ผ่าประเด็นร้อน
จะเรียกว่า “ป๋าเปรม” มาได้เวลาพอดีจริงๆ ก็คงไม่ผิดนัก สำหรับการให้พรให้กำลังใจจากปากของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ระหว่างที่ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำคณะรัฐมนตรี และคณะ คสช. เข้าคารวะอวยพรและขอพรปีใหม่ที่บ้านสี่เสา เทเวศร์ เมื่อเช้าวันที่ 29 ธันวาคม ที่ผ่านมา
“ผมได้พูดกับนายกฯ ลุงตู่เป็นการส่วนตัวว่า เราออกมาแล้วเราคงจะถอยไม่ได้จะต้อง เดินหน้าไปอย่างองอาจและกล้าหาญ เดินหน้าไปอย่างสุภาพบุรุษ และเดินไปข้างหน้าอย่างที่เป็นคนไทยโดยสายเลือด และต้องเดินหน้าไปเพื่อลูกหลานของเรา อีกทั้งเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะแสดงให้เห็นว่าพวกเราจะไม่ทอดทิ้งพี่น้องของเราให้ทุกยากลำบากได้ ผมรู้ว่าทักคนเหนื่อย และเหนื่อยด้วยกันทั้งนั้น แต่ทุกคนเหนื่อยเพื่อชาติ เพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และคนไทยทุกคน สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้เราหายเหนื่อย และมีกำลังใจที่จะต่อสู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ผมใคร่ขอให้พี่น้องทหารเหล่าทัพต่างๆ ช่วยเป็นกำลังใจกับท่านนายกฯ และคณะรัฐบาล ที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ฉะนั้น เราจึงเป็นมิตรกัน และเป็นเพื่อนร่วมตายกัน ก็ต้องช่วยดูแลซึ่งกันและกัน”
และถัดมาก็เป็นวรรคทองที่ว่า “ในวันที่ 22 พฤษภาคม ถือเป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่ เป็นการตอบแทนบุญคุณชาติบ้านเมือง แสดงความจงรักภักดีที่ยิ่งใหญ่มาก คิดว่าคนไทยส่วนใหญ่เขาจะเห็นด้วย และพอใจ ภูมิใจในการกระทำของนายกฯ ลุงตู่”
ต้องบอกว่าทั้งสองประโยคที่ต่อเนื่องกันของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้เน้นๆ เนื้อๆ ส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยตรงแบบนี้ ไม่ว่าใครรับรองเป็นต้องหัวใจคับอกพองโตอย่างยิ่ง เป็นการใช้คำพูดที่เป็นกันเอง สนิทสนมชื่นชมเป็นการส่วนตัว และที่สำคัญนับจากนี้ถือว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำหรับอนาคตของเขา รวมทั้งอนาคตรัฐบาลรวมไปถึงอนาคตของการปฏิรูปอีกด้วย
แน่นอนว่านับจากนี้ไปรับรู้กันอยู่แล้วว่ารัฐบาลจะต้องเจอกับแรงเสียดทานที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาเศรษฐกิจที่ในปีนี้จะคาดหมายกันว่าจะต้องดีกว่าปีก่อน แต่มันไม่หมูเมื่อพิจารณาจากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจในต่างประเทศที่เป็นตลาดการส่งออกหลักของเรา ที่สำคัญยังมีเรื่องราคาสินค้าเกษตรตัวหลักๆ ทั้งข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง และข้าวโพด เป็นต้น ราคาในปีนี้มีการระบุออกมาแล้วว่า “ยังไม่ใช่ยุคทอง” นั่นก็หมายความว่าราคายังไม่ดีนัก เมื่อราคาไม่ดีมันก็ย่อมส่งผลไปถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวไร่ชาวนา ชาวสวน ว่าจะต้องจนกรอบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความเป็นอยู่ของพี่น้องพวกนี้แหละที่เป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างบรรยากาศให้คึกคักตามมา แต่หากไม่ดี หรือดีขึ้นไม่มากมันก็เสี่ยงต่อความตึงเครียด และเรื่องนี้แหละสำคัญอาจจะเรียกว่าสำคัญที่สุดด้วยซ้ำไป
ถัดมาก็มาถึงเรื่องวาระปฏิรูป ที่กำลังมาถึงจุดสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่เวลานี้กำลังมีการสรุปความเห็นเสนอเข้ามาจากหลายสาย หลายองค์กร เพื่อให้คณะกรรมาธิการยกร่างฯได่พิจารณาตัดสินใจบรรจุในฉบับใหม่ โดยจะมีการยกร่างรายมาตรากันตั้งแต่หลังปีใหม่ ในช่วงวันทำการเป็นต้นไป เรียกว่าบรรยากาศในตอนนั้นจะต้องเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ส่วนจะถึงขั้น"ตึงเครียด"หรือไม่มันก็น่าติดตามเหมือนกัน หากมีบางประเด็นที่อ่อนไหว “หมกเม็ด” เข้ามา
นี่เป็นการชี้ให้เห็นในภาพรวมๆ ยังไม่ได้ชี้ให้เห็นถึงประเด็นในรัฐธรรมนูญที่มีการ “โยนหินถาม” กันเข้ามา ยกตัวอย่างให้ก็ได้เช่น ประเด็นเปิดกว้างให้นายกฯมาจากคนนอก เป็นต้น ที่น่าจะอ่อนไหว ส่วนจะอ่อนไหวมากหรือไม่ยังไม่รู้
เมื่อพิจารณาจากสาเหตุความเป็นมาและคาดว่าจะต่อเนื่องไปถึงอนาคตอีกไม่นานข้างหน้า ก็ต้องยอมรับว่าน่าห่วงเหมือนกัน แต่นาทีนี้เมื่อ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ถึงกับออกปากเรียกร้องให้คนไทย ให้กองทัพช่วยกันโอบอุ้มสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำงานสำคัญให้สำเร็จ มันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี มีกำลังใจที่จะเดินหน้าฝ่าฟันไปให้ได้ ซึ่งมาได้ถูกจังหวะเวลาจริงๆ !!