ASTVผู้จัดการ - ย้อนรอย 3 ปีหลัง “ตระกูลชินวัตร” ทำบุญ 13 เม.ย. แต่ปีนี้ทำบุญ 10 ก.พ. หลังทหาร ทภ.3-เชียงใหม่ แจงไม่ได้ค้นรถ “ยิ่งลักษณ์” ให้เกียรติและทำความเคารพตลอด รับทหารแค่ค้นรถคันอื่นในขบวน ยันดูแล “ระดับวีไอพี” ตามหลักการ สั่งเปลี่ยนจุดตรวจหน้าหมู่บ้าน
หลังจากมีภาพถ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษที่วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง เชียงใหม่ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจตามประกบติดตามความเคลื่อนไหวใกล้ชิด หลังมีข่าวขออนุญาต คสช.ไปฮ่องกงแต่ไม่ได้รับอนุญาต
พล.ท.สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 ออกมากล่าวยืนยันว่าทหารไม่ได้ตรวจค้นรถของอดีตนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด เพียงแต่ทางทหารของมณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ.33) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยตั้งจุดตรวจจุดสกัดดูแลความมั่นคงเท่านั้น
พล.ต.ธนา จารุวัต เสนาธิการกองทัพภาคที่ 3 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า เป็นการตั้งจุดตรวจ-จุดสกัดหรือด่านตรวจความมั่นคงตามปกติร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่จะตั้งด่านตั้งแต่เวลา 22.00-12.00 น.ของอีกวัน เพื่อรักษาความปลอดภัย ประกอบกับมีกระแสข่าวเรื่องยาเสพติดและความเคลื่อนไหวที่จะก่อความวุ่นวาย จึงต้องมีความเข้มงวดกวดขันโดยไม่ได้เป็นการเจาะจงบุคคลแต่อย่างใด
ส่วน พล.ต.ศรายุทธ รังษี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 (ผบ.มทบ.33) ที่ดูแลพื้นที่ จ.เชียงใหม่ กล่าวยืนยันว่าทหารไม่ได้ตรวจค้นรถของอดีตนายกฯ แต่อย่างใด เพราะให้เกียรติ และให้การดูแลรักษาความปลอดภัยเมื่อเข้าพื้นที่ แต่ยอมรับทหาร-ตำรวจได้ตรวจค้นรถคันอื่นๆ ในขบวนของอดีตนายกฯ ที่ขับตามกันมาซึ่งเป็นไปตามระเบียบทุกประการ แต่ไม่ได้แตะต้องรถอดีตนายกฯ ที่สำคัญทหารยังทำความเคารพ และให้เกียรติอดีตนายกฯ อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม จากนี้คงไม่ใช่การตั้งด่านที่หน้าหมู่บ้าน อดีตนายกฯ แล้ว แต่ทหารจะดูแลรักษาความปลอดภัยเมื่ออยู่ในพื้นที่ แต่ยืนยันว่าอดีตนายกฯ ไม่ได้ประสานขอให้เลิก ตั้งจุดตรวจหน้าหมู่บ้าน แต่เพราะทหารเรามีวิธีดูแลความปลอดภัยบุคคลระดับวีไอพีในพื้นที่ตามระเบียบอยู่แล้ว
ย้อนรอย 3 ปีหลัง ตระกูลชินวัตร ทำบุญ 13 เม.ย. แต่ปีนี้ทำบุญ 10 ก.พ.
รายงานข่าวระบุว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าการเดินทางเพื่อร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษตระกูลชินวัตร ร่วมกับญาติๆ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตลอด 3 ปี ที่วัดโรงธรรมสามัคคี อำเภอสันกำแพง ส่วนใหญ่จะเดินทางมาในเดือนเมษายน ตรงกับเทศกาลสงกรานต์ หรือปีใหม่เมืองของชาวล้านนา แต่ในปี 2558 น.ส.ยิ่งลักษณ์และครอบครัวชินวัตร กลับเลือกเดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนเพื่อทำบุญอุทิสส่วนกุศล
เริ่มจากวันที่ 13 เม.ย. 2555 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมด้วยนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาว นายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย พร้อมครอบครัวชินวัตร เดินทางไปยังวัดโรงธรรมสามัคคี เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลและไหว้กู่บรรพบุรุษ โดยมีกลุ่มพัฒนาสตรีแม่บ้าน และคนเสื้อแดง อ.สันกำแพง ให้การต้อนรับ มีนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ขณะนั้นเดินทางไปด้วย
13 เมษายน 2556 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมด้วยนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาว นายอนุสรณ์ อมรฉัตร เด็กชายศุภเสกข์ อมรฉัตร สามีและบุตรชาย รวมทั้งครอบครัวชินวัตร เดินทางไปยังวัดโรงธรรมสามัคคี เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลและไหว้บรรพบุรุษ
13 เม.ย. 2557 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมด้วยนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาว นายอนุสรณ์ อมรฉัตร เด็กชายศุภเสกข์ อมรฉัตร สามีและบุตรชาย รวมทั้งครอบครัวชินวัตร เดินทางไปยังวัดโรงธรรมสามัคคี เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลและไหว้บรรพบุรุษ
ล่าสุด 10 ก.พ. 2558 หลังจากมีรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางกลับไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษร่วมกับญาติๆ ที่วัดโรงธรรมสามัคคี
ป.ป.ช.สั่ง “ยิ่งลักษณ์” มารายงานตัว 19 ก.พ.
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้สั่งการให้เลขาธิการ ป.ป.ช.ส่งหนังสือให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อให้ไปรายงานตัวต่ออัยการสูงสุด (อสส.) ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 10.00 น. เพื่อนำตัวส่งฟ้องต่อศาลฎีกาฯ โดยเป็นหนังสือให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกชี้มูลความผิดทางอาญากรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวให้แก่อัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการส่งฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
