อดีตนายกรัฐมนตรีทำงง ป.ป.ช. ยื่นฟ้องคดีสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ ปี 2551 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งประทับรับฟ้องหรือไม่ 24 ก.พ. นี้ โวอัยการไม่ฟ้อง วุฒิสภาไม่ถอดถอน เพราะไม่ได้ทำอะไรมีปัญหา ซัดเป็นพวกไม่ต้องการให้ตระกูลชินวัตรกลับมาเล่นการเมือง
วันนี้ (6 ก.พ.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดวันที่ 24 ก.พ. เวลา 10.00 น. ฟังคำสั่งจะประทับรับฟ้องหรือไม่ ในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปี 2551 ว่า ตนรู้สึกงง นึกว่าจบไปแล้ว เพราะตอนนั้นอัยการสูงสุด (อสส.) สั่งไม่ฟ้อง และวุฒิสภามีมติไม่ถอดถอน และที่ผ่านมาไม่ได้ทำอะไรที่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม หวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากศาล เพราะมั่นใจว่าบริสุทธิ์ ไม่ได้สั่งสลายการชุมนุม แต่ถ้าศาลมีคำสั่งรับฟ้องจริง ก็ต้องไปต่อสู้ วันนี้วิพากษ์วิจารณ์กันเยอะ ตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ต้องการให้คนตระกูลชินวัตรกลับมาเล่นการเมือง แต่ตนอยากบอกว่าคนตระกูลชินวัตรผูกขาดการเมืองไม่ได้ เพราะล้วนแต่มาจากฉันทามติประชาชน ตามกติกาเลือกตั้ง เห็นว่าตนเป็นลูกเขยชินวัตรแล้วจะมาผูกขาดคงไม่ใช่
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา มีมติเลือกผู้พิพากษา 9 คน เป็นองค์คณะพิจารณาคดีหมายเลขดำ อม.2/2558 ที่ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เป็นจำเลยที่ 1 - 4 ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 295 และ 302 ขณะที่ศาลฎีกาฯ นัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องเป็นคดีหรือไม่ในวันที่ 24 ก.พ. เวลา 10.00 น.
