xs
xsm
sm
md
lg

“ทนายปู” เกาะขาอัยการ หวังเบรกฟ้องอาญา “ยิ่งลักษณ์” โกงจำนำข้าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี (ภาพจากแฟ้ม)
ทนายความ “ยิ่งลักษณ์” เตรียมยื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด หวังเบรกฟ้องอาญาคดีโกงจำนำข้าว อ้าง “วิชา” ชี้นำ สนช. ทั้งที่เป็นความลับ ก่อนที่ฝ่ายอัยการจะแถลงอ้างว่าไม่ทราบเรื่อง ยังไม่สรุปเรื่อง พยานไม่สมบูรณ์ ซัดการประชุม ป.ป.ช. มิชอบ ก่อนยกหางนายดำรงหลักนิติธรรม

วันนี้ (22 ม.ค.) นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตั้งข้อสังเกตต่อการปฏิบัติหน้าที่ของคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุด กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในการพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ของอัยการสูงสุด ว่า ได้ปฏิบัติไปตามอำนาจหน้าที่ด้วยความชอบธรรมหรือไม่ ทั้งนี้ เนื่องจากที่ตนตั้งข้อสังเกต เพราะได้ไปยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดรวม 2 ครั้ง ภายหลังที่ ป.ป.ช. ส่งสำนวนคดีอาญาโครงการรับจำนำข้าวมายังอัยการสูงสุด และต่อมาอัยการสูงสุดได้ตั้งคณะทำงาน ที่มี นายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ในเบื้องต้นคณะทำงานได้สรุปข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายจากสำนวน ป.ป.ช. แล้ว อัยการสูงสุดได้ชี้ข้อไม่สมบูรณ์รวม 3 ประเด็น อาทิเช่น คดีนี้ไม่มีหลักฐานทุจริต มีเพียงปกรายงานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ให้สั่งสอบว่ามีการทุจริตในขั้นตอนใด เป็นต้น

และครั้งสุดท้ายตนได้ไปยื่นขอความเป็นธรรมตามที่อัยการสูงสุดชี้ข้อไม่สมบูรณ์ ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 58 นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ได้ตอบข้อซักถามในสภาฯ ในลักษณะชี้นำ ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เป็นความลับว่ามีการตกลงระหว่างคณะทำงานร่วม ระหว่างฝ่ายอัยการสูงสุด และฝ่าย ป.ป.ช. เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า คณะทำงานร่วมมีมติเห็นว่าคดีมีมูล มีข้อตกลงกันได้ว่าอัยการสูงสุดจะฟ้องคดีอาญาโครงการรับจำนำข้าวให้กับ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นข้อพิรุธว่าเหตุใด นายวิชาจึงกล้าพูดชี้นำเช่นนั้น แต่ความมาปรากฏต่อมาว่า นายวุฒิพงศ์ หัวหน้าคณะทำงานร่วมระหว่างฝ่ายอัยการสูงสุด กับฝ่าย ป.ป.ช. แถลงข้อเท็จจริง วันที่ 21 ม.ค. 58 ว่า “ตนในฐานะหัวหน้าคณะทำงานไม่เห็นทราบเรื่องที่ ป.ป.ช. ไปออกข่าว ไปประชุมกันตอนไหน ยังงงว่าทำไมไม่เชิญตนเพราะคณะทำงานร่วมยังไม่สรุปเรื่องเลย ยังอยู่ขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่ไม่สมบูรณ์ สอบพยานเพิ่มเติม 2 ปาก ยังไม่ถึงไหน ยังไม่รายงานเลย...และยืนยันว่าการพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในคดีนี้ต้องพิจารณาคำให้การของพยานที่สอบเพิ่มเติมและหลักฐานต่างๆ ที่ฝ่าย ป.ป.ช. ขอจากหน่วยราชการมาให้ครบถ้วนเสียก่อน” จากข่าวนี้ทำให้เห็นว่าคำสั่งของอัยการสูงสุดยังไม่ได้รับการปฏิบัติให้ครบถ้วนเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม

นอกจากนี้ นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. กลับให้ข่าวยืนยันว่าได้มีการประชุม เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 58 มีตัวแทนฝ่าย ป.ป.ช. 10 คน และตัวแทนฝ่ายอัยการสูงสุด 3 คน โดยยืนยันว่าเป็นการประชุมที่สมบูรณ์แล้ว และอ้างว่าที่ประชุมเห็นพ้องกันว่าขณะนี้ข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้น ได้มีการสอบพยานบุคคลและหาพยานหลักฐานต่างๆ จนครบถ้วน สามารถฟ้องคดีได้ จึงมีมติเสนอเรื่องส่งให้อัยการสูงสุดฟ้องต่อไป ซึ่งอัยการสูงสุดฟ้องคดีโดยไม่รับฟังข้อยุติจากคณะทำงานที่ตนแต่งตั้งมาเองได้อย่างไร ซึ่ง นายวุฒิพงศ์ ก็ได้ยืนยันว่าคดีนี้ข้อไม่สมบูรณ์ยังไม่ได้รับการพิจารณาไต่สวนให้คดีมีความสมบูรณ์ และทำไมตนจึงไม่ทราบว่ามีการประชุมครั้งนี้ หากข่าวที่ นายสรรเสริญ ยืนยันเป็นจริง จึงมีคำถามว่า อัยการจำนวน 3 คน ที่ร่วมประชุมถือเป็นตัวแทนอัยการสูงสุดหรือไม่ และมติที่นายสรรเสริญ อ้างนั้นเป็นมติที่ชอบของคณะทำงานชุดใหญ่ที่อัยการสูงสุดแต่งตั้งหรือไม่ เพราะหัวหน้าคณะทำงานยังไม่รับทราบ และยังยืนยันว่าข้อไม่สมบูรณ์ยังไม่ได้รับการปฏิบัติ เช่นนี้ถือได้หรือไม่ว่าการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมที่ไม่ชอบ

“ในฐานะทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดในวันพรุ่งนี้ (23 ม.ค.) เพราะผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้นำของประเทศ จึงควรดำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม และอัยการสูงสุดจำเป็นที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ขององค์กรที่ดำรงมากว่า 100 ปี” นายนรวิชญ์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น