“จับตาพรุ่งนี้ขบวนจะเข้าสนามได้หรือไม่” นศ.ติดแท็ก “สู้เข้าไปอย่าได้ถอย” เผย คสช. ส่งเจ้าหน้าที่ประสานงานผู้จัดกิจกรรมฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ - มธ. ตั้งแต่เดือนมกราคม ย้ำ “เป็นประเพณี” ด้าน “ไก่อู” ยัน รัฐบาลไม่เกี่ยว
วันนี้ (6 ก.พ. 58) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ยอมรับว่า คสช. ได้ขอความร่วมมือ ม.ธรรมศาสตร์ และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้งดกิจกรรมล้อเลียนการเมืองที่ทำเป็นประจำทุกปีในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ - ธรรมศาสตร์ นั้น
ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาปฏิเสธว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายแบบนี้ โดยอาจจะเกี่ยวข้องกับ คสช. ซึ่งจะต้องเห็นใจว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวมองได้หลายมุม เช่น สิทธิเสรีภาพ
“แม้จะเป็นประเพณีที่ไม่มีอะไรร้ายแรง แต่จะต้องคำนึงถึงบริบทหลายประการ ว่าคนจัดงานอาจไม่คิดว่า การจัดกิจกรรมจะส่งผลร้ายต่อประเทศ แต่อาจมีอีกกลุ่มนำไปเป็นประเด็นทางการเมือง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของฝ่ายนักศึกษา โดยเฉพาะเพจเฟซบุ๊กกลุ่มอิสระล้อการเมือง มธ. ได้โพสต์ข้อความว่า วันสุดท้ายของล้อการเมือง เพื่อนๆ คนไหนว่างก็มาช่วยกัน คืนนี้เราจะไปสนามศุภฯกันแล้ว ตั้งแต่ 5 โมงเป็นต้นไป มากันเยอะๆ นะครับบ พร้อมกับติด TAG ว่า
#สู้เข้าไปอย่าได้ถอย
มีรายงานว่า เมื่อเดือน ม.ค. 2558 คสช. ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมกับสมาคมศิษย์เก่าฯ คณะนักศึกษาฝ่ายกิจกรรมทั้ง 2 สถาบัน หลังจากมีการทำหนังสือขออนุญาตจัดกิจกรรมไปยัง คสช. และได้รับอนุญาตด้วยดีตามประกาศของกฎอัยการศึกในการชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน และ คสช. ก็เข้าใจว่า เป็น “ประเพณี” ไม่มีการห้าม แต่ถ้าจะทำขบวนล้อการเมืองก็จะทำอย่างสร้างสรรค์ เพราะ คสช. ก็รับทราบทุกขั้นตอน และการล้อเลียนก็อาจจะมีในเรื่องค่านิยม 12 ประการบ้าง แต่ก็ยังจัดกิจกรรมประเภทนี้ต่อไป
“พรุ่งนี้ขบวนจะเข้าสนามได้หรือไม่ก็ต้องรอดูกันอีกครั้ง อยากให้รอดูวันงาน”
ก่อนหน้า พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. กล่าวว่า ทางผู้จัดงานทั้งสองสถาบันได้มีการประสานกับทางเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในระดับพื้นที่ถึงรายละเอียดกิจกรรมว่าก่อนแข่งขันอาจจะมีการละเล่นเชิงหยอกล้อการเมือง ทางเจ้าหน้าที่จึงประสานกันว่า ขอให้ปีนี้มีการระมัดระวังในเนื้อหา และขอให้อยู่ในกรอบของความบันเทิงทางการกีฬาตามธรรมเนียมที่พอเหมาะ และเหมาะสม เพราะทั้งผู้จัดงานและเจ้าหน้าที่เห็นตรงกันว่า มีโอกาสที่อาจถูกบางบุคคลหยิบไปบิดเบือน เพื่อขยายผลส่งผลให้เกิดความไม่เรียบร้อยหรือถูกนำไปอ้างเชื่อมโยงเป็นประเด็นขัดแย้งได้
“ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทหารไม่ได้ห้ามจัดงานดังกล่าวแค่เห็นตรงกันว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งทางผู้จัดงานเข้าใจและมีแผนที่จะระมัดระวังให้อยู่แล้ว” พ.อ.วินธัย กล่าว