“นายพลไก่อู” เผยหลังถก ครม. หน่วยเกี่ยวข้องบูรณาการแผนกันอุบัติเหตุปีใหม่ เข้มความปลอดภัยเดินทาง เพิ่มขนส่งสาธารณะ จัด 5 มาตรการลดอุบัติเหตุ เว้นค่าทางด่วน เปิดสายด่วน 24 ชม. ปรับค่ารักษาเหยื่ออุบัติเหตุเป็น 3 หมื่น วางมาตรการสั้น-กลาง-ยาว แก้ไกด์เถื่อน เร่งเพิ่มทักษะภาษาไกด์ไทย แจง รมต.ทยอยส่งของขวัญปีใหม่ กห. ชูเติมความสุขจากใจทหาร ไอซีทีจัดเอ็กซ์โปแกรนด์เซล
วันนี้ (23 ธ.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแผนอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม รวมถึงสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้บูรณาการเสนอแผนอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยประชาชน ภายใต้ชื่อการรณรงค์ว่า “มอบความสุขทั่วไทย สัญจรปีใหม่ ปลอดภัยทุกคน” เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 57 ถึง 5 ม.ค. 58 โดยมีมาตรการ คือ เพิ่มบริการขนส่งสาธารณะทุกประเภท ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงบริษัทการบินไทย พร้อมทั้งจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในสถานีขนส่งต่างๆ
พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านทางพิเศษมอเตอร์เวย์สายตะวันออก, ถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตก, ทางพิเศษบูรพาวิถี สายบางนา-ชลบุรี, ทางยกระดับด้านทิศใต้ของสนามบินสุวรรณภูมิ เชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี และทางเชื่อมต่อถนนกาญจนาภิเษก บางพลี-สุขสวัสดิ์ ตั้งแต่เวลา 16.00 น.ของวันที่ 26 ธ.ค. 57 ถึงเวลา 00.00 น.ของวันที่ 4 ม.ค. 58 นอกจากนี้จะมีการซ่อมแซมสัญญาณจราจร ป้ายจราจร ป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยง แสงไฟ มีการประสานการคืนผิวจราจร และให้งดการก่อสร้างหรือบำรุงเส้นทางในช่วงวันหยุด
พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อว่า มีการจัดให้มีศูนย์ประสานการปฏิบัติของหน่วยงานเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งหมดเข้าด้วยกัน มีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ จัดตั้งหน่วยบริการประชาชน ประสานส่วนราชการท้องถิ่นพิจารณาจัดตั้งจุดตรวจในจุดเสี่ยง ขอความร่วมมือวิทยาลัยอาชีวะช่วยปรับสภาพสิ่งแวดล้อมข้างทางให้เกิดความปลอดภัย และขอความร่วมมือสมาคมรถบรรทุกขนส่งสินค้าทุกประเภทให้หลีกเลี่ยงการใช้รถบรรทุกช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจร และลดการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง พร้อมมีสายด่วนหมายเลข 1356 ตลอด 24 ชั่วโมง
พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการในการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนมี 5 มาตรการด้วยกัน ได้แก่ 1. มาตรการด้านบริหารจัดการ 2. มาตรการด้านถนน ให้สัญจรอย่างปลอดภัย 3. มาตรการด้านยานพาหนะที่ปลอดภัย 4. มาตรการผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย และ 5. มาตรการตอบสนองหลังเกิดอุบัติเหตุ โดยมีการตรวจรถสาธารณะ พนักงาน คนขับรถ ให้มีความพร้อม ขณะที่มีการเน้นมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาโดยใช้หลักการบูรณาการ คือ อยู่พื้นที่ไหนให้รับผิดชอบพื้นที่นั้นแบบเบ็ดเสร็จ โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายตำรวจ ทหาร และพลเรือนร่วมกัน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหลักในการประสานงาน และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นในการจำหน่ายและการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
พล.ต.สรรเสริญกล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ครม.ฝากถึงประชาชนว่า มาตรการดังกล่าวคงได้ผลระดับหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่ประชาชนต้องช่วยกัน ต้องมีการวางแผนความพร้อมของร่างกายและยานพาหนะ หากดื่มแอลกอฮอล์ไม่ควรขับขี่
พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงที่กำหนดให้ความเสียหายที่ได้รับจากกรณีการเกิดอุบัติเหตุจาก ตามที่กระทรวงการคลังนำเสนอ โดยให้แก้ไขปรับปรุงวงเงินค่ารักษาพยาบาลของผู้ประสบภัยจากรถ ในส่วนค่าเสียหายเบื้องต้น จากเดิมที่เคยเสนอไว้ไม่เกิน 15,000 บาท ปรับเพิ่มเป็นไม่เกิน 30,000 บาทต่อราย และค่าเสียหายโดยรวมไม่เกิน 65,000 บาท เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยมีผลบังคับใช้ในช่วงระหว่างวันที่ 26 ธ.ค. 57 ถึงวันที่ 5 ม.ค. 58
ทั้งนี้ กรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เมื่อผู้บาดเจ็บเมื่อไปรักษาที่โรงพยาบาลไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทางโรงพยาบาลจะเรียกเก็บจากกองทุนคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ในกรณีที่ค่ารักษามากกว่า 30,000 บาท โรงพยาบาลจะเรียกเก็บจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
พล.ต.สรรเสริญยังเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบแก้ไขปัญหามัคคุเทศก์ เนื่องมีการร้องเรียนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กรณีมีมัคคุเทศก์ต่างชาติลักลอบเข้ามาประกอบอาชีพในประเทศไทย มีความผิดตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ ปี 2551 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งให้จัดระเบียบมัคคุเทศก์ให้เสร็จภายในวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา และให้รายงานผลให้ทราบ โดยให้ใช้ลักษณะเดียวกับการขึ้นทะเบียนแรงงาน
ทั้งนี้ การลักลอบเข้ามาของมัคคุเทศก์ต่างชาติมี 2 รูปแบบ คือ 1. เริ่มเข้ามากับบริษัททัวร์ต่างชาติ และเมื่อเข้ามาแล้วได้มีการศึกษาข้อมูลจากมัคคุเทศก์ชาวไทย และมีการสร้างเครือข่ายกับบริษัททัวร์ในไทยจากนั้นก็ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ 2. เป็นนักศึกษาที่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาจากจีนที่เข้ามาศึกษาในไทย และมีข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหารในไทย จึงทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อมัคคุเทศก์ 2 ส่วน คือ มัคคุเทศก์ไทยมีทักษะการใช้ภาษาสื่อสารเทียบเท่ามัคคุเทศก์ต่างชาติไม่ได้ จึงส่งผลให้ทัวร์นิยมไปใช้บริการมัคคุเทศก์จากต่างชาติ และปัญหาอีกส่วนนั้น ถือเป็นการส่งผลกระทบกับภาพรวมประเทศ เนื่องจากมัคคุเทศก์ต่างชาติขาดความเข้าใจในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศไทย ซึ่งในการบรรยายให้ความรู้ในสถานที่ประวัติศาสตร์บางแห่งอาจสร้างความบิดเบือน
พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงกำหนดมาตรการขึ้นมาทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว โดยมาตรการระยะสั้นกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ต้องมีใบสั่งงานมัคคุเทศก์ และตั้งจุดตรวจสอบใบสั่งงานตั้งแต่ต้นทาง คือ ทุกท่าอากาศยานที่ทัวร์จะมาลงว่ามัคคุเทศก์มีใบสั่งงานหรือไม่ อีกทั้งกำหนดให้มัคคุเทศก์ของไทยมารายงานตัวตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.ถึงวันที่ 9 ธ.ค ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ในช่วงที่การท่องเที่ยวได้รับความนิยม มัคคุเทศก์จึงไม่มีเวลามาลงทะเบียน จึงขยายระเวลาลงทะเบียนเพิ่มโดยยังไม่กำหนดว่าจะสิ้นสุดเมื่อไร นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานต่างออกสุ่มตรวจตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆว่ามัคคุเทศก์ที่ทำหน้าที่นั้นได้ลงทะเบียนหรือไม่
ส่วนมาตรการระยะกลาง จะทำหลักสูตรมัคคุเทศก์ของไทยให้มีคุณภาพ อาทิ การตั้งคณะกรรมการเพื่อทดสอบการใช้ภาษาต่างประเทศ รวมถึงประสานกับผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อนำมัคคุเทศก์ที่ไม่ได้ปฏิบัติงานออกร่วมกับคณะทัวร์เพื่อร่วมสังเกตการณ์เพื่อเป็นประสบการณ์ ขณะที่มาตรการระยะยาวนั้น จะปรับปรุง พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ปี 2551 ให้มีความเหมาะสมต่อสถานการณ์ เพื่อสร้างเครือข่ายโดยเชิญผู้แทนผู้ประกอบการภาคเอกชนแต่ละจังหวัดมาร่วมหาแนวทาง อย่างไรก็ตาม นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ในช่วงที่กำลังเราผลิตมัคคุเทศก์ไทยให้มีศักยภาพนั้น ไม่สามารถใช้ระยะเวลาสั้นๆได้ จึงเสนอให้มีมัคคุเทศก์ไทย ทำงานงานร่วมกับมัคคุเทศก์ต่างชาติที่มีทักษะด้านภาษา เพื่อเป็นประสบการณ์และเพิ่มทักษะภาษาให้กับกับมัคคุเทศก์ไทย รวมถึงมัคคุเทศก์ก็จะสามารถบรรยายด่านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมได้อย่างถูกต้อง
รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า แต่ละกระทรวงได้นำของขวัญปีใหม่ให้ที่ประชุม ครม.ทราบ อาทิ กระทรวงกลาโหม เสนอการจัดกิจกรรม “เติมความสุขให้คนไทย จากใจทหาร” มี 51 แผนงาน ด้านการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การช่วยเหลือประชาชนพัฒนาอาชีพ และการให้บริการต่างๆแก่ประชาชน เช่น โครงการมอบผ้าห่มกันภัยหนาว จัดตั้งหน่วยบรรเทาสารธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว ตั้งศูนย์บริการช่วยเหลือประชาชน จัดจุดพักรถช่วงเทศกาลปีใหม่ และเปิดแหล่งท่องเที่ยวและพิพิธพันธ์ทหารโดยไม่คิดค่าบริการ
ส่วนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอ “ของขวัญปีใหม่จากใจ ทส.” โดยแบ่งกิจกรรมเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1. ของขวัญปีใหม่ตามนโยบายรัฐบาล ที่ประชาชนจะได้รับผลประโยชน์ในระยะยาว เช่น การแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง นโยบายจัดที่ดินให้ราษฎรผู้ไร้ที่ดินทำกิน เป็นต้น และ 2. ของชำร่วยปีใหม่ แถมให้ประชาชน เช่น การเปิดให้เข้าเยี่ยมชม ใช้บริการ และร่วมกิจกรรมการส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค. 57 ถึง 13 ม.ค. 58
ด้านกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เสนอจัดงาน ไอซีทีเอ็กซ์โปแกรนด์เซล 2015 ระหว่าง ม.ค.-ก.พ. 58 มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยีไวไฟโดยไม่คิดว่าใช้จ่าย ขณะที่กระทรวงมหาดไทยเสนอโครงการติดต่อราชการทันใจไม่ต้องใช้สำเนาบัตรประชาชน โครงการโอทอปทั่วไทย ส่งความสุขปีใหม่ สร้างรายได้ขยายตลาดสู่อาเซียน โครงการมอบความสุขทั่วไทย สัญจรปีใหม่ ปลอดภัยทุกคน
ส่วนสำนักพระพุทธศาสนา เสนอโครงการสวดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2558 ให้ทุกวัดในไทยและต่างประเทศจัดให้มีสมาทานศีล ฟังพระธรรมเทศนา สวดมนต์ และเจริญจิตภาวนาข้ามปีในวันที่ 31 ธ.ค. 57 และให้มีพิธีทำบุญตักบาตรวันที่ 1 ม.ค. 58