xs
xsm
sm
md
lg

คสช.ชี้คดีปลอมแถลงการณ์อยู่ในขั้นสอบสวนยังไม่ต้องมีทนาย โต้ละเมิดสิทธิฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมโฆษก คสช.(แฟ้มภาพ)
“วินธัย” แจงคดีมือปลอมแถลงการณ์หมิ่นสถาบันฯ อยู่ขั้นสอบสวน ยังไม่ถูกตั้งข้อหา ยังไม่จำเป็นต้องใช้ทนาย เผย “บิ๊กโด่ง” ยันคุมตัวเหมือนปกติ ยึดหลักสิทธิฯ ขออย่าบิดเบือน ย้ำคดีกระทบจิตใจคนไทย ต้องระวังพร้อมสาวหาตัวคนผิด แนะ ให้เวลาเจ้าหน้าที่

วันนี้ (6 ก.พ.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทับบก ในฐานะโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มาขอติดตามคดีและขอพบนายกฤษณ์ บุดดีจีน ที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่ ร.11 รอ. หลังถูกกลาวหาเผยแพร่เอกสารแถลงการณ์ปลอมว่าขณะนี้ขบวนการขั้นตอน อยู่ในขั้นตอนของการสอบสวนและซักถาม เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและเจตนาของการกระทำ รวมถึงถ้ามีผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ด้วยหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่เข้าใจว่ายังไม่ได้อยู่ในขั้นตอนการถูกตั้งข้อกล่าวหา จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้ทนายมาช่วยแก้ต่างให้ในช่วงนี้

พ.อ.วินธัยกล่าวว่า สำหรับการปฏิบัติต่อผู้ถูกควบคุมตัวนั้น ทาง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการ คสช.ได้มีการประสานสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกส่วน และยืนยันว่าเป็นไปตามแนวทางที่หน่วยงานด้านความมั่นคงเคยปฏิบัติเหมือนปกติที่ผ่านมา ตามนโยบาย ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ซึ่งทุกคนที่เข้าสู่กระบวนการนี้จะได้รับความเป็นธรรม และได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ถึงแม้จะอยู่ในกรอบของกฎอัยการศึกก็ตาม และการดำเนินการทุกอย่างของเจ้าหน้าที่ ยังคงยึดถือเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน

“คดีนี้เป็นคดีที่ละเอียดอ่อนมีผลกระทบต่อจิตใจคนไทยจำนวนมาก จึงมีคนส่วนใหญ่ติดตามให้ความสำคัญ ยิ่งมีหลายคนรู้สึกว่าเรื่องลักษณะนี้เป็นเรื่องที่พวกเขาได้ถูกคนไม่ดีบางคน พยายามละเมิดสิทธิทางความรักความรู้สึก เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องระมัดระวังและสืบค้นเพื่อให้ได้ตัวผู้ที่จงใจทำความผิดมาเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว” โฆษก คสช.กล่าว

พ.อ.วินธัยกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ขอเรียนว่าเรื่องนี้เจ้าหน้าที่มิได้มีการกระทำใดที่ไม่เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน อยากให้ผู้ที่พยายามบิดเชื่อมโยงไปในประเด็นที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ได้ตระหนักถึงเนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารที่มีการเผยแพร่ดังกล่าวที่ดูค่อนข้างผิดปกติ โดยเฉพาะด้วยสามัญสำนึกคนไทยโดยทั่วไปเชื่อว่าไม่น่าที่จะตัดสินใจนำไปเผยแพร่ต่อ เพราะเป็นสิ่งที่กระทบต่อความรู้สึกและจิตใจคนไทย ในขณะเดียวกัน ขอให้สังคมได้ให้เวลากับเจ้าหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน และซักถามให้ครบทุกด้าน เพื่อนำไปสู่การหาตัวผู้กระทำผิด ทั้งในเรื่องการผลิตเอกสารปลอม การเผยแพร่ และนำเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปตามกระบวนการทางกฎหมาย


กำลังโหลดความคิดเห็น