คสช.สั่งหน่วยรับผิดชอบลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุระเบิดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม คาดแค่ก่อกวน ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก ให้เชื่อเจ้าหน้าที่ดูแลสถานการณ์ได้ ด้านโฆษกกลาโหมประณามมือบึ้ม วอนประชาชนร่วมขับเคลื่อนประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตไปให้ได้
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงเหตุระเบิดบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสยาม เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และเลขาธิการ คสช.ได้สั่งการให้หน่วยที่รับผิดชอบในพื้นที่ดังกล่าวเข้าตรวจสอบพื้นที่และประสานการปฏิบัติงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้ว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล หรือจากสาเหตุอื่นใด
สำหรับรายละเอียดต้องรอผลสืบสวนที่สมบูรณ์จากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าเป็นการก่อกวนและไม่มีเจตนาให้มีผลต่อบุคคล ส่วนระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดแสวงเครื่องขนาดเบา ไม่รุนแรง อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และมั่นใจเจ้าหน้าที่ว่าสามารถดูแลสถานการณ์ได้ เพราะช่วงนี้เจ้าหน้าที่ยังคงให้ความสำคัญต่อการจัดระเบียบสังคมอย่างมาก การกระทำใดที่เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย หรือสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นจะด้วยลักษณะเพียงแค่ต้องการก่อกวนให้สังคมเกิดความตื่นตระหนกก็จะต้องถูกเจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายเข้าดำเนินการอย่างจริงจังแน่นอน
ด้าน พ.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ขอประณามการใช้ความรุนแรงของผู้ก่อเหตุและผู้อยู่เบื้องหลังการวางระเบิดบริเวณทางเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสยามหน้าศูนย์การค้าพารากอน เมื่อคืนวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นสถานที่สัญจรหนาแน่นของนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน การกระทำดังกล่าวไม่เป็นผลดีต่อสถานการณ์ของประเทศที่เปราะบางในปัจจุบัน ที่มีความจำเป็นยิ่งต่อความต้องการเป็นหนึ่งเดียวกันของคนในชาติและความเข้าใจร่วมกันที่จะร่วมกันขับเคลื่อนทุกมิติของสังคมสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของประเทศ เพื่ออนาคตที่ดีขึ้นของทุกคนในชาติ
ขณะที่รัฐบาลและทุกส่วนราชการกำลังพยายามอย่างหนักในการเร่งสร้างการกินดีอยู่ดีและสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชนให้สามารถสัญจรและใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุข พร้อมกับเร่งสร้างความเชื่อมั่นในการปฏิรูปประเทศให้มีความพร้อมในสายตาของต่างประเทศ จึงขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนได้ร่วมกันตระหนักถึงเป้าหมายและผลประโยชน์ของชาติร่วมกัน เพื่อให้การขับเคลื่อนประเทศชาติครั้งนี้ผ่านพ้นวิกฤตไปให้ได้ พร้อมทั้งร่วมกันเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแสการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่หวังผลใช้ความรุนแรงสร้างความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อย่างเช่นที่เกิดขึ้นมาในอดีตแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่รัฐทั่วประเทศ เพื่อหยุดสถานการณ์การใช้ความรุนแรงให้ได้