“บิ๊กโชย” ชี้ “บิ๊กตู่” ไม่ให้ขยายปมขัดแย้ง แต่ถ้าใครผิดฟัน ทหารต้องคุมสถานการณ์ให้ได้

แม่ทัพภาคที่ 1 ระบุการดำเนินการกับผู้เผยแพร่เอกสารสำนักพระราชวังปลอมเป็นเรื่องตำรวจ ทหารดูแลภายใต้กฎอัยการศึก ย้ำคำสั่ง “บิ๊กตู่” ไม่อยากขยายปมความขัดแย้ง แต่ถ้าใครทำผิดต้องดำเนินการตามกฎหมาย ยันทหารจำเป็นต้องควบคุมสถานการณ์ให้ได้เพื่อให้ประเทศเดินหน้า

พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานงานสถาปนากรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ (ป.1 รอ.) ครบรอบ 108 ปี กล่าวถึงการควบคุมตัวกรณีนายกฤษณ์ บุดดีจีน อายุ 26 ปี ผู้ที่แชร์หรือแพร่แถลงการณ์สำนักพระราชวังปลอมว่า การสอบสวนขึ้นอยู่กับการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญ ส่วนทหารจะเข้าไปร่วมดำเนินการด้วยภายใต้กฎอัยการศึก

สำหรับสถานการณ์ช่วงนี้ที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ออกมาเคลื่อนไหวบ่อยขึ้นนั้น ตนไม่อยากพูดถึงสาเหตุมากนัก เพราะเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เน้นย้ำไว้ชัดเจนไม่อยากให้ขยายปมความขัดแย้ง เพราะทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ไม่เช่นนั้นบ้านเรากฎหมายก็จะไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง ใครทำผิดก็ต้องรับโทษตามกฎหมาย ประกอบกับทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ยืนยันด้วยต้องยึดกรอบกฎหมายเป็นหลัก ไม่มีอะไรที่นอกกฎหมายทั้งนั้น อันไหนที่นอกกฎหมาย แล้วไม่ถูกพวกเราจะไม่ทำ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทหารจำเป็นควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ใช่หรือไม่ พล.ท.กัมปนาทกล่าวว่า ก็จำเป็นจะต้องทำ ไม่เช่นนั้นจะเดินหน้าได้อย่างไร ถ้าทุกคนไม่เชื่อฟัง ไม่เคารพ และไม่ให้เกียรติกัน ประเทศก็เดินหน้าไม่ได้ ทางเราก็มีเวทีให้ทุกภาคมีส่วนร่วมกันแสดงความคิดเห็นจะปฏิรูปมีทั้งเวทีของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และเวทีในระดับล่างๆ จำนวนมาก ดังนั้นการแสดงความคิดเห็นควรไปตามกรอบนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า การแสดงออกดังกล่าวเป็นพวกก่อเหตุให้วุ่นวายใช่หรือไม่ พล.ท.กัมปนาทกล่าวว่า ไม่อยากพูดอย่างนั้น ถามย้ำว่ากรณีการปลอมแปลงแถลงการณ์สำนักพระราชวัง กับเหตุการณ์ระเบิดที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม อาจมีความเชื่อมโยงกัน พล.ท.กัมปนาทกล่าวว่า “ยังไม่ตอบเพราะยังไม่มีความชัดเจน ทุกอย่างต้องว่าไปตามกระบวนการสอบสวน”