ASTVผู้จัดการ - วิจารณ์ขรม “กานดา นาคน้อย” นักวิชาการฝั่งเสื้อแดงสอนอยู่ในสหรัฐฯ วิพากษ์ต้นเหตุวิกฤตไทยปัจจุบันเกิดเพราะปัญหาด้านอัตลักษณ์ที่ลูกหลานจีนอพยพต้องการปรุงแต่งกำพืดเป็นคนไทย และลูกหลานคนชนบทต้องการยกระดับเป็นคนกรุง
วันนี้ (21 ก.พ.) กานดา นาคน้อย นักวิชาการฝั่งเสื้อแดง ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยคอนเนตทิคัต โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก @กานดา นาคน้อย ให้ความเห็นถึงวิกฤตของประเทศไทยว่า มาจากวิกฤตอัตลักษณ์ของคน 2 ประเภท คือ ลูกหลานจีนที่ทิ้งอัตลักษณ์ความเป็นจีนมาสู่ความเป็นไทย และลูกหลานคนต่างจังหวัดที่อพยพเข้าสู่ กทม. โดยข้อความที่กานดาเขียนทั้งหมดมีดังนี้
“วิกฤตวัวลืมตีน : ฉันคิดว่าวิกฤตไทยมาถึงขั้นนี้ได้เพราะวิกฤตอัตลักษณ์ 2 ประเภท
ก) ลูกหลานจีนอยากแสดงตนว่ารักชาติสุดใจขาดดิ้นเพื่อสวม"ความเป็นไทย"เพื่อทิ้งอัตลักษณ์จีน ยิ่งลูกหลานจีนอพยพรุ่นหลังๆ ยิ่งอินมาก
ข) ลูกหลานคนต่างจังหวัดที่อพยพมา กทม.อยากแสดงตนว่า “มีการศึกษา” เพื่อทิ้งอัตลักษณ์ชนบท ยิ่งเพิ่งอพยพมา กทม. รุ่นหลังๆ ยิ่งอินมาก
ดูนายพลกะผู้พิพากษา หน้าตาเหมือนอาเสี่ยสำเพ็งแสดงความรักชาติแล้วฟินน์สุดๆ ที่ฟินน์รองลงมาคือดูลูกหลานซัวเถามั่งเขมรมั่งลาวมั่ง กระเสือกกระสนแสดงตนว่ามีการศึกษา มหา'ลัยไทยก็เพิ่งอายุ 100 ปี ปู่ย่าตาทวดมีปริญญาซักกี่คน???
การยอมรับความจริงว่าเราเป็นใครมาจากไหนไม่มีผลกระทบต่อผลงาน แต่ในประเทศที่ค่าของคนไม่ได้วัดที่ผลงานนั้นคนก็ย่อมพยายามปรุงแต่งกำพืดกันเป็นการใหญ่” กานดาระบุ
อย่างไรก็ตาม ข้อความดังกล่าวได้ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และโต้เถียงกันมากว่า สิ่งที่กานดาถือเป็นการเหยียดเชื้อชาติและเผ่าพันธุ์ (Racist) อันจะก่อให้เกิดความขัดแย้งและเป็นสิ่งที่ไม่สมควร
“ผมไม่ทราบหรอกครับว่าไทยแท้เป็นแบบไหน แต่ผมว่าการที่คุณพูดกล่าวหาคนสองกลุ่ม คือ คนไทยเชื้อสายจีนกับคนต่างจังหวัดนี่แหละมัน racism ของแท้ ในสหรัฐอเมริกาคุณพูดเช่นนี้ไม่ได้ โดยเฉพาะการที่คุณเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแล้วพูดอย่างนี้คงมีปัญหาทางจริยธรรม ...” นายอานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ นักวิชาการสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์กล่าวท้วงติง
“การนำเรื่องชนชั้นวรรณะของบรรพบุรุษมาดูถูกผู้คนในวงกว้างของสังคมปัจจุบันนั้นไม่ใช่สิ่งที่ผู้เป็นครูบาอาจารย์ควรทำ ผมไม่ทราบว่าบรรพบุรุษของคุณกานดาเป็นใคร แต่หากดูจากนามสกุล ผมเดาว่าเมื่อร้อยกว่าปีก่อนบรรพบุรุษของคุณกานดาคงต้องหมอบกราบแทบเท้าบรรพบุรุษของใครหลายๆ คนครับ” นายนพนันท์ อรุณวงศ์ ณ อยุธยา คอลัมนิสต์ นสพ.ไทยโพสต์ระบุ
ก่อนหน้านี้ กานดา นาคน้อย คนเดียวกันนี้ในปี 2553 ระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมก็ได้เป็นหนึ่งในนักวิชาการ 240 คนที่ลงนามให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน ต่อมา ในปี 2555 ร่วมลงนามกับนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ เป็นหนึ่งในคณะรณรงค์แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 112 (ครก.112) นอกจากนี้ในเดือนกรกฎาคม 2557 ก็ยังเคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์ “มันแกว” รุ่งตะวัน ชัยหา เน็ตไอดอลเจ้าของฉายา “นมคุณธรรม” ด้วยว่าเป็นวาทกรรมตอแหล
“อดเห็นด้วยกะอาจารย์ใจไม่ได้ว่า ‘นมคุณธรรม’ คือวาทกรรมตอแหล ขายนมด้วยยี่ห้อคุณธรรม (คือไม่โชว์หัวนม) แล้วราคาสูงกว่าโสเภณีขายเซ็กส์ ต่างก็ขายเรือนร่างเพียงแต่ว่าขายคนละราคาคนละบริการ ต่างก็ขายความกำหนัด ฉันสนับสนุนการทำให้โสเภณีถูกกฎหมายนะ ใครอยากขายรูปโป๊ก็ถ่ายไป แต่อย่าดัดจริตอ้างว่าทำแบบมีคุณธรรม ของซื้อมาขายไปคุณธรรมไรไม่เกี่ยวหรอก
“ถามคนที่ชื่นชมว่ามันแกวมีความคิดเสรีน่าชื่นชม : คุณอยากให้ลูกสาวคุณขายนมคุณธรรมแบบมันแกวหรือไม่? ถ้าคุณตอบว่าไม่อยากก็น่าสงสัยว่า ก) ถ้าคุณเป็นชายคุณก็ชื่นชมในฐานะคนเสพนม ข) ถ้าคุณเป็นหญิงคุณก็อยากมีนมใหญ่ไว้โชว์ไว้ยั่วยวน การเสพนมหรืออยากนมใหญ่ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าเสพนมอยากนมใหญ่จนยกย่องคนขายนมยี่ห้อคุณธรรมยี่ห้อจรรยาบรรณว่ามีความคิดเสรีนั่นอีกเรื่องนะ” กานดาระบุผ่านเฟซบุ๊ก Kanda Naknoi