xs
xsm
sm
md
lg

“จีน-สหรัฐฯ-ไทย” และอีก 21 ชาติร่วมฝึกคอบบร้าโกลด์ วันนี้ (9 ก.พ.58)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ยืนยันแล้วว่าการฝึกผสมนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายใต้รหัสโครงการฝึกคอบบร้าโกลด์ (Cobra Gold 2015/CG2015) จะเกิดขึ้นตามกำหนดเดิมของฝ่ายไทย ระหว่างวันที่ 9 - 20 ก.พ. นี้ ในพื้นที่ 7 จังหวัด โดยมีทหาร 24 ชาติ เข้าร่วมกว่า 13,000 นาย ด้านสหรัฐฯ แถลงส่ง “นาวิกโยธินสหรัฐฯ” เพียง 3,600 นาย “จีน - อินเดีย” จะร่วมในฐานะภาคีและผู้สังเกตการณ์ แต่ทหารจีน จะเข้าร่วมฝึกอย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก เผยพุธนี้ คสช. เชิญ ผช.ทูตทหารทุกประเทศฟังสถานการณ์ในไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้เมื่อกลางเดือน มิ.ย. 2557 จะมีกระแสข่าวทางการสหรัฐอเมริกา จะระงับการฝึกร่วม “คอบร้าโกลด์ - กะรัต” โดยอาจจะย้ายไปเมืองดาร์วิน ออสเตรเลียแทน

แต่เป็นที่ยืนยันแล้วว่าการฝึกผสมนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายใต้รหัสโครงการฝึกคอบบร้าโกลด์ (Cobra Gold 2015/CG2015) จะเกิดขึ้นตามกำหนดเดิมของฝ่ายไทย ระหว่างวันที่ 9 - 20 ก.พ. นี้ ในพื้นที่ จ.ลพบุรี จ.ขอนแก่น จ.ชลบุรี (สัตหีบ) จ.นครราชสีมา จ.สระบุรี จ.นครนายก และ จ.จันทบุรี โดยมี 24 ชาติเข้าร่วม โดยมี จีน และ อินเดีย จะร่วมในฐานะภาคีและผู้สังเกตการณ์ (Observer Plus nations) จากทหารจำนวน 13,000 คน จากประเทศในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกร่วม 12 ชาติ รวมไปถึง ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ ประกอบกับการยืนยันจากสื่อสหรัฐฯ “วอชิงตันโพสต์” ที่อ้างคำพูดของ นายเจฟรี พูล โฆษกเพนตากอน ปฏิเสธที่จะตอบข้อสงสัยในเรื่องนี้ แต่ให้วอชิงตันโพสต์ สอบถามสถานทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยแทน

ในแถลงการณ์ของสถานทูตสหรัฐฯประจำไทย เมลิสซา สวีนีย์ (Melissa Sweeney) โฆษกสถานทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า “เจ้าหน้าที่สหรัฐฯตัดสินใจที่จะยังคงดำเนินการฝึกผสมคอบร้าโกลด์ต่อไป แต่ได้ปรับเปลี่ยนและจำกัดการฝึกในปี 2015 ลงอย่างมาก เนื่องจากเหตุการณ์ทำรัฐประหารในไทย”

สวีนีย์ ชี้ว่า ในปีนี้การฝึกจะเน้นหนักในการช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมมากขึ้น แต่การฝึกจู่โจมสะเทินน้ำสะเทินบก หรือ amphibious landing exercise ได้ถูกยกเลิกไป แต่กระนั้นโฆษกสถานทูตสหรัฐฯประจำไทย ยอมรับว่า มีการนำการฝึกยิงภาคสนามในสถานการณ์จริงมาแทน และนอกจากนี้ ตัวเลขของทหารสหรัฐฯที่จะมาเข้าร่วมลดลงจาก 4,300 นาย ในปีที่ผ่านมา เหลือเพียงแค่ 3,600 นาย ที่จะเข้าร่วมในปีนี้

ซึ่งก่อนหน้านี้ เพนตากอนได้ป่าวประกาศการฝึกผสมคอบร้าโกลด์ ว่า เป็นความร่วมมือใกล้ชิดทางการทหารระหว่างสหรัฐฯและไทย มีการนำนักข่าวเข้าร่วมชมการฝึกในป่าลึก เพื่อฝึกให้เอาตัวรอดโดยมีครูจากกองทัพไทยนำชมสาธิตการดื่มเลือดจากงู และกินแมลงเพื่อประทังชีวิต

ในเดือนหน้า (กุมภาพันธ์) จะมีการฝึกผสมร่วมระหว่างสหรัฐฯ และ ไทย ภายใต้ชื่อ “Cope Tiger” ที่เป็นการฝึกผสมที่มีทหารป้องกันทางอากาศยานและบินรบหลายสิบหน่วยเข้าร่วม ซึ่งในเดือนมีนาคม ปี 2014 มีทหารสหรัฐฯจำนวน 160 คนเข้าร่วมฝึกที่กองบิน 1 นครราชสีมา ของกองทัพอากาศไทย และทหารอากาศสิงคโปร์ เข้าร่วมฝึกด้วยเช่นกัน

“วอชิงตันโพสต์” ระบุว่า วอชิงตันลังเลที่จะถอนไทยออกจากการฝึกด้วยเกรงจะกระทบความสัมพันธ์อันยาวนานทางทหารระหว่างทั้งสองชาติ โดยไทยเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ของสหรัฐฯเกือบ 2 ศตวรรษ และนอกจากนี้ วอชิงตันเกรงว่า ผู้กุมบังเหียนของไทยในขณะนี้จะหันไปจับมือกับจีนมากขึ้น ซึ่งจะกระทบต่ออิทธิพลของสหรัฐฯในย่านเอเชียแปซิฟิก และในขณะเดียวกัน แหล่งข่าวสหรัฐฯเผยว่า วอชิงตันเกรงว่า อาจจะเป็นการส่งสัญญาณผิดให้เห็นว่า สหรัฐฯนั้นสนับสนุนการทำรัฐประหาร และหนุนหลังพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งต่างจากในปีที่ผ่านมา เพนตากอนให้ความสำคัญน้อยมากกับการฝึกผสมคอบร้าโกลด์ ที่จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 - 20 กุมภาพันธ์นี้

สถานทูตสหรัฐฯในไทยย้ำการฝึกพหุภาคี 24 ชาติ

ด้าน สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่รายละเอียดการฝึกคอบร้าโกลด์ 2015 ระหว่างวันที่ 9 - 20 ก.พ. 2558 ว่า เป็นหนึ่งในการฝึกพหุภาคีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และเกิดขึ้นมาแล้วเป็นเวลากว่า 30 ปี คอบร้าโกลด์ 2015 (CG15) ครั้งที่ 34 จะเปิดในวันที่ 9 ก.พ. ที่ จ.นครนายก มี 24 ชาติเข้าร่วม เน้นในเรื่องความมั่นคงของโลก การประสานงาน ความร่วมมือ และความมั่นคงในภูมิภาค CG15 ปีนี้จะรวมถึงการเพิ่มความสำคัญของการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ เพื่อวัตถุประสงค์ในการขยายความร่วมมือในภูมิภาคสำหรับการเผชิญปัญหาวิกฤต
การฝึกพหุภาคีนี้ ประกอบด้วย การฝึกฝ่ายเสนาธิการ โครงการช่วยเหลือประชาชน การสัมมนาทางการแพทย์ การฝึกอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ขัดแย้งและการฝึกภาคสนาม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จาก 16 ชาติ ในส่วนวางแผน กองกำลังผสมนานาชาติซึ่งตอบโต้สถานการณ์ สมมติในหัวข้อความมั่นคงทางทะเล การต่อต้านโจรสลัด และการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม

สำหรับผู้เข้าร่วมการฝึกจาก 11 ชาติ จะร่วมในส่วนโครงการช่วยเหลือประชาชนเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตและสาธารณูปโภคพื้นฐานสำหรับคนไทย และการช่วยเหลือทางการแพทย์ ซึ่งมีทั้งแพทย์พลเรือนและแพทย์ทหารระหว่างการฝึกภาคสนาม ผู้เข้าร่วมฝึกจะดำเนินการฝึกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการและสานสัมพันธ์ในภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีชาติที่ได้รับเชิญเข้าร่วมสังเกตการณ์การฝึก 6 ประเทศ

ทหารจีนขอเข้าร่วมฝึกอย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก
รายงานข่าวระบุว่า ในส่วนของทางการจีน ภายหลัง พล.อ.ฉางว่านฉวน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เข้าพบนายทหารระดับสูงของไทย ได้ขอวางแผนร่วมกันในการฝึกร่วมผสม ภายหลังจากที่ รมว.กลาโหมของไทยเสนอให้มีการฝึกร่วมผสมระหว่างกองทัพอากาศไทย กับกองทัพอากาศจีน ในช่วงเดินทางไปเยือนจีนครั้งล่าสุด ทางจีนจึงเสนอให้มีการฝึกร่วมผสมทางทหารของนาวิกโยธินยกพลขึ้นบก พร้อมวางเป้าหมายในการยกระดับการฝึกให้มากขึ้นในเวลา 3 - 5 ปี เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาค

“ทางจีนพร้อมสนับสนุนไทยในเรื่องอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางการทหาร และพร้อมสนับสนุนไทยในเรื่องของยุทโธปกรณ์ทั้งรถถัง เรือดำน้ำ ตลอดจนการฝึกกำลังพลในเรื่องการใช้เทคโนโลยีชั้นสูง เพราะประเทศจีนไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากประเทศใด เช่น เรือดำน้ำ ที่สามารถใช้เทคโนโลยีสร้างท่าเรือดำน้ำได้เอง”

ทั้งนี้ จีนมีความเข้าใจถึงสถานการณ์การเมืองไทย เพราะได้ติดตามมาตลอด ทราบว่าสถานการณ์ของไทยมีการเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และชื่นชมกองทัพไทยที่เข้าควบคุมสถานการณ์ให้ประเทศเกิดความสงบ เป็นไปตามความต้องการของประชาชน ซึ่งทางจีนเคารพการแก้ไขปัญหาภายในของไทย และจีนจะไม่เข้าไปแทรกแซง รวมถึงพร้อมสนับสนุนการเมืองไทยด้วย และช่วยกันรักษาความสัมพันธ์ทุกระดับ นี้คือนโยบายของจีน

โดยในปีนี้ไทยจะเป็นเจ้าภาพฝึกความร่วมมือทางการแพทย์ร่วมกับรัสเซีย ส่วนการฝึกด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับลาว จึงอยากให้จีนสนับสนุนในการฝึกครั้งนี้ โดยทางจีนพร้อมที่จะเดินทางเข้ามาสนับสนุนการฝึกครั้งนี้ โดยไทยยืนยันว่าไทยพร้อมเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ทหารในอาเซียน โดยการฝึกดังกล่าวจะมีขึ้นในปี 2559

กองบัญชาการกองทัพไทยได้แจกเอกสารกำหนดการการฝึกคอบร้าโกลด์ 2015 ครั้งที่ 34 หลังจากยกเลิกแถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 6 ก.พ. โดยเอกสารระบุว่า การฝึกร่วมผสมภายใต้รหัสดังกล่าว เป็นการฝึกพหุภาคีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกที่เกิดขึ้นมาแล้วเป็นเวลา 30 ปี โดยในปีนี้ถูกจัดขึ้นในหลายพื้นที่ของราชอาณาจักรไทย ระหว่างวันที่ 9 - 20 กุมภาพันธ์ 2558 มี 24 ชาติเข้าร่วม ซึ่งจะเน้นในเรื่องความมั่นคงของโลก การประสานงาน ความร่วมมือ และความมั่นคงในภูมิภาค รวมถึงการเพิ่มความสำคัญของการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ หรือเอชเอดีอาร์ เพื่อวัตถุประสงค์ในการขยายความร่วมมือในภูมิภาคสำหรับการเผชิญปัญหาวิกฤติ

จีนเข้าร่วมฝึกอย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก จะร่วมในส่วนโครงการช่วยเหลือประชาชนเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตและสาธารณูปโภคพื้นฐานสำหรับคนไทย และการช่วยเหลือทางการแพทย์ ซึ่งมีทั้งแพทย์พลเรือนและแพทย์ทหารระหว่างการฝึกภาคสนาม ผู้เข้าร่วมฝึกจะดำเนินการฝึกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการและสานสัมพันธ์ในภูมิภาค สำหรับชาติที่ได้รับเชิญเข้าร่วมสังเกตการณ์การฝึกมี 6 ชาติ

สำหรับประเทศที่เข้าร่วมฝึกหลัก ประกอบด้วย ไทย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดีย และ จีน

นาวิกโยธินสหรัฐฯ 3,600 นายร่วมฝึก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ฝ่ายไทย พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสุงสุด (ผบ.สส.) ระบุว่า การฝึก Cobra Gold 2015 ยังคงเดินหน้าเหมือนเดิม โดยจะเปิดฝึกในวันที่ 9 ก.พ. นี้ แต่มีการปรับกำลังนิดหน่อย เนื่องจากเรือรบสหรัฐฯ ที่เกยตื้นที่ประเทศญี่ปุ่น เลยต้องเปลี่ยน จากที่มีทั้ง ทหารบก และ นาวิกโยธิน มาฝึก จึงมีเพียง นาวิกโยธินสหรัฐฯ (The U.S. Marine Corps Forces) มาฝึกเท่านั้น โดยจำนวนใกล้เคียงเดิม ขณะเดียวกัน ได้ยกเลิกแถลงข่าว การฝึกผสม Cobra Gold เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา เพราะเกรงว่านักข่าวถามโยงกับเรื่องการเมือง จึงไม่มีการแถลงข่าว ซึ่ง ไม่มีนัยยะอื่น

“แต่มีการลดกำลังทหารสหรัฐฯ ลง จากเดิมราว 5,000 นาย เหลือประมาณ 3,600 นาย เน้นการฝึกด้านมนุษยธรรม และบรรเทาภัยพิบัติ” ขณะที่ “ออสเตรเลีย” จะยังส่งกำลังเข้าร่วมการฝึกกับกองทัพไทยในพื้นที่ภาคเหนือ

คสช.เชิญ ผช.ทูตทหารทุกประเทศฟังสถานการณ์

มีรายงานด้วยว่า ในวันพุธที่ 11 ก.พ. นี้ กรมข่าวทหารบก กองทัพบก ได้เชิญผู้ช่วยทูตทหาร ประเทศต่างๆ ที่ประจำประเทศไทย มาทำความเข้าใจเรื่องการทำงาน และ แนวทาง แก้ปัญหาประเทศ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามโรดแมป ที่กงบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.)

“ทั้งเหตุการณ์ทางการเมือง ผลของกระบวนการลงมติของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี การสั่งระงับการเดินทางไปต่างประเทศของอดีตนายกฯ กระบวนการเข้าสู่ทางคดี เหตุการณ์ระเบิดหน้าห้างพารากอน การจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับแถลงการณ์ปลอม รวมถึงการเชิญตัว นักการเมือง บุคคลต่างๆ มารายงานตามกฎอัยการศึกของ คสช. ในวันดังกล่าว”




กำลังโหลดความคิดเห็น