ผ่าประเด็นร้อน
แน่นอนว่าปีใหม่ ความหวังใหม่ ย่อมเกิดขึ้นในใจแทบทุกคน ส่วนใหญ่ยังหวังว่าปีใหม่ปีนี้จะต้องดีกว่าเก่า ซึ่งเชื่อว่านั่นเป็นความคิดของคนไทย และยังเชื่อว่าไม่มีข้อยกเว้นกับนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วย เพราะที่ผ่านมาหากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าระหว่างการแถลงผลงานรัฐบาลครบรอบ 3 เดือน เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมายังยอมรับออกมาเลยว่า"ยังไม่พอใจ"นัก โดยมีการกำชับให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงเร่งสร้างผลงานให้เป็นรูปธรรมภายในอีก 3 เดือนข้างหน้า
นั่นก็หมายความว่าทุกคนย่อมมีความหวังใหม่กันทั้งสิ้น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะหากยังมีความหวังนั่นก็ย่อมหมายถึงเกิดแรงกระตุ้นเพื่อเดินไปสู่เป้าหมายตามความหวังของแต่ละคนนั่นเอง
อย่างไรก็ดีความหวังความฝัน มันอาจตรงข้ามกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นก็เป็นได้ อย่างเช่นกรณีความคาดหวังในเรื่องเศรษฐกิจในปีหน้าที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยคาดหวังว่าจะโตเกินร้อยละ 4.5 แต่เมื่อพิจารณาจากความเป็นจริงที่สะท้อนออกมาต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาก็ยังถือว่ายังหนักหนาสาหัสไม่ใช่เล่น เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
ต้องยอมรับว่าปีที่ผ่านมาตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยต่ำกว่าเป้า ตัวเลขการส่งออกเดือนพฤศจิกายนที่เพิ่งเปิดเผยออกมาจากกรมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ก็ระบุว่าติดลบร้อยละ 1 ทำให้ยอดรวมการส่งออกทั้ง 11 เดือนที่ผ่านมาติดลบร้อยละ 0.42 ดังนั้นความหวังอยู่ที่การส่งออกในเดือนธันวาคมที่ต้องทำยอดให้ได้ถึง 1.93 หมื่นล้านเหรียญขึ้นไป ถึงจะดึงให้ตัวเลขทั้งปีเป็นบวกขึ้นมาได้ ซึ่งพิจารณาจากแนวโน้มแล้วมันเป็นเรื่องยาก
จากตัวเลขการส่งออกเป็นรายประเทศและทวีปที่เป็นตลาดของเราจะพบว่าแทบทุกประเทศลดลงหมด โดยในเดือน พ.ย. 2557 ตลาดญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 10.7 สหภาพยุโรปลดลงร้อยละ 5.2 แต่สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 ขณะที่ตลาดอาเซียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จีนลดลงร้อยละ18.7 ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะลดลงมากขนาดนี้ อินเดียลดลงร้อยละ 0.1 ตะวันออกกลางลดลงร้อยละ 7.5 ละตินอเมริกาลดลงร้อยละ15.4 รัสเซีย และ CIS ลดลงร้อยละ 14.6
นี่คือข่าวร้ายที่สะท้อนแนวโน้มในปีหน้าว่าจะออกมาแบบไหน โดยเฉพาะหากพิจารณาการส่งออก และการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของประเทศ ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากทิศทางการส่งออกสินค้าเกษตรตัวหลักทุกรายการที่อาจยกเว้นข้าวที่ปีที่แล้วเป็นบวก เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้เคยสูญเสียตลาดในช่วงมีโครงการรับจำนำข้าวเพิ่งกลับมาเป็นบวก แต่ส่วนใหญ่หรือแทบทั้งหมดติดลบหมด นั่นก็ย่อมทำให้ปีหน้ายังไม่สดใส และย่อมส่งผลต่อรายได้ของเกษตรกรที่เป็นคนส่วนใหญ่เกือบทั้งประเทศต้องหน้าแห้งกันต่อไป
เมื่อรายได้เกษตรกรลดลงเรื่อยๆก็ย่อมมีต่อเรื่องปัญหาปากท้องของชาวบ้าน ที่ทุกคนย่อมสัมผัสได้ไม่ยาก และยิ่งมีเสียงยืนยันจากปากของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ณรงค์ชัย อัครเศรณี ที่ส่งสัญญาณชัดมาแล้วว่าจะมีการปรับราคาก๊าซหุงต้มในภาคขนส่งและครัวเรือนหลังปีใหม่ โดยอ้างกลไกการตลาดมันก็ยิ่งเสียงสยองมากขึ้นอีกหลายเท่า
อย่างไรก็ดีก็ได้แต่หวังว่าด้วยความมุ่งมั่น และความทุ่มเทเสียสละแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เสียสละความเป็นส่วนตัวเสี่ยงชีวิตลงมาควบคุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จอยู่ในเวลานี้พร้อมๆกับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆคงจะนำพาฝ่าฟันกันไปได้ในปีหน้า หวังว่าทำให้เศรษฐกิจ และเรื่องปากท้องของชาวบ้านหน้าใสไปได้ ขอให้ทุกอย่างราบรื่น มาตรการในการเบิกจ่ายเงินประมาณในกาาอัดฉีดเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วตามเป้าหมาย ไม่สะดุด สาธุ เพราะมันหมายถึงศรัทธาที่มีต่อตัวผู้นำอีกด้วย !!
