จุดอ่อนยังอยู่ที่ทีมเศรษฐกิจ !!

เกาะกระแส


00 เปิดศักราชใหม่กันแล้วพี่น้องทั้งหลาย หวังว่าจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ดีกันเสียที สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายก็ขอให้ผ่านพ้นไปกับปีเก่าให้หมด พยายาม"เริ่ม"กันตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไป เชื่อว่าสองสามปีหลังมานี้คนไทยส่วนใหญ่พบเจอกันแต่เรื่อง"หนักหนาสาหัส"มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องปากท้องของแต่ละคน แต่ละครอบครัวนับวันยิ่งชักหน้าไม่ถึงหลัง หนี้สินพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเมื่อจะเริ่มกันใหม่ก็ขอให้ทุกคนเอาตัวรอดกันให้ได้ และที่สำคัญคิดอ่านหาทางแก้ไขกันตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะเมื่อพิจารณาจากแนวโน้มทั้งภายในภายนอกแล้ว ยังยากที่จะผ่านพ้นไปได้ง่ายๆ

00 เมื่อปลายปีที่แล้วได้ยินคำพูดของ รมช.เกษตรฯ อำนวยปะติเส ที่ดูแลในเรื่องสินค้าการเกษตรออกมาระบุว่าในปีหน้า(58) ยังไม่ใช่เป็นปีทองของสินค้าเกษตร ยังไม่ใช่ช่วงขาขึ้น มันก็ทำให้ใจแป้วลงไปอีก เพราะหากราคายังไม่ดีมันก็ต้องเศร้ากันทั้งประเทศ ก็เพราะว่าคนไทยส่วนใหญ่ค่อนประเทศล้วนเป็นเกษตรกร หากราคา ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด หรือสินค้าเกษตรตามฤดูกาลอื่นๆราคาไม่ดีมันก็เหี่ยวเฉากันไปหมด อย่างไรก็ดีหากพิจารณากันตามความเป็นจริง มันก็ต้องเตรียมรับมือกันตั้งแต่ตอนนี้ พิจารณาจากจากปัจจัยภายในภายนอก ประเทศที่เป็นคู่ค้าเป็นตลาดของเรา ไม่ว่าเอเซีย อย่างจีนก็โตได้ไม่เต็มที่ ยุโรปนั้นไม่ต้องพูดถึง ส่วนสหรัฐก็ยังไม่มั่นคง อาจจะดีหน่อยก็คือเพื่อนบ้านในอาเซียนด้วยกัน ดังนั้นโดยรวมๆแล้วแม้ว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะโต แต่ก็คงไม่มากตามคาดหมายนัก สาเหตุสำคัญมาจากเรื่องความบอบช้ำในปีที่ผ่านมามันสาหัส จึงต้องชดเชยกลับไปมากพอสมควร แต่ตราบใดที่เรารีบปรับตัวตั้งรับตั้งแต่ต้น ก็น่าจะดีกว่าปล่อยกันไปตามยะถากรรมนะ !!

00 การขีดเส้นให้บรรดารัฐมนตรีทุกกระทรวงเร่งทำงานเพื่อแสดงผลงานออกมาให้เห็นภายใน 3 เดือนข้างหน้าของ นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สะท้อนความจริงให้เห็นแล้วว่าที่ผ่านมา 3 เดือนยังไม่เวิร์ก เพราะถึงขนาดตัวนายกฯเองยังต้องออกตัวว่ายังไม่พอใจ และที่น่าจับตาก็คือมีการตั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นคนติดตามคอย"ขันน็อต"รมต.แต่ละคน ทำหน้าที่ไม่ต่างจาก"ผู้ช่วยครูใหญ่ฝ่ายปกครอง"ไม่มีผิด ดังนั้นที่ต้องติดตามกันต่อไปก็คือหลังจากครบกำหนดแล้วจะมีการปรับ ครม.ล็อตใหญ่หรือไม่ เพราะหากพิจารณาตามระยะเวลารวมแล้ว 6 เดือนมันก็อาจสมควรแก่เวลาแล้วไม่ใช่หรือ

00 พิจารณาจากอาการความไม่พอใจที่ออกมาจากปากของ "ครูใหญ่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บ่นออกมาในระหว่างแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 3 เดือน มีการใส่อารมณ์ถึงเรื่องความล่าช้าของระบบราชการ ที่ติดขัดซ้ำซ้อนมากมายจนทำให้งานหลายอย่าง การเบิกจ่ายงบมีปัญหาล่าช้า ถ้าเป็นแบบนี้ก็ต้องมุ่งไปที่"ทีมเศรษฐกิจ"ทีนำโดย"หม่อมอุ๋ย"มรว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ รมว.คลัง สมหมายภาษี รมว.เกษตรฯ ปิติพงษ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รวมไปถึง รมว.พาณิชย์ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ที่แม้ว่าตอนแรกอาจอยู่ใน"สายแข็ง"แต่มาถึงตอนนี้อาจชักไม่แน่เสียแหล่ว ก็ต้องลุ้นกันว่าผลงานในรอบสามเดือนนับจากนี้จะเข้าตาหรือเปล่า !!

00 มาว่ากันเรื่องการยกร่างรธน.ที่กำลังจะเป็นรูปเป็นร่างในอีกไม่ช้ากันดีกว่า แม้ว่ายังมีอีกหลายประเด็นที่เสนอกันเข้ามาแบบร้อยแปด ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องรับฟัง ส่วนจะฟังได้หรือไม่ หรือเป็นการเสนอแบบโยนหินถามทางออกมาก่อนหรือเปล่านั้นอีกเรื่อง แต่ทั้งในเรื่องวิธีการือกตั้งแบ่งเขต จำนวน สส.เลือกกันแบบไหน สว.มาแบบไหน ตอนนี้มีเข้ามาเพียบ แต่อย่าเพิ่งตื่นเต้น ขั้นตอนข้างหน้ายังอีกนาน เพียงแต่ว่าต้องตั้งสติเอาไว้ให้มั่นรอเมื่อใกล้วันจริงค่อยเปิดลุยกันให้จริงจัง ยังไม่สาย แต่ที่น่าติดตามก็คือข้อเสนอเรื่อง "นายกฯคนนอก"สอดใส้เข้ามานี่สิ น่าสนุก เพราะนี่อาจเป็นเป้าหมายหลักของ รธน.ฉบับนี้ก็เป็นได้ เพียงแต่ตอนนี้แค่แหย่ๆออกมาก่อน แต่เชื่อเถอะรับรองว่าเมื่อถึงวันจริงประเด็นนี้แหละจะอ่อนไหวที่สุด และดีไม่ดีหากมีการเปิดโปงออกมาให้เห็นภาพว่านี่คือรายการ"หมกเม็ดเพื่อใคร"ถึงตอนนั้นแล้วจะยุ่ง บอกไว้ก่อน ไม่อยากพูดออกไปก่อน เดี๋ยวโมโหกันอีก !!