คณะทำงานถอดถอน 269 อดีต ส.ส.แก้ รธน.ที่มา ส.ว. รวบรวมพยานหลักฐานเสร็จแล้ว แบ่งความผิดเป็น 3 กลุ่ม คาดถกที่ประชุมใหญ่กลางเดือน ก.พ.นี้ ส่วนคดีอาญาเสียบบัตรแทน ส่อเอาผิดได้แค่ ตัวผู้กระทำผิด ด้าน “ขุนค้อน” ส่อผิดอาญา แต่หลัง “สนช.” ไม่ถอดถอน เหตุเชื่อว่าทำไปโดยปกติ คงไม่สามารถดำเนินคดีในส่วนของอาญาได้
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า คณะทำงานในคดีถอดถอนอดีต ส.ส. 269 ราย จากกรณีแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว.ไม่ชอบ ได้รวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว โดยจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มความผิด ซึ่งคาดว่าคณะทำงานจะสามารถสรุปคดีเข้าที่ประชุมกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาได้ภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ หลังจากนั้นจึงจะส่งเรื่องให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติดำเนินการต่อไปทั้ง 3 กลุ่มความผิด
ส่วนกรณีการดำเนินคดีอาญาต่อ ส.ส.ที่เสียบบัตรแทนกันนั้น คาดว่าจะสรุปเข้าที่ประชุม ป.ป.ช.ในช่วงเดียวกันเพื่อให้ ป.ป.ช.พิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไปทั้งนี้ในกรณีดังกล่าวจะมี ส.ส.ที่ถูกดำเนินการทั้งในส่วนของการถอดถอนและดำเนินคดีอาญาด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกรณีนี้ ป.ป.ช.อาจเอาผิดได้ไม่มากเพราะไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัด จึงเอาผิดได้แค่บุคคลที่เชื่อว่ามีพฤติกรรมเสียบบัตรแทนกันที่ปรากฏในคลิปวิดีโอเท่านั้น แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่านำบัตรของใครไปเสียบบ้าง เพราะระบบของรัฐสภายังไม่เอื้ออำนวยเรื่องนี้
ส่วนกรณีที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติแล้วว่าไม่ถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา กรณีเดียวกันนี้ ทำให้การไต่สวนคดีอาญานายสมศักดิ์เป็นสำนวนและความผิดเดียวกันกับคดีถอดถอนเนื่องจากมีพฤติการณ์แค่ส่อว่าเท่านั้น แม้ว่าฝ่าย ป.ป.ช.จะมีพยานหลักฐาน แต่ สนช.ก็เชื่อว่าทำไปโดยปกติ ดังนั้นก็คงไม่สามารถดำเนินคดีนี้ในส่วนของอาญาได้