี้ก็เหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เป็นคนรักเดียวใจเดียวอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นรักก็คือรัก และผมก็ถูกสอนมาว่าคนที่รักกันอยู่แล้วมันมีอะไรที่ผิดใจกันเราต้องเติมความดีให้แก่เขา ถึงแม้ว่าสื่อบางคนจะยั่วโมโหอยู่บ้างก็เพิ่มความดีให้สื่ออื่นจึงจะชดเชย และผมโกรธลดลง ส่วนใครที่ยั่วโมโหมันก็เป็นคนคนไป คนละเวลา บางคนวันนี้บางคนวันนั้น”
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะปลด นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขว่า ที่ประชุม ครม.วันนี้ยังไม่มี พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ย้อนถามสื่อมวลชนว่า “มีใครอยากเป็นหรือไม่”