สมาชิก สปช. ยืนยันเสนอแนวคิดให้ “ประยุทธ์” นัดคุย “ทักษิณ” แค่เจรจาคู่ขัดแย้งสำคัญ เชื่อมีพาวเวอร์ พูดแล้วทำได้ หวังจุดเริ่มต้นปรองดอง บ่นเสียดายถ้าไม่ทำก็เสียของ ยันจุดยืนคงเดิม แต่อยากเห็นประเทศสามัคคีปรองดอง ไร้วาระซ่อนเร้น
วันนี้ (17 ก.พ) นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงถึงการเสนอแนวทางปรองดองที่ได้เสนอแนะให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นัดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมตรี ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นการปรองดอง แต่ถูก พล.อ.ประยุทธ์ ปฎิเสธข้อเสนอดังกล่าว โดยระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีคดีอยู่ไม่สามารถพบได้ว่า มีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ตำหนิติเตียน ด่าทอสารพัดว่า ผมคิดผิดไปหรือเปล่า กินยาผิดซอง มีวาระซ่อนเร้นอะไรหรือเปล่า รวมทั้งเปลี่ยนไปละมั้ง บ้างก็ให้กำลังใจ ให้ความเห็น เรียกว่ามีทั้งก้อนอิฐและดอกไม้ อยากจะบอกว่าการให้สัมภาษณ์กับสื่อเป็นการอธิบายในรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องปรองดอง ถ้าฟังตั้งแต่ต้นจนจบโดยละเอียดจะเข้าใจถึงเนื้อหาที่พูด และคงไม่ต้องมาวิพากษ์วิจารณ์กันแบบผิดๆ ถูกๆ หรือด่ากันเสียๆ หายๆ
นายวันชัย ระบุว่า ความจริงตนจะเฉยๆ เสียก็ได้เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด และก็ไม่ได้คิดผิด พูดผิด แต่มาจากเนื้อแท้ น้ำใสใจจริง ด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ แต่ถ้าขืนเงียบหรือเฉยๆ คนก็จะเอาไปต่อความยาวสาวความยืดให้เข้าใจผิดกันไปใหญ่ จึงขอเรียนต่อทันทีเคารพทั้งหลาย ดังนี้ 1. จุดยืนและแนวทางการทำงาน ยังเหมือนเดิมทุกประการ และจะเข้มข้นมากยิ่งขึ้น เป็นนายวันชัยคนเดิม เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ผิดคิว ไม่ผิดซอง 2. บ้านเมืองเราที่ผ่านมาเกือบ 10 ปี มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง ไม่สงบ ไม่เรียบร้อย สับสนอลหม่าน เพราะการที่คนในประเทศไม่รักกัน ไม่ปรองดองกัน ไม่สมานฉันท์ มุ่งแต่จะห้ำหั่นเอาแพ้เอาชนะกัน 3. จะปฏิรูปประเทศให้เลิศหรูอลังการอย่างไร จะแก้กฎหมาย จะร่างรัฐธรรมนูญให้วิเศษวิโสอย่างไร จะแก้ปัญหาของประเทศไทยให้ยิ่งใหญ่อลังการขนาดไหน ก็ไม่มีทางที่จะทำให้ประเทศเดินไปได้ ถ้าคนในชาติไม่รัก ไม่ปรองดองกัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำมาก็ล่มสลายไปหมด อย่างที่พูดๆ กันคือเลือกตั้งแล้วก็คงกลับมาเหมือนเดิม
4. การปรองดอง การสมานฉันท์ ไม่ใช่แค่หยุดการทะเลาะเบาะแว้งไว้แค่นั้น แล้วก็จบ ไม่ใช่แค่การเอาตำรวจ ทหาร ไปร้องรำทำเพลงให้ชาวบ้านดูแล้วก็คิดว่านั่นเป็นการปรองดอง หรือการไปทำนู่นทำนี่ในหมู่บ้าน ตำบล แล้วนึกว่านี่คือการทำให้คนรักกันได้แล้ว ที่จริงยังไม่ใช่ 5. คนที่ทะเลาะกัน คนที่แตกแยกกัน คนที่ไม่ปรองดองกัน คนที่ไม่สมานฉันท์กัน ก็คือคนมีอำนาจ คนการเมือง แกนนำทางการเมือง กลุ่มนำทางการเมือง คนพวกนี้ทะเลาะกัน แย่งอำนาจกัน แตกแยกกันแล้วก็ชวนชาวบ้านมาทะเลาะให้แตกแยกเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของกลุ่มตน พวกตน พวกนี้คือตัวแห่งความขัดแย้ง ตัวแห่งความแตกแยก ชาวบ้านโดยปกติก็ไม่อยากทะเลาะไม่อยากแตกแยกกัน แต่โดนปลุก โดนยุจากตัวการเมืองเหล่านี้ 6. การจะยุติความขัดแย้ง แตกแยก สร้างความปรองดองได้ จะต้องเริ่มด้วยการพูดคุยเจรจา ทำความเข้าใจกับกลุ่มคู่ขัดแย้งตัวหลักตัวสำคัญ ต้องมุ่งมั่น ทุ่มเท ต้องจริงจัง ต้องใช้เวลากับเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ต้องไม่หยุดจนกว่าจะบรรลุผลจะ 3 เดือน 6 เดือน 8 เดือน 1 ปี 2 ปีก็ต้องทำ ดีกว่าให้บ้านเมืองเสียเวลาเป็นสิบๆ ปีและคนที่มีอำนาจ มีพลังที่สุดในการเจรจาคือผู้ที่เป็นรัฏฐาธิปัตย์ในขณะนี้ เป็นผู้ใหญ่ในขณะนี้ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นอกจากนั้นไม่มีน้ำหนัก ไม่มีพลัง เพราะคนนี้พูดแล้วทำได้ ตัดสินใจได้
7. การเจรจาต้องเจรจากับกับแกนนำที่เป็นคู่ขัดแย้งทั้งหมดในประเทศ พรรคการเมืองทุกพรรค แกนนำผู้เคลื่อนไหวทางการเมือง บุคคลผู้นำทางการเมือง แม้กับคุณทักษิณ ก็เป็นตัวหลัก เป็นคู่ขัดแย้งทางการเมืองที่สำคัญก็ต้องคุย ส่วนวิธีการคุยจะคุยแบบไหนอย่างไรจะต่อหน้าลับหลังกับใคร อย่างไรบ้างเป็นเรื่องของผู้นำและเป็นศิลปะที่จะพูดคุย 8. เมื่อคุยทุกกลุ่มทุกฝ่ายแล้วก็นำมาบอกกล่าวเล่าให้ประชาชนฟัง ว่าอะไรทำได้ และทำทันที เป็นการแสดงความจริงใจ ความตั้งใจและเริ่มต้นของการปรองดอง ไม่ทำในยุคนี้ ใครจะมีพลังมีอำนาจเท่าชุดนี้ ในสถานการณ์อย่างนี้ ถ้าไม่ทำเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย เสียโอกาส เสียเวลาและเสียของ 9. ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นและข้อเสนอส่วนตัวที่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน เป็นไปด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ด้วยความจริงใจที่ต้องการให้ประเทศนี้มีความรัก ความสามัคคี ปรองดองสมานฉันท์
“อย่าเพียงหยิบคำพูดบางวรรค บางตอนบางส่วนมาปะติดปะต่อหรือตัดแปะแล้วใส่สีตีไข่ ใส่ร้ายป้ายสี ขอร้องอย่าทำเลยครับ ผมขอยืนยันยังเป็นวันชัยคนเดิม จุดยืนเหมือนเดิม หนักแน่น มั่นคง” นายวันชัย ระบุ