เกาะกระแส
00 ข้อดีของยุคสื่อสารออนไลน์อย่างหนึ่งคือการส่งต่อข่าวสารข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าบางครั้งจะสุ่มเสี่ยงต่อเรื่องการปล่อยข่าวสร้างกระแสบางอย่าง แต่เมื่อหลายครั้งก็ย่อมรู้จักแยกแยะมากขึ้น มีการไตร่ตรองพิจารณามากขึ้น อย่างเรื่องราคาน้ำมัน ราคาพลังงานในภาพรวมที่เวลานี้มีการส่งต่อข้อมูลเรื่องราคาทำให้เห็นภาพเปรียบเทียบอยู่ตลอดเวลา ที่เห็นในเวลานี้ราคาน้ำมันราคาร่วงกันรานวันล่าสุดวันที่ 7 ม.ค.58 ราคารูดลงต่ำกว่า 50 เหรียญสหรัฐฯทำสถิติต่ำสุดในรอบ 6 ปี ทำให้มีการเปรียบเทียบราคาน้ำมันกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลย์ที่ราคาบ้านเขาต่ำกว่าบ้านเราถึงลิตรละเกือบสิบบาท ทำให้ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนในภาคใต้คึกคักขึ้นมาอีก หรือแม้แต่ราคาในต่างประเทศหลายแห่งก็ล้วนแต่ราคาต่ำกว่าเรากันแบบผิดปกติทั้งสิ้น
00 พูดไปก็เสียเวลาเปล่า เพราะฝ่ายรัฐโดยกระทรวงพลังงานก็จะอ้างว่าต้องเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อประกันความเสี่ยงในอนาคต หากมีราคาสูงขึ้นแบบพรวดพราด และอ้างเรื่องกลไกตลาด คำถามก็คือมันจะเก็บกันไปถึงไหน อีกทั้งการบริหารภายในมันเต็มไปด้วยความเร้นลับเปิดเผยครึ่งๆกลางๆ มันเป็นการช่วยเหลือเพิ่มความรวยให้กับบริษัทน้ำมันใช่หรือไม่
00 ขณะเดียวกันถึงตอนนี้ยังมีความพยายามที่จะขึ้นราคาแก๊ซหุงต้มต่อไปอีกทั้งที่ในทางตรงกันข้ามเมื่อราคาในตลาดโลกมันก็ต้องลดราคาลงมา เมื่อโดนตั้งคำถามมากๆจากที่คิดจะเพิ่มก็อาจออกมาในแบบตรึงราคาไว้เท่าเดิมไปชั่วคราวก่อน แล้วก็มาอ้างบุญคุณเอากับชาวบ้านอีกทำนองว่าที่ยังไม่ขึ้นเพราะคำนึงถึงความเดือดร้อน เดี๋ยวจะออกมาประมาณนี้แหละ เพราะ รมว.พลังงาน ณรงค์ชัย อัครเศรณี ได้ประกาศเอาไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ปลายปีก่อนว่ามีจังหวะเมื่อไหร่ก็ต้องปรับราคาโดยอ้างโครงสร้างตามต้นทุนจริง เวร !!
00 สังเกตหรือไม่ว่าตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมาราคาสินค้าประเภทหมวดอาหารได้พาเหรดกันปรับขึ้นราคากันยกใหญ่ ขึ้นราคากันแบบพรวดพราด จาก 30 บาทจขึ้นเป็น 40 บาท จาก 35 ขึ้นเป็น 40-45 บาท เป็นต้น แม่ค้าอ้างว่าต้นทุนก๊าซแพง แค่นี้จบ ก็อยากรู้เหมือนกันว่า รมว.พาณิชย์ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ จะหาทางแก้ไขอย่างไร เพราะนี่มันเดือดร้อนแบบถึงตัวชาวบ้านทุกคน ไอ้ที่บอกว่าราคาแก๊ซที่ปรับขึ้นมามีผลต้นทุนเพิ่มแค่ 6-7 สต.ไม่มีเหตุผลที่ทำให้แม่ค้าปรับเพิ่มราคาสินค้าได้เลย เพราะในความเป็นจริงมันตรงกันข้าม เพราะงานนี้ไม่มีแล้วประเภทลดปริมาณแล้วราคาเท่าเดิม ของจริงคือทั้งปรับลดปริมาณแล้วก็เพิ่มราคาใหม่ ถึงได้บอกว่าเรื่องแบบนี้อย่าชะล่าใจเป็นอันขาด ตราบใดที่ชาวบ้านยังไม่มีรายได้เพิ่ม มีแต่รายจ่ายมันก็น่าเป็นห่วงเหมือนกันสำหรับปีใหม่ของรัฐบาล "ลุงตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา !!
00 น่าจับตากันแบบไม่ต้องกระพริบก็คือความเคลื่อนไหวของชาวสวนยางในภาคใต้ที่กำลังร่ำๆจะออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหากันอีกรอบ ตามรายงานบอกว่าจะขยับกันในช่วงต้นเดือนนี้แหละ และอาการดังกล่าวทางหน่วยข่าวก็รายงานตรงถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาหลายเพลาแล้ว ถึงได้ออกมาเบรกว่าให้ใจเย็นๆ ยืนยันว่าจะดันให้ราคาขึ้นไปถึง 65 บาทต่อกก.เวลานี่ก็ขยับใต่มาถึง 61 บาทต่อกก.แล้วขอให้ทนอีกนิด ก็ไม่รู้ว่าจะทนไหวหรือเปล่า แต่ขอร้องว่าอย่าพูดแบบตัดเยื่อใย ประเภทที่ว่ารัฐบาลช่วยไม่ไหว ไม่มีเงิน แต่รัฐบาลต้องพูดถึงชาวสวนยางให้มากกว่านี้ ลงไปดูแลให้บ่อยกว่านี้ อย่าลืมว่าคนจน คนไม่มีเงินมันหน้ามืดได้ง่ายนะจะบอกให้ !!
00 สังเกตุได้จากอาการเคลื่อนไหวของพลพรรค ปชป.ที่นั่งไม่ติดต้องออกมาแสดงความเห็นจี้ให้รัฐบาลเร่งมือช่วยเหลือชาวสวนยางกันอย่างถี่ยิบ เน้นในเรื่องปากท้องเป็นหลัก ล่าสุด อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ลงพื้นที่ไปพบปะกับชาวสวนที่ตรัง เรียกได้ว่าต้องเกาะติดรับรู้ความเดือดร้อนกันอย่างจริงจัง ขณะเดียวกันก็ให้จับตาดูบทบาทของ "หลวงลุง"พระสุเทพ ปภากโร หรือพระสุเทพ เทือกสุบรรณ จะสามารถห้ามทัพชาวสวนยางได้นานแค่ไหน !!